สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  9 สูตรหมูทอดรสเด็ดขายคู่กับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ ตั้งรถเข็นขายตอนเช้า สร้างรายได้เป็นอาชีพเสริมหรืองานประจำ 1. กระดูกหมูทอดกระเทียมพริกไทย ใช้ซี่โครงหมู 1/2 กก. เครื่องปรุง 1. ผงปรุงรส 1 ชต. 2. น้ำตาลทราย 1/2 ชต. 3. ซีอิ้วขาว 2 ชต. 4. กระเทียมสับ 2 ชต. 5. น้ำปลา 1 ชต. 6. รากผักชี 1 ชต. 7. พริกไทยป่น 1 ชช. 8. น้ำมันหอย 1 ชต. วิธีทำ 1. นำส่วนผสม ซี่โครงหมู, รากผักชี, พริกไทยป่น, กระเทียมสับ, น้ำปลา, ผงปรุงรส, น้ำตาล, น้ำมันหอย, ซีอิ้วขาว มาหมักทิ้งไว้ไห้เข้ากัน 2 ชม. 2. นำมาทอด ตั้งกระทะไห้ร้อน นำลงไปทอดพอเหลือง ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมันให้แห้ง พร้อมเสิร์ฟ 2. หมูแดดเดียว ใช้สันคอหมู 1/2 กก. เครื่องปรุง 1. น้ำมันหอย 3 ชต. 2. น้ำตาลทราย 2 ครึ่ง ชต. 3. งา 2 ชต. 4. กระเทียมสับ 3 ชต. 5. พริกไทยป่น 2 ชต. 6. ผงปรุงรส 1 ชช. 7. ซีอิ้วขาว 4 ชต. วิธีทำ 1. นำส่วนผสม น้ำมันหอย, น้ำตาลทราย, งา, กระเทียมสับ, พริกไทยป่น, ผงปรุงรส, น้ำตาล, ซีอิ้วขาว มาหมักทิ้งไว้ไห้เข้ากัน 1 คืน 2. นำมาออกมาตากแดดไห้แห้ง หรือ อบด้วยไฟ 80 °C ประมาณ 4 ชม. 3. พร้อมเสิร์ฟ ทานกับซอสพริก 3. หมูทอด หมูสันนอก 50 กรัม เครื่องปรุง 1.

  llจกฟรี สูตรน้ำปลาร้านัวๆ อร่อยมาก ทำขายรับรองว่ารวย เรียกได้ว่าเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน และเป็นเมนูยอดนิยมกันเลยทีเดียว กับปลาร้าแซ่บนัวถึงเครื่องถึงรส นำมาประกอบเมนูอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ต้ม แกง แค่พูดก็อยากกินแล้วล่ะค่ะ และในวันนี้เราได้มีสูตรการทำปลาร้าแซ่บนัวรสเด็ดมาฝากเพื่อนๆกัน รับรองว่าถ้าทำตามสูตรนี้ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน อย่ารอช้า มาดูกันเลยจ้า ส่วนผสมสูตรน้ำปลาร้า 1. ปลาร้าใช้ทั้งเนื้อและน้ำ 1 ก.ก. (ปลาร้าปลากระดี่จะไม่ค่อยอร่อยค่ะ ไม่ค่อยนัวกลมกล่อม เด็ดสุดจะเป็นปลาร้าตัวเล็กจากอิสานและทางเหนือค่ะ) 2. น้ำสะอาด 1 ก.ก. (ปริมาณของน้ำที่เติมขึ้นอยู่กับคุณภาพและความเค็มของปลาร้าที่ใช้ ลองชิมดูถ้าเค็มมากไปก็เติมน้ำอีกตามชอบ) 3. กะปิ 150 กรัม 4. น้ำกระเทียมดอง 100 กรัม + เนื้อกระเทียมดอง 3 หัว 5. กระเทียมไท ยบุบให้แตก 3 หัว (ล้างให้สะอาดใส่ทั้งหัวไม่ต้องแกะเปลือก) 6. น้ำตาลปี๊ป ½ ก.ก. 7. สับปะรด 50 กรัม 8. ผงโอวัลติน 2 ช้อนโต๊ะและผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะเพื่อให้สีเข้มสวยและกลิ่นหอม (สูตรดั้งเดิมใส่เม็ดกระถิ่นแก่คั่วแต่คงอาจจะหายากไปเค้าเลยมาปรับเปลี่ยน..ยังไม่เคยลองแบบ

  แกงกะทิสายบัวปลาทู อาหารไทยโบราณช่วยบำรุงกระดูก ต้มกะทิสายบัวปลาทู อาหารไทยโบราณ ในสมัยก่อนคนโบราณนิยมนำบัวสายมาประกอบอาหารทานไม่ว่าจะเป็นแกงกับกะทิ หรือผัด แต่เดี๋ยวนี้หาทานเมนูนี้ได้ยากขึ้น วันนี้เราเลยมีสูตรอร่อยจากบัวสายมาฝากให้ไปลองทำทานกันค่ะ บัวสาย มีสรรพคุณมากประโยชน์ ในสายบัวมีเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยป้องกันและต้านโรคมะเร็งในลำไส้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง อีกด้วย ส่วนผสม  - สายบัว - ปลาทูนึ่งสองตัว - น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลมะพร้าวใส่ด้วยก็ได้ - หัวกะทิ - น้ำปลา - มะขามเปียก เครื่องแกง - พริกไทยขาวเม็ด - กะปิอย่างดี 1 ช้อน - หัวหอมแดง วิธีทำ 1. ต้มสายบัวให้ยางดำๆออก ก็คือต้มน้ำทิ้งก่อนน่ะคะ สีของแกงจะได้ไม่คล้ำ ต้มสายบัวแล้วตักพักสะเด็ดน้ำออกให้หมด ก่อนนำมาแกง 2. โขลกเครื่องแกงพริกไทย กะปิ หอมแดง เตรียมไว้ค่ะ 3. ตั่งหม้อน้ำกะทิละลายกับเครื่องเครื่องแกง ก่อนใส่สายบัวเคี่ยวคนกะทิไปทางเดียวกันบ่อยๆกะทิจะได้ไม่จับกันเป็นก้อน แต่ส้มโอจะผสมน้ำเปล่าอีกนิดนึงค่ะค่อนแก้ว เพราะไม่ชอบให้กะทิเข้มขนหนืดมาก 4. ใส่สายบัวลงไปในน้ำกะทิเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้าตาล ชิมไ

  สูตรน้ำสลัดแบบเข้มข้นและอีก4สูตรให้เลือกทำและวิธีทำน้ำสลัดทำขายเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจ ส่วนผสม 1.ไข่แดง 2 ฟอง 2.เกลือป่น 1 ช้อน 3.น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง 4.นมข้น 4 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ 6.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 8.มัสตาร์ด 1 ช้อนชา วิธีทำน้ำสลัด 1.ตีไข่แดงและน้ำตาลทรายจนฟู แล้วเติมเกลือ มัสตาร์ด น้ำส้มสายชู และมะนาวตีให้เข้ากันอีกครั้ง 2.ค่อยๆเติมน้ำมันลงไปทีละน้อยแล้วตีไปเรื่อยๆจนน้ำมันหมด 3.เติมนมข้นลงไปแล้วตีให้เข้ากันจนน้ำสลัดมีลักษณะข้นแล้วชิมรสตามชอบ เคล็ดลับสำหรับการทำน้ำสลัดในปริมาณมากๆหรือทำขายเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจ อาจเพิ่มส่วนผสมไปตามอัตราส่วนแล้วเปลี่ยนจากวิธีตีน้ำสลัดเป็นการนำใส่โถปั่น โดยทำไปตามขั้นตอนก็จะทำให้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ 1. น้ำสลัดครีมวาซาบิ  ส่วนผสม น้ำสลัดครีมวาซาบิ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล 100 มิลลิลิตร น้ำตาลทราย 100 กรัม เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 250 มิลลิลิตร นมข้นหวาน 60 มิลลิลิตร วาซาบิสด 1/8 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ น้ำสลัดครีมวาซาบิ 2. เทน้ำมันมะกอกลงไป คนผสมเร็ว ๆ จนน้ำมันเป็นเนื้อเดียวกัน 3. เติมนมข้นหวานและวาซาบิสดลง

  ลองทำกินเลย! วิธีทอดไข่ดาวน้ำให้นุ่มสวยน่ารับประทาน ง่ายๆแค่ 2 ขั้นตอน ไข่ดาวน้ำ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่อยากกินไข่ดาวแต่ไม่ต้องการที่จะได้รับแคลลอรี่จากการทอดเยอะๆ เนื่องมาจากไข่ดาวน้ำไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันในการทอด ไข่ดาวน้ำจึงช่วยตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักแต่อยากทานไข่ดาว ในวันนี้เราจึงอยากมานำเสนอเคล็ดลับดีดีในการทอดไข่ดาวน้ำให้นุ่มสวยน่ารับประทาน ง่ายๆแค่ 2 ขั้นตอนที่คุณเองก็ทำได้ ตามมาดูวิธีการทำกันดีกว่า ขั้นตอนแรก • ไข่ที่จะนำมาทอดควรเป็นไข่ที่อุณหภูมิปกติ •  ถ้าหากเป็นไข่ที่เก็บไว้ในตู้เย็นควรนำออกมาให้หายเย็นก่อนทอด ขั้นตอนที่สอง • ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำที่จะทอด 1-2 หยด • เพื่อที่ไข่จะได้จับตัวกันเร็วขึ้น • แล้วคุณก็จะได้ไข่ดาวน้ำที่นุ่มสวยน่ารับประทาน หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว เป็นไงกันบ้างกับเคล็ดลับดีดีในการทอดไข่ดาวน้ำให้นุ่มสวยน่ารับประทาน ง่ายๆแค่ 2 ขั้นตอนที่คุณเองก็ทำได้ ไม่ยากอย่างที่คิดใช่ไหมละ ครั้งหน้าถ้าจะทำไข่ดาวน้ำ ก็อย่าลืมนำเอาเคล็ดลับดีดีแบบนี้ไปใช้กันนะ ที่มา...http://www.naarn.com/9397/ 

  แจกสูตรหุงข้าวเหนียว แช่เย็นยังไงก็ไม่แข็ง ทิ้งค้างคืนก็ยังนุ่ม...น่าทาน ถ้าพูดถึง ข้าวเหนียว ก็นึกจินตนาการเลยว่าต้องร้อนๆนุ่มๆ ยิ่งถ้าได้หมูฝอย หรือไก่ทอดสักชิ้น พร้อมส้มตำนี่ ไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว ว่าจะมีความอร่อยมากแค่ไหน วันนี้พูดถึงข้าวเหนียวล่ะ เรามาดูดีกว่าว่าเทคนิคง่ายๆที่จะเปลี่ยนข้าวเหนียวที่แข็งๆทำยังไงก็ไม่นิ่มมาฝากกันตามมาดูเลยว่าเค้ามีวิธียังไงกันบ้าง 1. นำข้าวเหนียวเก่า แช่น้ำนาน ประมาณ 6 ชม ส่วนข้าวเหนียวใหม่แช่น้ำนาน  3 ชม. 2. แช่เสร็จแล้วอย่าเอาน้ำแช่ข้าวทิ้งเด็ดขาดสำคัญมาก เค้าเรียกน้ำแช่ข้าว่า “น้ำหม่า” เก็บใส่ชามแช่ตู้เย็นไว้ เสริมความรู้ : น้ำหม่า อันนี้เรียกว่าหัวเชื้อเอาไว้แช่ข้ามในวันต่อไปและนำส่วนที่เหลือเอามาพรมข้าวเหนียวนั่นเอง 4. หลังจากแช่ข้าวเหนียวเสร็จแล้วก็นำมาใส่หวดนึ่งปกติ พอข้าวเกือบจะ น้ำมาใส่หวดนึ่ง ตามปกติ 5. พอข้าวใกล้จะสุกแล้วนำน้ำหม่าที่เก็บไว้ในตู้เย็นมาพรมๆปริมาณ 1/3 ถ้วย แล้วใช้ไม้พายคนจากด้านล่างขึ้นบนทั่วๆเบาๆ 6. หรือจะทำวิธีแบบโบราณก็ได้คือกระดกหวดสัก 2-3 ครั้ง ให้ข้าวเหนียวในหวดผสมกันให้หมดและนึ่งต่อ 7. ทำแบบข้อที่ 6 ไปทั้งหมด 3

  วิธีทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน เก็บไว้ทานเอง ทำง่าย อร่อยกว่าน้ำพริกแกงซื้อ จะทำ “น้ำพริกแกงเขียวหวาน” ให้ออกมาดีๆ มันต้องได้สูตรดีๆ เครื่องปรุง เครื่องเทศ ส่วนผสมถึงๆ และที่สำคัญมันต้องตำด้วยครกหินหนักๆ มันถึงจะละเอียดสุดๆ ว่าไหม? วันนี้เราขอแนะนำวิธีทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน โดยสมาชิกเว็บไซต์ Youtube ชื่อ Tukata Hemphill ซึ่งได้สอนทำน้ำพริกแกงเขียวหวานเก็บไว้ทานเองแบบง่ายๆ แถมยังอร่อยกว่าน้ำพริกแกงซื้ออีกด้วย ส่วนผสมเครื่องแกง น้ำพริกแกงเขียวหวาน พริกชี้ฟ้าเขียว 1 ถ้วย พริกขี้หนูเขียว 1 ถ้วย ข่า 2 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ 3 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูด 2 ช้อนโต๊ะ หอม 6 หัว กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ ราก หรือ ก้านผักชี 1 ถ้วย พริกไทยขาว 1 ช้อนโต๊ะ เม็ดยี่หร่าป่น 2 ช้อนโต๊ะ ลูกผักชีป่น 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำดูตามคลิปด้านล่างเลยค่ะ วิธีทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน โดย Tukata Hemphill ทิป: สำหรับการเลือกพริกสดสีเขียวมาใช้ทำ น้ำพริกแกงเขียวหวาน นั้น หากไม่ชอบเผ็ดมากนัก ก็สามารถเลือกใช้พริกที่ไม่เผ็ดมากมาใช้ได้เช่นเดียวกัน เช่นเปลี่ยนไปใช้พริกชี้ฟ้าสีเขียว ซัก 5-6 เม็ด แกะเอาเม็ดออกก็สามารถใช้ได้ดีทีเ