สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  มะระผักที่มีประโยชน์มาก แต่มีรสขม จึงทำให้สาวๆหลายคนไม่นิยมที่จะรับประทานกัน วันนี้ GangBeauty มีเคล็ดลับการแก้ขมมะระมาฝากสาว ถึง 5 วิธีเลยค่ะ รับรองว่าจะทำเมนูในของมะระก็ไม่ขมแน่นอน จะมีวิธีแก้ขมมะระแบบไหนบ้างนั้น สาวๆ ตามมาดูกันได้เลยค่ะ 1. เลือกมะระ  มะระก็เหมือนผักผลไม้ทั่วไปที่บางครั้งก็ต้องสุ่มดวงให้เจอลูกที่ไม่ขมมาก โดยหลักการการเลือกมะระให้ได้ลูกอร่อยนั้นก็ง่ายๆ ให้สังเกตดูผิวพรรณของมันก่อน ให้เลือกลูกอวบหน่อย รูปร่างตรง ไม่งอ ผิวออกสีเขียวอ่อน ริ้วไม่ถี่ มีความห่างและใหญ่ จับดูแล้วต้องเนื้อแข็งปั๋ง ไม่นิ่ม เพราะถ้านิ่มคือมะระแก่ จะขมมาก 2. คลุกเกลือ   หลังจากหั่นมะระเป็นแว่น หรือเป็นชิ้นเรียบร้อย ให้ใช้เกลือสัก 2 ช้อนโรยไปให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นทิ้งไว้สัก 10 นาทีแล้วล้างออก ตั้งน้ำให้เดือด นำมะระไปลวก แล้วค่อยนำไปปรุงอาหารต่อไป 3. เมนูผัด  สำหรับใครที่นิยมนำไปผัดทาน ก่อนนำไปผัดให้ต้มน้ำจนเดือด เติมเกลือลงไป จากนั้นนำมะระที่หั่นพร้อมผัดไปลวกจนกว่าจะเป็นสีเขียวเข้มแล้วให้รีบตักไปแช่น้ำเย็นจัด ก่อนไปผัดก็สะเด็ดน้ำให้เรียบร้อย จะได้มะระที่ไม่ขม แถมยังกรอบอร่อย สีสวยอี

  ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ เมนูคู่ร้านอาหารที่เรามักจะชอบสั่งมาทานกันอยู่เป็นประจำ มีกลิ่นหอมของพริกกระเทียม รสชาติอร่อยกลมกล่อมเข้ากั๊นเข้ากันกับไข่เยี่ยวม้า แถมมีกะเพราทอดกรอบๆโป๊ะอยู่ด้านบน ยิ่งอร่อยฟินมากค่ะ ส่วนใครทานที่ร้านยังไม่จุใจอยากจะทำกินเองที่บ้าน วันนี้เราได้สูตรของ  ครัวบ้านพิม  มาฝากกัน บอกละเอียดตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบไปถึงขั้นตอนการทำ เห็นแล้วน่ารับประทานมากๆ ค่ะ ว่าแล้วไปเข้าครัวกันเลย ส่วนผสม 1.ไข่เยี่ยวม้า 3 ฟอง   (แต่พิมมีแค่ 2 ฟอง เลยใช้ 2 ฟองนะคะ) 2.หมูสับ 100 กรัม 3.พริกจินดา 5 เม็ด 4.พริกขี้หนูสวน 5 เม็ดใหญ่ 5.กระเทียมไทยกลีบเล็ก  1 ชต. 6.ใบกะเพราเด็ด 1 ถ้วย 7.ซีอิ๊วขาว 1 ชช. 8.ซอสปรุงรส 1/2 ชช. 9.ซอสหอยนางรม 1 ชต. 10.น้ำตาลทราย 1/4 ชช. 11.น้ำมันสำหรับผัด 2 - 3 ชต. 12.น้ำมันสำหรับทอด 1 - 2 ถ้วย ขั้นตอนการทำ 1. นำไข่เยี่ยวม้าไปต้มในน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที พอครบเวลา ตักขึ้นแล้วล้างในน้ำสะอาด พักไว้ 2.จากนั้นนำไข่มาปอกเปลือก ให้เหลือแต่ไข่สีดำๆ ใสๆ แล้วนำไปทอดจนเหลืองทั้งทั้งฟอง เสร็จแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน 3.ทอดใบกะเพราให้กรอบ แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันเช่นกัน 4

  ในสำรับเมนูอาหารไทย เมนูที่จะขาดไปไม่ได้เลย คือ "น้ำพริก" ซึ่งเป็นเมนูที่ช่วยชูรสชาติให้มื้ออาหารได้เป็นอย่างดี โดยน้ำพริกจะมีความโดดเด่นของรสชาติที่เผ็ดจัดจ้าน จึงนิยมทานคู่กับผักสด หรือผักต้ม น้ำพริกยังมีสูตร และเมนูที่หลากหลายตามแต่ท้องที่อีกด้วย วันนี้เราก็มีเมนูน้ำพริกมาฝากเพื่อนๆ ให้ลองทำทานกันที่บ้าน โดยเป็นเมนู "น้ำพริกหมูสับ" สูตรจากคุณ มนุษย์พันธ์ M เป็นเมนูที่มีรสชาติที่จัดจ้าน มีเนื้อหมูเน้น ทานคู่กับผักสดรับรองอร่อยถึงใจ เราไปชมส่วนผสม และวิธีทำกันได้เลยครับ ส่วนผสม 1. หมูสับ 2. ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย ใบมะกรูดซอย 3. ต้นหอม ผักชี 4. พริกป่น วิธีทำ 1. ซอยหอมแดง ตะไคร้ในปริมาณเท่าๆกัน ซอยใบมะกรูดสัก 10 ใบ จากนั้นนำมาตำให้แหลกแล้วพักไว้ก่อน 2. นำหมูสับมารวนใส่น้ำปลาเล็กน้อยจนสุก 3. จากนั้นนำหมูสับที่สุกแล้วมาใส่ครกและเติมพริกป่นลงไป จากนั้นตำให้เข้ากัน 4. แล้วนำหมูสับที่คลุกเคล้าดีแล้วมาผัดให้มีกลิ่นหอมออก จากนั้นเติมน้ำสัก 1 ถ้วยแล้วปรุงรส ตัดด้วยน้ำตาล เติมน้ำปลา มะนาว ตามใจชอบ 5. พอเดือดแล้วใส่ต้นหอม ผักชีที่หั่นหยาบไว้ลงไปเป็นอันเสร็จ

  ถ้าพูดถึงเมนูเด็ดที่แซ่บซี๊ดโดนใจสายซีฟู๊ด ก็ต้องนึกถึงเมนูหอยแครงลวกนี่แหละจ้า เพราะเป็นเมนูที่ใครหลายคนชื่นชอบ ถ้าไปกินตามร้านส้มตำหรือร้านอาหารทะเลซีฟู๊ด เป็นต้องสั่งแทบทุกโต๊ะ จนบางคนซื้อมาลวกกินเองที่บ้าน แต่ก็มีปัญหาตรงที่ว่ากะเวลาไม่ถูกว่าจะลวกหอยกี่นาที กี่วินาทีดีถึงจะได้หอยที่สุกตามความชอบของเรา บางคนชอบแบบมีเลือดเยอะๆ บางคนชอบแบบแห้ง บางคนชอบแบบพอดีๆ รวมถึงเคล็ดลับก่อนที่จะลวกหอยขั้นตอนนี้สำคัญเพราะหอยถ้าล้างไม่สะอาดจะมีกลิ่นเหม็นคาว ดังนั้นต้องล้างให้สะอาดด้วยนะจ๊ะวันนี้ gangbeauty เลยจะมาแนะนำ 4 เทคนิค วิธีลวกหอยแครง ให้อร่อยกำลังดี ให้ "ความสุกถูกใจ" อร่อยถูกปาก 4 เทคนิคเลือกความสุกได้ตามความชอบ 20 วินาที : ความสุกระดับ Rare มันคือหอยเลือด เนื้อจะกรอบ ชุ่มฉ่ำ มันๆ เค็มๆ ซู่ซ่า แต่ว่ามันจะมีกลิ่นหอยแรงนิสนึงเพราะสดมาก 30 วินาที : ความสุกระดับ Medium Rare เป็นระดับที่พีคสุด!!! บรรยายไม่ถูก แต่ Recommend ให้สิบดาว มันคือความสุกที่นักกินหอยต้องสยบให้อย่างแท้จริง 1 นาที : ความสุกระดับ Medium Well doneเลือดเป็นสีดำ บางคนที่ชอบกินหอยแครงเนื้อเด้งแต่ไม่ชอบเลือด แนะนำแ

  กากหมูทอด เป็นส่วนของไขมันและหนังของหมูที่ถูกนำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปรุงรส จากนั้นนำไปทอดจนกรอบ สามารถนำมารับประทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ หรือรับประทานคู่กับอาหารอื่นๆ ก็อร่อยมันๆ เค็มๆ รับรองว่าขายเท่าไหร่ก็ไม่พอ วันนี้เราจะมาชวนเพื่อนๆ ทำเมนู "กากหมูทอดกรอบ" ที่มีเนื้อสัมผัสที่กรอบ พร้อมกับรสชาติอร่อยเค็มๆ มันๆ สามารถเก็บไว้รับประทานไว้ได้หลายวัน ใครอยากทาน ตามไปชมส่วนผสม และวิธีทำกันได้เลยครับ วัตถุดิบ 1. เนื้อหมูสามชั้นติดมัน (เน้นแบบติดมันเยอะๆ) 2. เกลือ 3. พริกไทย วิธีทำ 1. นำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ(ใครชอบชิ้นใหญ่ก็หั่นกว้างๆ แต่อย่าใหญ่เกินไป) คลุกเนื้อหมูสามชั้นด้วยเกลือให้ทั่วจากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาดเพื่อล้างเมือกสีขาวบนเนื้อหมูออก 2. นำเนื้อหมูมาคลุกเคล้ากับเกลืออีกครั้งและพริกไท (ใส่เกลือเพียงนิดเดียว) นวดเกลือให้เข้ากับเนื้อหมูหมักไว้ 15-20 นาที 3.  นำเนื้อหมูสามชั้นไปเจียวในกระทะ ใช้ไฟต่ำ(ประมาณ 300-800c) เจียวเพื่อเอาน้ำมันหมูออกมา ใช้เวลาเจียวประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อหมูสามชั้นที่นำมาใช้ เจียวจนเนื้อมันหมูหดตัวและได้ปริมาณน้ำมันป

  มาบอกวิธีทำน้ำพริกสูตรเด็ด 10 สูตร ลงมือทำเลย 1. น้ำพริกกะปิ ข้าวสวยร้อนๆ ปลาทูทอด ไข่เจียวชะอม และที่สำคัญขาดไม่ได้คือ น้ำพริกกะปิ และผักสดผักลวก นึกอยากทานกันแล้วรึเปล่าเอ่ย มาดูสูตรกันค่ะ ส่วนผสม กะปิอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็ก แดงและเขียว ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมไทย 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ มะเขือพวง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำต้มสุก วิธีทำ นำกะปิห่อใบตองย่างไฟอ่อนๆ พอหอม โขลกพริกขี้หนูสวน กระเทียม และหอมแดงพอหยาบ ใส่กะปิ น้ำตาลปี๊บ และมะเขือพวงลงไป โขลกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว ค่อยๆ เติมน้ำต้มสุกคนผสมให้เข้ากันพอขลุกขลิกชิมรสตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ 2. น้ำพริกมะม่วง น้ำพริกกะปิที่เพิ่มเติมความเปรี้ยวด้วยมะม่วงสับเข้าไป ให้มีรสชาติเปรี้ยวกลมกล่อม เคี้ยวเนื้อมะม่วงอร่อยมากขึ้น เสิร์ฟพร้อมผักสด สาวๆ ทานได้ไม่มีอ้วนค่ะ ส่วนผสม กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้งตัวใหญ่ 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 20 กรัม พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ (ค่อยๆ ใส่ทีละนิด) น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ มะม่วงเปรี้ยวสับเป็นเส้น 1/2 ลูก (ถ