สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  ชี้ชัด “คนไม่ชอบอาบน้ำ” ผิวดีกว่าคนที่ชอบอาบน้ำ คนเราทุกคนอาจมีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนๆกันคือ การถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆว่าต้องอาบน้ำทั้งตอนตื่นเช้า และก่อนเข้านอน อาจจะเพราะอากาศที่ร้อนของประเทศไทย และการชำระล้างทำความสะอาดตัวเรา แต่ทุกคนทราบกันหรือไม่ ว่าผลการวิจัยของต่างประเทศนั้น คำตอบในเรื่องของการอาบน้ำ เหลือเชื่อสุดๆ Dr.Casey Carlos ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านโรคผิวหนัง  จากมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ซานดิเอโก้ แคลิฟอร์เนีย บอกว่าการอาบน้ำทุกวัน และครั้งละนานๆ ไม่ส่งผลดีกับร่างกายคนเรา เพราะปกติแล้วผิวหนังของคนเราสามารถทำความสะอาดได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว และการที่เราถูสบู่เพราะเชื่อว่ามันทำให้ร่างกายสะอาดขึ้นนั้น แท้จริงแล้วมันคือตัวทำลายน้ำมันในชั้นผิวหนังของเราต่างหาก แถมการอาบน้ำบ่อยๆ  ยังทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง และเจ้าสบู่ก้อนยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ด้วย ที่สำคัญเมื่อเราถูสบู่บนผิวหนังของเรา สบู่ยังไปทำลายแบคทีเรียดีๆ ที่มีไว้ปกป้องผิวของเราโดยธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งเราจะสังเกตุได้เมื่อหลังอาบน้ำจะรู้สึกคันที่ผิวหนัง ก็เพราะผิวหนังของเราเริ่มแตก และนั่นแหละมันค

  ขอบยาง “ขึ้นรา” ล้างยังไงก็ไม่ออก จัดการได้ด้วยวิธีนี้ ง่ายมาก! ตู้เย็น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ทุกบ้านมีกัน เอาไว้เก็บอาหาร แช่อาหารเพื่อให้คงสภาพไม่เน่าเสีย แต่พอใช้นานๆไป ตู้เย็นของเราก็เสื่อมสภาพ จะเห็นได้ชัดเลยว่าตรงยางที่ขอบตู้เย็นของเรานั้นมีรอยดำๆและมีเชื้อราติดอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายของเรา วันนี้เรามีวิธีการกำจัดง่ายๆ มาดูกันเลยว่าทำอย่างไรได้บ้าง วิธีที่ 1 : ใช้ยาสีฟัน เอายาสีฟันทาไปบนยางที่เป็นเชื้อรา ทิ้งไว้ 3 นาที ใช้ผ้าบิดหมาดเช็ด (อย่าดึงยางออกมา เพราะมันจะเสียรูป) จากนั้นใช้น้ำล้างให้สะอาด จะทำให้ราหายไปได้บ้าง วิธีที่ 2 : ใช้น้ำส้มสายชู กับน้ำยาซักผ้าครึ่งฝา ก่อนอื่นต้องถอดปลั๊กตู้เย็นออก แล้วใช้ผ้านิ่มๆเช็ดไปบนบริเวณที่เป็นเชื้อราก่อนหนึ่งครั้ง จากนั้นผสมน้ำส้มสายชู 200 มิลลิลิตรกับน้ำยาซักผ้าครึ่งฝา ใช้ผ้าชุบลงส่วนผสมแล้วเอาไปเช็ดบริเวณที่เป็นรา จากนั้นเช็ดให้สะอาดจนไม่เหลือคราบน้ำยาซักผ้า วิธีที่ 3 : ใช้แอลกอฮอล์ เทแอลกอฮอล์ 150 มิลลิลิตรใส่ถ้วย เอากระดาษทิชชูพันส้อมให้แน่นแล้วจุ่มลงไปในแอลกอฮอล์ จากนั้นเอาส้อมมาเช็ดตามร่องยางซ้ำไปซ้

  ไม่รู้มาก่อน ประโยชน์ “น้ำยาบ้วนปาก” ช่วยรักษาอาการ น้ำยาบ้วนปาก เป็นสิ่งที่สามารถช่วยกลบกลิ่นปากได้ในระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เนื่องจากมีน้ำมันหอมระเหยช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แต่กลิ่นหอมที่เกิดขึ้นจากน้ำยาบ้วนปากจะอยู่ได้ไม่นาน อยู่ได้ประมาณ 20 นาที ก็จางไปแล้ว น้ำยาบ้วนปากอมนี้มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ชนิดเข้มข้นอยู่ประมาณ 10 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในวันนี้เราจะมาบอกความรู้เกี่ยวกับน้ำยาบ้วนปาก เป็นความรู้ที่หลายคนยังไม่รู้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นประโยชน์ประดับสมองของเพื่อนๆอย่างแน่นอน 1. กำจัดกลิ่นรักแร้ แค่เทน้ำยาบ้วนปากลงบนสำลี เช็ดเบาๆใต้วงแขน ได้ผลลัพธ์ดีกว่าโรลออนดับกลิ่นทั้งหลายมากมาย 2. รักษาโรคเหน็บชา (beriberi) เพียงแค่แช่เท้าในน้ำยาบ้วนปากวันละครึ่งชั่วโมงทุกวัน จะสามารถช่วยรักษาอาการเหน็บชาได้ และสามารถเติมน้ำส้มสายชูลงไปด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ดีกว่าเดิม 3. ทำความสะอาดห้องน้ำ เทมันลงในชักโครกเพื่อทำความสะอาด สามารถช่วยขจัดกลิ่นเหม็น ทำให้ชักโครกของคุณดูเหมือนใหม่อีกครั้ง 4. ทำความสะอาดแผล ถ้าได้รับแผลบาดเจ็บโดยไม่ระวัง สามารถเทน้ำยาบ้วนปากลงบนสำลี แล้วใช้เช็ดปากแผลได

  เพียงกินฟักทองนึ่งวันละ 3-4 ชิ้น น้ำหนักลด ผิวเนียนสวย บอกเลยว่าอยากได้ให้ตัวเองพลาดสิ่งดีๆ วันนี้จะมาบอกเกี่ยวกับการกินฟักทองนึ่ง เพียงแค่เรากินวันละ 3-4 ชิ้นประโยชน์ที่ได้นั่นก็คือน้ำหนักจะลด ผิวพรรณจะสวย เนียน สายตาก็ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ฟักทอง เป็นผักที่มีคุณค่าและประโยชน์มหาศาล นอกจากเราจะนำฟักทองไปทำเป็นอาหารเเล้วนั้น ฟักทองยังมีฤทธิ์เป็นวิตามิน สามารถป้องกันและรักษาโรคได้หลายโรค ดังเช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคตับ และการนำฟักทองมาใช้เป็นยานั้น สามารถใช้ได้ทั้งเนื้อ เมล็ด ราก และเครือฟักทอง เรียกว่ามีประโยชน์ทั้งต้นจริงๆ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับผักผลไม้ชนิดนี้กันค่ะ ว่าในผลฟักทอง 1 ผลจะมีประโยชน์ในด้านไหนบ้าง และควรบริโภคอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด 1 ฟักทองมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา 2 ช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิว ให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยปกป้องผิว 3 ฟักทองมีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงและรักษาสายตา 4 สามรถกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ช่วยลดระดับน้ำตาลในโลหิตได้ 5 สามรถควบคุมความดันโลหิต บำรุงดวงตา 6 ในฟักทองมีคอลลาเจนตามธรรมชาติ จึงช่วยเสริมสร้าง ค

  10 อาหาร กินแล้ว “หน้าเด็ก” อย่าได้มองข้ามเชียว! เพื่อนๆอยากหน้าเด็กทำยังไงกันดี สำหรับคนที่กำลังมองหาวิธีทำให้ตัวเองหน้าเด็กอยู่นั้น วิธีที่จะบอกต่อไปนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ต้องไปเสียตังค์แพงๆทำหน้าเลย แค่กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อไปนี้ที่เราจะบอก ก็สามารถทำให้ใบหน้าของคุณดูอ่อนวัย สูสีกับวัยรุ่นในปัจจุบันได้เลย นอกจากจะช่วยในเรื่องของหน้าเด็กแล้วนั้น ยังช่วยในเรื่องของผิวพรรณที่ดียิ่งขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้น ว่าแต่จะต้องกินอะไรกันบ้าง แล้วหน้าจะดูอ่อนวัย เราตามไปดูกันได้เลย 1. น้ำเต้าหู้ น้ำเต้าหู้ หรือ นมถั่วเหลือง เครื่องดื่มคู่คนไทยมาตั้งแต่อดีต ณ ปัจจุบันนี้มองไปทางไหนก็จะก็จะเจอน้ำเต้าหู้อยู่ทุกที่ ทุกเวลาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะตลาด รถเข็นข้างทาง เซเว่น และยิ่งไปกว่านั้นเดี๋ยวนี้มีแบบผงชงดื่มเองที่บ้าน สะดวกสะบายกันเลยทีเดียว เป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย ในถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน AB, B1, B2, B6, B12 ไนอาซิน และวิตามิน C, D, E และในเมล็ดถั่วเหลืองยังมี “เลซิทิน” อันเป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ล

  แจกฟรี !! สูตร “ลูกชิ้นหมูเด้ง” ทำง่ายๆ อร่อย ปลอดภัยไร้สารบอแรกซ์ ในวันนี้เรามีสูตรการทํา “ลูกชิ้นหมูเด้ง” มาฝากเพื่อนๆกัน สูตรนี้จะเป็นสูตรพิเศษเนื้อจะแน่น เนื้อเด้งโดยที่เราไม่ต้องใส่สารบอแรกซ์หรือสารกันบูดเข้าไปเลย ตัวนี้สามารถทำเองได้ที่บ้าน เสียบไม้ขายหน้าบ้านได้เลย อย่าลืมที่จะเก็บไว้เป็นอาชีพนะคะ ส่วนผสมและเครื่องปรุง 1. เนื้อหมู (ไม่เอามัน) 1 กิโลกรัม 2. น้ำเย็น 1/2 ถ้วย 3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 4. ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 5. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ. 6. ผงแอดคอท 1 ช้อนโต๊ะ (เป็นสาร ที่ช่วยทำให้เนื้อสัตว์เกาะตัวกันได้ดี ไม่เสียน้ำหนัก) 7. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ 8. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ 9. ผงฟูครึ่งช้อนโต๊ะ วิธีทำลูกชิ้นหมูเด้ง 1. ให้นำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปแช่ช่องฟรีซ ประมาณ 45 นาที หรือจนกว่าเนื้อหมูจะเริ่มแข็งนิด ๆ ให้น้ำแข็งเกาะนิดหน่อยครับ จากนั้นนำออกมาใส่โถเพื่อปั่น 2. ถ้าโถเล็ก ให้ปั่นทีละน้อย ๆ 3. นี่คือได้ความละเอียดจาการ ปั่น ครั้งที่ 1 ครับ 4. เมื่อปั่นเสร็จแล้วให้เอาไปแช่ช่องฟรีซต่อ อีกซักประมาณ 15 นาทีเพื่อให้เย็นจัด หลังจากนั้นเรามาทำน้ำปรุงรสลูกชิ้นกันก่อน