บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์ 1, 2022

แจกสูตรกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ทำไมถึงแพง มาดูเคล็ดลับ

รูปภาพ
  กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาเป็นเมนูง่าย ๆ ที่รับประทานได้ทุกมื้ออาหาร รับประทานกับข้าวสวยอร่อยจริงเชียว วันนี้เราจึงมีสูตรการทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา จาก คุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝาก พร้อมเคล็ดลับความอร่อยที่จะมาเปิดโปงให้เราได้รู้กัน ลองไปดูกันว่าจะออกมาชวนหิวขนาดไหน สิ่งที่ต้องเตรียม กะหล่ำปลีขนาดย่อม ๆ 1 หัว ควรเลือกที่ยังสดอยู่ วิธีสังเกตความสดคือ  ถ้าแกะใบออกดจะกรอบ แตก หักง่าย ไม่ค่อยยอมออกมาเป็นใบ ๆ แต่ถ้าลองหักก้านใบ แล้วเอาแต่โค้งงอไม่หักสักที แสดงว่าไม่ค่อยสดแล้วทำออกมาจะไม่อร่อย แกะกะหล่ำปลีเป็นใบ ๆ แล้วฉีก หรือหั่น (ก็แล้วแต่) ให้ชิ้นเล็กลงหน่อย ล้างน้ำสะอาด เตรียมไว้ ทุบกระเทียมสักสองหัว ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมทุบลงไปก่อน ใส่กะหล่ำปลีที่เตรียมไว้ลงไป แล้วยังไม่ต้องรีบผัด ทิ้งไว้สักพัก นับ 1-10 ค่อยเริ่มผัดได้ ผัดช้า ๆ ไม่ต้องรีบ ผัด ๆ คลุก ๆ ให้ใบกะหล่ำโดนน้ำมัน และกระทะทั่ว ๆ กัน  ผัดกะหล่ำปลีรวมให้เข้ามาอยู่ตรงกลางกระทะ ให้พูน ๆ เข้าไว้ พักไว้นับ 1-5 จากนั้นใส่น้ำปลาไปที่ขอบกระทะให้รอบ ๆ กระทะ อย่าให้ถูกตัวกะหล่ำ นี่

รู้งี้ทำกินนานแล้ว! แจกสูตร เป็ดย่าง MK รสชาติเหมือนกินที่ร้าน อร่อยมาก

รูปภาพ
  แจกสูตร เป็ดย่าง MK ทำกินทั้งครอบครัว ไม่ต้องไปร้านเลย!! สำหรับใครที่ชอบทานเป็ดย่างแต่ไม่อยากเสียเงินเยอะหรือคิดว่าวิธีการทำค่อนข้างยุ่งยาก อุปกรณ์ที่ใช้หลายอย่าง ใช้เวลานานในการทำ สิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปค่ะ วันนี้เรามีสูตรในการทำเป็ดย่างรสชาติเหมือนMKแบบง่ายๆใช้เวลาทำไม่นานมาฝากกันนะคะ เครื่องปรุงหมักเป็ด เนื้อหน้าอกเป็ด 2 ชิ้น ขิงหั่นบาง 7-8 ชิ้น รากผักชี 2ต้น ต้นหอมหั่น 2ต้น กระเทียมฝานบาง 5กลีบ ผงซุป 1/2 ช้อนชา เกลือ 1/4 ช้อนชา ผงพะโล้ 1ช้อนโต๊ะ น้ำปล่าว 1/2 ถ้วย เครื่องปรุงขึ้นสีเป็ด สีผสมอาหารสีแดง น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโตะ เครื่องปรุงซอสราดเป็ด ผงซุป 1 ช้อนชา น้ำมันหอย 2 ช้อนชา น้ำตาล 3ช้อนชา เต้าเจี๊ยว 2ช้อนชา น้ำเปล่า 1 ถ้วย วิธีทำ 1. ล้างเป็ดให้สะอาดแล้วพักไว้ 2. เตรียมซอสหมักเป็ดโดยนำหม้อหรือกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย นำเครื่องปรุงทุกอย่างลงไปผัดพอเครื่งปรุงมีกลิ่นหอมแล้วจึงเติมน้ำลงไปคนให้เข้ากันพอน้ำเดือดแล้วปิดแก๊ส 3. นำซอสหมักเป็ดที่ได้ใส่ภาชนะแล้วนำเป็ดที่เตรียมไว้ลงไปหมัดโดยกดเนื้อเป็ดเบาๆเพื่อให้ซอสซึมเข้าเนื้อเป็ด ระวังอย่าให้หนังเป็ดเละน้ำเครื่องเทศเพราะเราจะต้

ง่ายมากๆ วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้

รูปภาพ
  วิธีเก็บพริกขี้หนูให้สดได้นานๆ ต้องทำแบบนี้!! พ่อครัวแม่ครัวหลายคนคงมีปัญหาเรื่องการเก็บพริกขี้หนูไว้ได้นาน ต้องทำยังไงยังใช่ไหมคะ ซื้อมาบางทีไม่นานก็เหี่ยว ดำ หรืออาจจะเน่าอยู่ในถุง แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะเพราะวันนี้เรามีวิธีที่ทำให้เก็บพริกขี้หนูไว้กินได้นานๆมากฝากกันด้วยล่ะค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะคะ ไปอ่านกันเลยดีกว่า วิธีการเก็บรักษา 1.เมื่อซื้อพริกขี้หนูมาควรนำมาล้างให้สะอาดก่อนเป็นอันดับแรก 2.เด็ดก้านออก 3.นำกระดาษมาซับน้ำให้แห้ง 4.หากล่องที่มีฝาปิดมิดชิดมาใส่พริก 5.ก่อนนำพริกลงไปต้องนำกระดาษทิชชูมารองรอบๆกล่อง 6.นำพริกใส่กล่องพร้อมปิดฝาให้มิดชิด 7.นำเข้าตู้เย็น เป็นยังไงบ้างคะ วิธีการเก็บพริกขี้หนูให้เราได้กินนานขึ้นอีก แต่จะบอกว่าวิธีนี้สามารถเก็บพริกให้เหมือนสดใหม่ตลอด 3 สัปดาห์เลยล่ะค่ะ และยังเป็นการประหยัดเงินในการที่จะซื้อพริกบ่อยๆในครั้งต่อไปด้วยล่ะค่ะ โหวว สุดยอดไปเลย!!! แค่นี้เราก็จะได้กินพริกที่สดใหม่ตลอดทำให้เรามีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ลองนำไปทำกันดูนะคะเพื่อสุขภาพของคุณและครอบครัว

แจกฟรี ! สูตรหมักไก่ย่างเงินล้าน เปิดร้านขายกันให้รวยไปเลย

รูปภาพ
  แจกฟรี ! สูตรหมักไก่ย่างเงินล้าน เปิดร้านขายกันให้รวยไปเลย พูดถึงไก่ย่าง เพื่อน ๆ ต้องเคยลองทานมาแล้วหลายแบบ หลายรสชาติ แต่ไก่ย่างที่พบเห็นและทานกันบ่อยๆ คงหนีไม่พ้น ไก่ย่างพังโคน ไก่ย่างวิเชียรบุรี หรือไก่ย่างต่าง ๆ ที่มีขายตามร้านข้างทาง ด้วยรสชาติที่หอม กรอบ อร่อย ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารที่คนนิยมทางเป็นอย่างมาก บทความนี้เราก็ได้มาแจกสูตรหมักไก่ย่าง ที่มีรสชาติหอม กรอบอร่อยเช่นกัน ให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปทำทาน และทำขายสร้างรายได้เป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักกันไปเลย วัตถุดิบและส่วนผสม - น่องไก่ 4 ชิ้น - รากผักชี - พริกไทย - กระเทียม - ซีอิ้วขาว - เหล้าจีน - น้ำผึ้ง วิธีการทำไก่ย่าง 1. ล้างน่องไก่ให้สะอาด นำรากผักชี พริกไทย และกระเทียม มาตำให้ละเอียด แล้นำมาผสมกับซีอิ้วขาว เหล้าจีน และน้ำผึงในชาม ( ปริมาณกะเอาให้พอดีในการหมักกับน่องไก่ ) 2. นำน่องไก่มาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเครื่องปรุง 3. นำน่องไก่ไปย่างที่เตา โดยใช้อุณหภูมิประมาณ 200 C ไม่ควรให้ไฟโดนไก่โดยตรง ย่างไปประมาณ 40 นาที จนไก่สุกทั่ว และเนื้อข้างในชุ่ม เสร็จแล้วก็พร้อมเสิร์ฟ ทานกับข้าวเหนียวร้อน ๆ และจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว สำหรับใครท

แจกสูตรและวิธีทำ ไข่พะโล้ ให้อร่อยสำหรับ ไว้ขายข้าวแกง และทานเอง

รูปภาพ
  แจกสูตรและวิธีทำ ไข่พะโล้ ให้อร่อยสำหรับ ไว้ขายข้าวแกง และทานเอง ไข่พะโล้อาหารไทยตั้งแต่สมัยโบราณที่ยังคงครองใจคนไทย ด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปาก น้ำซุปที่เข้มข้น ไข่ใบใหญ่ หมูสามชั้นนุ่มลิ้นพูดแล้วอยากกินมากเหลือเกิน ในวันนี้เราจึงอยากมานำเสนอสูตรและวิธีทำ ไข่พะโล้ ให้อร่อยสำหรับ ไว้ขายข้าวแกงและทานเอง.. สิ่งที่ต้องเตรียม •  ไข่เป็ด 20 ฟอง •  หมูสามชั้น 1 กก. •  กะเทียม 1 กำมือ •  รากผักชี 3 ราก •  ผักชี 3 ต้น •  พริกไทย พอหยิบมือ •  น้ำตาลทราย   1/2  กก. •  เกลือ 1 ช้อนแกง •  ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนแกง •  ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนแกง •  ผงพะโล้ 1 ซอง วิธีการทำ 1. ทำการหั่นหมูสามชั้นชิ้นพอดีคำ 2. ทำการโขลกกะเทียม รากผักชี และพริกไทยให้เข้ากันพัก 3. ตั้งกะทะโดยใช้ไฟปานกลาง แล้วใส่น้ำตาทรายลงไป ทำการเคี่ยวน้ำตาลทรายให้ละลายจนหมด สามารถสังเกตุได้จากการมองเห็นสีเป็นน้ำตาลเป็นใช้ได้ 4. จากนั้นนำกระเทียม รากผักชี และพริกไทยที่โขลกเตรียมไว้ลงไปผัดในน้ำตาลทำการผัดให้หอม 5. จากนั้นให้รีบนำน้ำเปล่าใส่ลงไปประมาณ 1 ลิตร แล้วทำการเร่งไฟให้ร้อนเพื่อที่จะให้น้ำเดือด 6. เมื่อน้ำเดือดให้ใส่หมูสามชั้นที่หั่นเตรียมไว้ แล้

วิธีทำน้ำปลาสูตรโบราณ เค็มอร่อยนัว แค่คลุกข้าวก็อร่อยแล้ว

รูปภาพ
  วิธีทำน้ำปลาสูตรโบราณ เค็มอร่อยนัว แค่คลุกข้าวก็อร่อยแล้ว ข้าวคลุกน้ำปลาใส่พริกใส่หอมเพิ่มนิดหน่อย สุดยอดของความอร่อยใช่ไหมคะ แต่จะหาน้ำปลาอร่อยนัวๆ รสชาติไม่เค็มปี๋จนเกินไป ยากมากๆเลยนะคะ วันนี้จึงขอเสนอสูตรน้ำปลาเค็มนัวอร่อยมาก คลุกข้าวยังอร่อย มาฝากทุกท่านกันค่ะ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1.ปลาสร้อยสด 3 กิโลกรัม 2.เกลือ 1 กิโลกรัม 3.เนื้อสับประรดสับ 4.โหลแก้ว วิธีการทำ 1.เริ่มต้นจากการนำปลาสร้อยสดมาล้างให้สะอาด แล้วคลุกกับเกลือ 2.จากนั้นนำเนื้อสับปะรดสับมาหมักรวมกับปลาสร้อย แล้วนำใส่โหลแก้วขนาดใหญ่หน่อย แล้วปิดฝาให้สนิท 3.ตั้งโหลแก้วไว้ในจุดที่แสงแดดส่องถึง หมักทิ้งไว้ราวๆ 6 เดือน-1 ปี ในช่วงการหมักนำจากตัวปลาจะเริ่มไหลออกมากลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ4.เมื่อได้ที่แล้วให้นำการตักน้ำปลาหมักใส่หม้อแล้วยกหม้อตั้งต้ม 5.จากนั้นทำการกรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระดาษกรองกาแฟก็ได้ค่ะ เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำปลาสีใสอำพันน่ารับประทานแล้วค่ะ ถือเป็นน้ำปลาดียอดเยี่ยม รสชาติอร่อย ไม่เค็มไป ไม่หวานไป คลุกข้าวก็อร่อยมากเลยละค่ะ ที่สำคัญไร้วัตถุกันเสีย ไม่ใส่น้ำตาล ผงชูรสและสารสังเคราะต่างๆอีกด้วยค่ะ ใครมีเวลาอย

เทคนิคใช้เงินอย่างถูกวิธี พอกันทีวงเวียนชีวิตแบบเดือนชนเดือน!

รูปภาพ
  เงินเป็นสิ่งที่หามาได้อย่างยากลำบาก ฉะนั้นเราควรที่จะรู้คุณค่าของเงิน แต่ถึงเราจะรู้อย่างนี้แล้ว ก็ไม่เคยทำได้เสียที สิ้นเดือนทีไร ต้องพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แถมบางครั้งยังไม่ทันครึ่งเดือน ก็เงินหมดเสียแล้ว วันนี้เราจึงนำ 9 วิธีการใช้เงิน และการเก็บเงิน อย่างรู้คุณค่า มาฝาก สิ้นเดือนหน้า จะต้องไม่จน! 9 วิธีการใช้เงิน และการเก็บเงิน กฎ 24 ชั่วโมง ก่อนจะซื้อของราคาแพง ใช้เวลาคิด และตัดสินใจก่อนซื้อ อย่างน้อยๆ  24 ชั่วโมง เพราะบางครั้ง เราซื้อของจากอารมณ์ชั่ววูบในขณะนั้น และสุดท้ายก็มานั่งเสียใจว่าจะซื้อมาทำไม หรือซื้อมาแล้วก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย วางแผนการใช้เงินและทำตามอย่างเคร่งครัด อาจจะฟังดูจุกจิกน่าเบื่อ แต่การวางแผนการใช้เงิน แบ่งเป็นสัดส่วน เงินส่วนไหนใช้ทำอะไร จะเก็บเงินเท่าไหร่ และทำตามอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเก็บ หลายๆ คนมักจะคิดว่า ถ้าเงินเหลือสิ้นเดือนค่อยเอามาเก็บ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยเหลือเก็บจริงๆ สักที ซื้อของที่ทำประโยชน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเงินแต่เพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่ใช้จ่ายอะไรเลย คุณสามารถซื้อของที่คุณอยากซื้อได้ แต่ควรซื้อของที่สามารถทำประโยชน์ได

ตำนานแดนสยาม! ชื่อเดิมของทั้ง 76 จังหวัดในไทย ที่หลายคนเกิดมาเพิ่งเคยรู้

รูปภาพ
  อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า ก่อนที่ประเทศของเรา จะมีชื่อเรียกว่าประเทศไทย ดินแดนในแถบนี้ก็เคยถูกเรียกว่า สยาม มาก่อน แต่ที่หลายคนอาจยังไม่เคยทราบก็คือ ชื่อเดิมของจังหวัดแต่ละจังหวัด วันนี้  GangBeauty  จึงมีเกร็ดความรู้รอบตัวดีๆมาฝากกน จังหวัดของคุณมีชื่อเดิมว่าอะไร ไปเช็กดูพร้อมๆกันได้เลยค่ะ ชื่อเดิมของจังหวัดทางภาคเหนือ 1. เชียงราย - เวียงชัยนารายณ์ 2. เชียงใหม่ - นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ หรือ เวียงพิงค์ 3. น่าน - นันทบุรี เมืองน่าน เมืองนาน 4. พะเยา - เมืองภูกามยาว พยาว 5. แพร่ - พลนคร เวียงโกศัย 6. แม่ฮ่องสอน - แม่ร่องสอน 7. ลำปาง - เขลางค์นคร 8. ลำพูน - หริภุญไชย 9. อุตรดิตถ์ - บางโพธิ์ท่าอิฐ (สมัยก่อนเป็นแค่ตำบล ไม่ได้เป็นจังหวัด) ชื่อเดิมของจังหวัดทางภาคอีสาน 10. กาฬสินธุ์ - บ้านแก่งสำเริง หรือบ้านแก่งสำโรง 11. ขอนแก่น - ขามแก่น 12. ชัยภูมิ - บ้านหลวง 13. นครพนม - มรุกขนคร และเปลี่ยนเป็น ศรีโคตรบูรณ์ 14. นครราชสีมา - โคราช โคราฆะ เสมา 15. บึงกาฬ - ชัยบุรี 16. บุรีรัมย์ - โนนม่วง เมืองแปะ 17. มหาสารคาม - บ้านลาดกุดยางใหญ่ 18. มุกดาหาร - เมืองมุกดาหาร 19. ยโสธร - สมัยก่อนเป็นหม