บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม 26, 2021

แชร์สูตร กาแฟโบราณ ที่สายกาแฟต้องลองทำ

รูปภาพ
  ในยุคที่หลายคนต้องกักตัว กิจกรรมที่คอกาแฟจะต้องลอง นั่นก็คือ การลองทำกาแฟโบราณนั่นเอง ซึ่งการทำกาแฟสูตรโบราณนั้นก็ใช่ว่าจะใช้อัตราส่วนที่คล้ายกันกับกาแฟในยุคปัจจุบัน ดังนั้น วันนี้เราจะมาแชร์สูตรกาแฟแบบโบราณให้หลาย ๆ คนลองนำไปทำกันดู แชร์สูตร กาแฟโบราณ ที่สายกาแฟต้องลองทำ กาแฟโบราณ กาแฟโบราณ 🤎 ส่วนผสม ☑ ผงโอเลี้ยง 3 - 4 ช้อนโต๊ะ ☑ น้ำ 1 ถ้วยครึ่ง ☑ นมข้นจืด ☑ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ☑ นมข้นหวาน 7 ช้อนโต๊ะ ☑ น้ำแข็ง ☕ วิธีทำ 1. ต้มน้ำให้เดือด 2. ใส่ผงโอเลี้ยงลงไปในถุงกาแฟที่เตรียมไว้ ถ้าเป็นถุงกาแฟให้นำไปวางในเหยือกสแตนเลส 3. จากนั้นเทน้ำเดือดลงไป เขย่าถุงเล็กน้อยให้ผงโอเลี้ยงกับน้ำเข้ากัน 4. พักเอาไว้ประมาณ 10 นาที 5. จากนั้น เตรียมแก้วน้ำที่จะเสิร์ฟ เทน้ำตาลทรายลงไปแล้วตามด้วยนมข้นหวาน 6. เทโอเลี้ยงที่คนเข้ากันแล้วลงไป คนให้เข้ากันจนกว่าน้ำตาลทรายจะละลาย 7. แล้วเทน้ำแข็งใส่แก้วให้เกือบเต็ม 8. เทนมข้นจืดให้เต็มแก้ว เป็นอันเสร็จ โอเลี้ยงรสเข้มแบบไทย ๆ กาแฟโบราณ 🤎 ส่วนผสม ☑ ผงโอเลี้ยง 3 – 4 ช้อนโต๊ะ ☑ น้ำ 1 ถ้วยครึ่ง ☑ น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ ☑ น้ำแข็งพร้อมแก้ว ☕ วิธีทำ 1. ต้มน้ำ รอจน

รวม 32 ร้านอาหาร ติดดาวมิชลินในไทย ประจำปี 2565

รูปภาพ
  📣 พาส่อง โพลเด็ดประจำปี กับการประกาศ "มิชลิน ไกด์" กับรายชื่อร้านอาหารระดับ "ดาวมิชลิน" 32 ร้านในไทยประจำปี 2565 🌟 โดยแบ่งเป็นร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 1 ดาว มีทั้งหมด 26 ร้าน และร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 2 ดาว มีทั้งหมด 6 ร้าน มาส่องร้านอาหารอร่อยๆ ติดดาว กันได้ที่นี่เลย รวม 32 ร้านอาหาร ติดดาวมิชลินในไทย ประจำปี 2565 ร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 2 ดาว ⭐⭐ ⭐⭐ Excellent cuisine, worth a detour หมายถึง "ร้านอาหารยอดเยี่ยมที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม" CHEF'S TABLE LE NORMANDIE MEZZALUNA R-HAAN SORN SUHRING ร้านที่ได้ "มิชลินสตาร์" 1 ดาว ⭐ ⭐ High quality cooking, worth a stop หมายถึง "ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม" 80/20 AKSORN 🍽 BLUE BY ALAIN DUCASSE CADENCE BY DAN BARK CANVAS CHIM BY SIAM WISDOM COTE BY MAURO COLAGRECO ELEMENTS, INSPIRED BY CIEL BLEU GAA 🍽 🌟 ผู้คว้ารางวัล MICHELIN Guide Thailand Young Chef Award ประจำปี 2565 ได้แก่ "การิมา อาโรรา (Garima Arora)" จา

แจกสูตร โจ๊กหมูก้อน อร่อยเต็มคำ ฉบับร้านหน้าปากซอย

รูปภาพ
  🌞🍚 ใครชอบกินเมนูโจ๊กเป็นมื้อแรกของวันในทุกๆ เช้าบ้าง ✨ หาทำวันนี้จะพาทุกคนไปทำ “โจ๊กหมูก้อน” ชิ้นโตๆ แบบง่ายกัน บอกเลยว่าเด็กหอหรือคนทำกับข้าวไม่เก่งก็ทำได้ 📣 ถ้าพร้อมแล้วไปดูวิธีทำกันเล้ยยย 🤩 แจกสูตร โจ๊กหมูก้อน อร่อยเต็มคำ ฉบับร้านหน้าปากซอย 🍚 สูตร โจ๊กหมูก้อน สูตร โจ๊กหมูก้อน 🍚 วัตถุดิบ 1.ข้าวสวย 2.หมูบด 3.สามเกลอ 4.น้ำตาล 5.ซอสฝาเขียว สูตร โจ๊กหมูก้อน ขั้นตอนแรกเรามาหมักหมูกันก่อน 1. ใส่นำหมูบดลงชามผสม ตามด้วยสามเกลอ ซอสฝาเขียว และน้ำตาลลงไป สูตร โจ๊กหมูก้อน 2.จากนั้นก็มาบดข้าวกัน หรือใครมีครกก็นำมาตำให้ข้าวเหนียวๆ เข้ากันได้เลยย 3.จากนั้นก็นำหมูที่เราหมักไว้ลงไปจนสสุก แล้วนำออกมาพักไว้ สูตร โจ๊กหมูก้อน 4.จากนั้นนำข้าวลงไป เคี่ยวให้ข้าวมีความหนืดๆ สูตร โจ๊กหมูก้อน ก็ใส่หมูลงไปได้เลยย 🤩 สูตร โจ๊กหมูก้อน ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ หอมมากกก สูตร โจ๊กหมูก้อน กินคู่ไข่ลวกแบบเจาะไข่แดงเยิ้มๆ กินพร้อมกับโจ๊กร้อนๆ เข้ากันฝุดๆ ทำง่ายมาก ไปทำตามกันได้เลยย 💕

แม่ค้าปลาบอกมาเคล็ดลับนึ่งปลาให้อร่อย ไม่เหม็นคาว ใช้ได้กับปลาทุกชนิด

รูปภาพ
  น่าสนใจ! เคล็ดลับนึ่งปลาให้อร่อย ไม่เหม็นคาว ใช้ได้กับปลาทุกชนิด ปลา เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโปรตีนสูง เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของทารก เด็ก ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ป่วยที่ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเนื้อปลามีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่น้อยกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ เมื่อเนื้อปลาสุกมันจะแยกออกเป็นชิ้นๆตามมัดของกล้ามเนื้อเกี่ยวพัน ทำให้เนื้อปลานุ่ม และไม่เหนียวเหมือนเนื้อสัตว์อื่นๆ ซึ่งวิธีการรับประทานเนื้อปลาให้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด ก็คือ “การนึ่ง” เพราะคุณจะได้สารอาหารจากเนื้อปลาล้วนๆ ไม่มีน้ำมัน หรือสารอื่นๆที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งนี้ทั้งนั้น บางคนก็ไม่ชอบรับประทานปลานึ่งด้วยเหตุผลเพราะไม่ชอบที่มัน “เหม็นคาว” และเลือกที่จะหันไปรับประทานปลาทอดที่กรอบอร่อยมากกว่า แต่วันนี้เราอยากจะเชิญชวนให้คุณหันมาทานปลานึ่งกันให้มากขึ้น เพราะเรามีสูตรการนึ่งปลาไม่ให้เหม็นคาวมาฝาก วิธีการเป็นอย่างไรตามมาดูกันได้เลย เคล็ดลับการนึ่งปลาไม่ให้คาว 1. เลือกของสด ปลาที่จะนำมานึ่งควรจะต้องเป็นเนื้อปลาที่สดใหม่ และผ่านการล้างทำความสะอาดอย่างดี โดยวิธีดูว่า

แจกสูตรข้าวมันไก่ร้านดัง พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย

รูปภาพ
  ข้าวมันไก่เป็นอาหารที่มีอยู่มากมายทั้งอยู่ตามห้าง ข้างถนน หาทานได้ทั่วไปแถมรสชาติยังอร่อยถูกปากใครหลายคน จนส่งสัยว่าวิธีการทำนั้นทำกันยังไงอยากลองไปทำทานที่บ้านบ้างจัง วันนี้เราเลยอยากจะแนะนำวิธีการทำข้าวมันไก่ด้วยวิธีที่อาจจะบอกว่าน่าลองทำกันดูซักครั้งจะได้รู้กรรมวิธีทำ วัตถุดิบ 1. ไก่ เลือกซื้อแบบเป็นตัวหรือเฉพาะส่วนที่เราชอบทานได้เลย 2. กระเทียม 5 กลีบ 3. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ 4. รากผักชี 5. ซีอิ๊วขาว 2-3 ช้อนโต๊ะ 6. กระเทียม 3-4 หัว ส่วนผสมข้าวของข้าวมันไก่ 1. ข้ามหอมมะลิ 2. น้ำซุบไก่ (จากที่ไก่ที่เราต้ม) วัตถุดิบน้ำจิ้มข้าวมันไก่ 1. เต้าเจี้ยว 6 ช้อนโต๊ะ 2. ซิอิ๊วหวาน 1 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ 4. ขิงสดหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 5. กระเทียมหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 6. พริกขี้หนูหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ 7. มะนาว 1 ซีก วิธีทำ – ตั้งเตาใส่ไก่ลงไปในหม้อเติมน้ำพอท่วมตัวไก่แล้วเติมเกลือ รากผักชี ซีอิ๊วขาว กระเที่ยมลงไป ตั้งไฟปานกลาง ประมาณสามสิบนาที – คอยตักฟองและไขมันที่ลอยอยู่ออกดูว่าไก่นั้นสุกดีแล้วหรือยังถ้าสุกเกินไปไก่จะไม่อร่อยได้นะต้องดูให้ดีๆ พอสุกดีแล้วให้เรานำไก่มาหั่นเป็นชิ้นๆ สวยงา

ชวนทำขนมกรวยมันม่วง อร่อยหวานมันละมุล เมนูหาทานยากสูตรไทยโบราณ

รูปภาพ
  ชวนทำขนมกรวยมันม่วง อร่อยหวานมันละมุล ขนมกรวยมันม่วง หรือ ขนมหางจิ้งจก เป็นขนมไทย ที่นับวันยิ่งหาทานได้ยากมาก วันนี้เรามีสูตรมาให้เพื่อนๆ ได้ลองทำกันดูค่ะ เป็นสูตรของคุณ Sasinipa Crochet จะมีขั้นตอนวิธีการทำอย่างไรบ้างไปชมกันเลยค่ะ สูตรขนมกรวยค่ะ ตัวแป้ง มีดังนี้ 1.แป้งข้าวจ้าว 100กรัม 2.แป้งท้าว 50กรัมหางกะทิ 400กรัม 3.น้ำตาลปีบ 250กรัม 4.เกลือ 1/2ช้อนชา 5.มันม่วงนึ่งบดละเอียด 200กรัม 6.น้ำเปล่าประมาณ1แก้ว ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน หน้าขนม 1.หัวกะทิ 400กรัม 2.แป้งข้าวจ้าว 50กรัม 3.เกลือ1/4ช้อนชา 4.น้ำตาลทราย1ช้อนโต๊ะ ผสมทุกอย่างเข้ากัน ขั้นตอนการนึ่ง เย็บใบตองเป็นกรวยห้ามให้มีรู นำกรวยไปเสียบในซึ้ง เสียบตรงๆๆเสียบรูเว้นรู ตั้งน้ำให้เดือดพอเดือดแล้วนำซึ้งที่เสียบกรวยไปตั้งไฟแล้วหยอดตัวขนมใส่3/4ของกรวย นึ่งไฟกลาง ประมาณ7-10นาที จากนั้นค่อยหยอดหน้ากะทิลงไปนึ่งต่ออีก5นาที เป็นอันเสร็จ อย่าใช้ไฟแรงนะคะ บอกแบบละเอียดแล้วนะคะไปต่อยอดทำขายได้ค่ะไม่หวงเพื่อเป็นวิทยาทานให้กับเพื่อนๆๆพี่ๆๆทุกคนค่ะ ที่มา : Sasinipa Crochet

น้ำยำเทวดาสูตรนี้อร่อยมาก วิธีการทำน้ำยำ กินกับยำอะไรก็อร่อย

รูปภาพ
  น้ำยำเทวดาสูตรนี้อร่อยมาก วิธีการทำน้ำยำ กินกับยำอะไรก็อร่อย สูตรการทำน้ำยำแสนอร่อย มาแชร์ให้กับเพื่อนๆทุกคน ที่นำมากินกับยำอะไรรับรองแซ่บอร่อยทั้งนั้น ขั้นตอนก็แสนง่าย มาดูกันเลยว่าต้องเตรียมอะไร และมีวิธีการทำอย่างไรบ้าง ส่วนผสมที่ต้องเตรียมมีดังนี้ น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ พริกแดงสับ 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนในการทำ นำภาชนะมาตักน้ำเปล่าใส่ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวใส่ 6 ช้อนโต๊ะ กลมกล่อมด้วยน้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ หวานหอมด้วย น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศเป็นเคล็ดลับ…น้ำยำเทวดา เพื่อช่วยสร้างสีสรรค์ให้อาหารทุกชนิด สีสด สวย 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส…จะใส่หรือไม่ใส่..ก็ได้ เพราะไม่เน้น ใส่กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยพริกสับ 2 ช้อนโต๊ะ ถ้า 3 ช้อนโต๊ะใช้ช้อนคนให้ส่วนผสมเข้ากัน เปิดไฟใช้ความร้อนปานกลาง เคี่ยวส่วนผสม พอน้ำยำเดือดจับเวลา 2 นาที ต้องหมั่นคนอยู่ตลอดเวลา กลัวเดือดฟู ล้นภาชนะ ปิดไฟใช้ได้แล้ว ”