เริ่มลงทุนอสังหาฯ ฉบับคนเงินเดือน 15,000 เอาความมั่นใจถึงกล้าทำ
เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ได้รับความนิยมสำหรับนักลงทุนขนาดเล็ก และนักลงทุนรายใหญ่ สำหรับ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่มักปรับตัวตามอัตรา การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่า บ้าน คอนโด หอพัก ให้เช่าพื้นที่หน้าบ้าน หรือ เพื่อเก็งกำไรด้วยการซื้อมา ขายไป การซื้อขายที่ดิน หลายคนให้ความสนใจและกำลังศึกษา
ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก Mmai Mai Mai ได้โพสต์แชร์วิธีการเริ่มลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ฉบับแบบคนเงินเดือน 15,000 บาท กู้ซื้อบ้านปล่อยเช่าและขายเอากระแสเงินสดแทนการเก็บออมเงิน 1 ปีได้กำไร 500,000 บาท โดยได้โพสต์ระบุว่า…
วันนี้ขอมาแชร์วิธีการเริ่มลงทุนอสังหาฯ ของคนเงินเดือน 15,000 บาท/ เดือน
กู้ซื้อบ้านปล่อยเช่าและขายเอากระแสเงินสดแทนการเก็บออมเงิน 1 ปีได้กำไร 500,000 บาทมาดูกันว่าเริ่มต้นยังไงค่ะ ในแบบฉบับของตัวเองนะคะ ตอนนั้นยังเด็กมากการหาข้อมูลจะไม่เยอะเท่าปัจจุบันใครมีไอเดียแชร์กันได้นะคะ
เงินเดือน 15,000 เอาความมั่นใจอะไรมาทำ https://fb.watch/j-FZHNdzLN/?mibextid=v7YzmG ไม่เจียมตัว เงินเดือน 15,000 เริ่มทำอสังหา ปล่อยเช่าบ้าน 3 หลัง คำถามที่ได้ยินซ้ำๆ มาหลายปี
เอาความกล้ามาจากไหนวิเคราะห์ความเสี่ยงหรือเปล่า จะไปรอดหรอ เรื่องจริงหรือคอนเทนต์? https://fb.watch/j-FV9VWx8j/?mibextid=v7YzmG
ตอนยื่นกู้ซื้อบ้านอายุ22- 23 ปี เงินเดือน 15,000 บาท/เดือน ทำงานโรงงานค่ะ ที่ระยองค่ะ มีภาระส่งทางบ้านเดือนล่ะ 8,000 บาท/เดือน ถ้าหากต้องเก็บออมต่อเดือนค่อยข้างจะยากเลยเลือกการลงทุนที่ใช้ ความอดทนแทนค่ะ
เส้นทางค่ะ ยาวมากตั้งแต่ปี 2562 https://www.facebook.com/100001147252813/posts/6115810655133782/?mibextid=cr9u03
ใหม่ตั้งใจวางแผนซื้อบ้านเอื้ออาทรตอนปี
2559 ตอนนั้นมาฝึกงาน (เพราะรู้ตัวแล้วว่าชอยอสังหาอยากลอง แต่ก็รู้ว่าเงินเดือนเริ่มต้นทำงานคงยังไม่เยอะคงซื้อได้ราวๆไม่เกิน 1.1 ล้านบาทที่ไม่เครียดมาก )
ปี 2560 เรียนจบ ยังกู้ไม่ได้เพิ่งทำงานอดทน รอ 1 ปี พอครบ 1 ปี เอารายได้ของเรามาประเมินความเสี่ยงว่ารับความเสี่ยงจากการปล่อยเช่าบ้านได้เท่าไหร่ ในกรณีเกิดปัญหาต่างๆ ควรมีทุนสำรองเท่าไหร่พอวิเคราะห์เสร็จก็เตรียมตัวค่ะ
ปี 2561ทำงานครบ1 ปีใหม่กู้ได้แล้ว ก็ เป็นจังหวะที่พี่ที่โรงงาน ชื่อพี่บี มาเล่าให้ฟังว่ามีเอื้ออาทรหลุดจองมาถือเป็นคนชี้ทาง สว่างให้เราเลย
หลังจากนั้นก็วิเคราะห์ ทำเล ปัจจัย คำนวนเงินเฟ้อเทียบดอกเบี้ย หาจุดคุ้มทุน หลักๆใช้หลักการง่ายๆเลยคือแบกรับความเสี่ยงได้ไม่เกิน 50% ของรายได้ เมื่อวิเคราะห์ ข้อมูลครบถ้วนเท่าที่ความสามารถ ณ ตอนนั้นทำได้
ก็เลยเริ่มยื่นกู้บ้านครั้งแรกเป็นเอื้ออาทร 2 หลัง บ้านโครงการจัดสรร 1 หลัง พร้อมกันทั้งหมด 3 หลัง (เอื้ออาทรหลังที่ 1 เราจองสิทธิ์ปกติ หลังที่ 2 ซื้อสิทธิ์ต่อจากคนที่กู้ไม่ผ่าน )
เริ่มเตรียมเอกสารกู้ โดยการเข้าไปอ่านpantipและไปปรึกษาธนาคารวิเคราะห์รายได้ให้ช่วยคำนวนให้ว่าเราสามารถกู้ได้วงเงินเท่าไหร่ โดยยื่น ธนาคาร 3 แห่ง หลังล่ะ 1 แห่ง โดยยื่น 1.ธนาคารสีฟ้า 2.ธนาคารสีชมพู 3.ธนาคารสีส้มธนาคารอนุมัตินัดโอนทั้ง 3 หลังในเดือนเดียวกันโดยเราโอนช่วง ธค 2562
*** ตรงนี้คือจุดที่ทำให้เราได้กำไร เยอะมากๆ เพราะ 1.สีฟ้าให้ดอกเบี้ยปีแรก 1.25%(กู้ 700,000(1ปีคำนวนไว้เงินต้นจะหายไป57,431.21 บาทเราคำนวนจากใบแจ้งดอกเบี้ยประจำปีนะคะ) 2.สีส้มชมพู ให้ดอกเบี้ย 2.7% กู้644,000(1ปีคำนวนไว้เงินต้นจะหายไป54,600บาท )จำของออมสินไม่ได้เป๊ะๆเดี่ยวจะไปหาเอกสารสรุปดอกเบี้ยมาก่อนนะคั 3.สีส้มเราใช้สิทธิ์สวัสดิการขายก่อน 5ปีโดนเบี้ยปรับ 5%เลยยังไม่ขายค่ะ (ขอไม่นำมาคิดนะคะ)
หลังจากโอนบ้านเสร็จก็ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน เพราะตั้งใจว่าครบ 1 ปีจะขาย เราเอาชื่อเข้าหลังที่จะเสียภาษีมากสุด ได้แค่ 1 หลังนะคะ อีกหลังเรายอมเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่ะ(ความตั้งใจคือครบ 1 ปีจะขาย 2 หลังก่อน)
ต่อมาเราก็ทำการ ขอน้ำ ไฟฟ้า และเทพื้นรอบบ้าน อันนี้ช่วยกันทำกับพ่อแม่และแฟน ต้นทุนค่าของ 2 หลัง เราหมดไป 17,000 บาท ค่ามิเตอร์ประปาแพงค่ะ
หลังจากนั้นเราก็โพสปล่อยเช่า ทั้ง 2 หลัง เก็บค่าเช่าได้ 4500 บาท/หลัง ไม่มีแอร์ ไม่มีเฟอร์นิเจอนะคะ เราอยากประหยัดที่สุด และไม่ต้องการเพิ่มต้นทุนจ้า
หลังจากปล่อยเช่าครบ 1 ปีก็เตรียมตัวขายค่ะ
เริ่มทำการบ้านต่อโดยโทรไปเช็คโครงการมาแล้วว่า ใกล้ปิดโครงการแล้ว ล่ะ แสดงว่าโครงการนี้จะไม่มีราคาเปิดโครงการออกมาขายแล้วแน่นอน เราก็เตรียมตัวตั้งราคา สืบราคา
โดยเราตั้งราคาขาย เช็คราคาขาย จากfacebook/internet/และในกลุ่มหมู่บ้านว่าพี่ๆส่วนมากซื้อกันมาราคาเท่าไหรา เขากู้กันเท่าไหร่ ราคาประเมินทรัพย์ใกล้เคียงได้ราคาเท่าไหร่ หลังจากข้อมูลครบถ้วนแล้วโพสขายค่ะ
ภายใน 1 วันมีคนทักมาติดต่อซื้อ 127 คนจำได้คือโพสขายแล้วตอบแชทจนป่วย
แต่ยังไม่จบนะคะ หลังจากได้คนซื้อแล้วเราก็ให้เขายื่นสินเชื่อเองค่ะ เนื่องจากตอนนั้นเราทุนน้อย เรายึดติดว่าต้องกู้ ธนาคารสีส้ม หรือธนาคารที่รัฐดูแลอยู่ถึงจะได้ดอกเบี้ยถูกๆ และเงื่อนไขคนกู้ไปได้ไม่กี่ธนาคาร ทำให้เราต้องรอเขายื่นกู้ จนกู้ผ่านใช้เวลาเกือบ 3 เดือน ประสบการณ์มากค่ะ
หลังจากยื่นกู้เสร็จ เราก็นัดโอนที่กรมที่ดินค่ะ ลืมแจ้งเราขาย 890,000 นะคะ
หลังที่ 1 ยอดหนี้เหลือ642,568.79 ได้ค่าเวนคืนประกัน 5000 บาท เหลือกำไร 252,431.21 บาท
ค่าภาษีออกคนล่ะครึ่งประมาณ 5,000 กว่าบาท
*หลังนี้เรามีซื้อในทะเบียนบ้าน
** หลังนี้ไม่โดนเบี้ยปรับธนาคารค่ะ
หลังที่ 2 ยอดหนี้เหลือ589,400 ได้ค่าเวนคืนประกัน 11,000 บาท เหลือกำไร 311,600บาท
ค่าภาษีออกคนล่ะครึ่งประมาณ 18,000กว่าบาท
*หลังนี้เรา*ไม่มีซื้อในทะเบียนบ้าน
** หลังนี้โดนเบี้ยปรับธนาคาร 2%จากยอดหนี้คงเหลือ
สรุปกำไรคราวๆ
หลังที่ 1 กำไร 252,431.21 บาท
หลังที่ 2 กำไร 311,600 บาท
= 564,031.21 ยังไม่หักค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายส่วนแรก 17,000 บาท
ค่าภาษี 5000+18000=23,000บาท
ค่าเบี้ยปรับออมสิน 11,780 บาท
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด51,780 บาท
เหลือกำไรแท้จริง ราวๆ 512,251.21 บาท
**ใหม่มาซื้อตอนช่วง 2560-2561 และขายออกปี 2562 ราคาบ้านมันก็ปรับขึ้นตามเศรษฐกิจ ปกติ ใหม่อาศัยอดทนรอจังหวะ
ใครอยากดูเส้นทางการเริ่มต้น นี้เลยค่ะ https://www.facebook.com/100001147252813/posts/6115810655133782/?mibextid=cr9u03
สุดท้าย เรื่องนี้สอนใหม่ให้รู้โอกาสไม่มีทางวิ่งหาเรา เราต้องสร้างโอกาสขึ้นมาให้กับตัวเอง
ปล. เส้นทางวันที่ เป๊ะๆ ขอไปหาเอกสารก่อนนะคะ
เป็นกำลังใจให้ ทุกคนค่ะ การลงทุนควรเริ่มจากเท่าที่เราไหวและทำได้โดนไม่รบกวนใครหรือกระทบการใช้ชีวิตของเรามันจะไม่เครียดและมีความสุขเวลาได้เห็นผลลัพธ์จากการลงทุนค่ะ
เป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ฉบับแบบคนเงินเดือน 15,000 บาท กู้ซื้อบ้านปล่อยเช่าและขายเอากระแสเงินสดแทนการเก็บออมเงิน 1 ปีได้กำไร 500,000 บาท เก่งมากๆ ใครอยากลองลงทุน ต้องศึกษาให้ดีก่อน ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mmai Mai Mai
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น