สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  ชาเย็นชงได้เองที่น เข้มข้นหอมชาเต็มๆ หวานมันอร่อย ตามร้านกาแฟเครื่องดื่มที่หลายคนชื่นชอบนอกจากเมนูกาแฟแล้ว เมนูชาเย็นก็ยังคงเป็นเมนูยอดฮิตของคนบ้ า นเรา ด้วยรสชาติที่มีความอร่อยมีความเข้มข้นหอมกลิ่นใบชาอย่างเต็มๆ บวกกับความหวานมัน ไม่ว่าจะดื่มเป็นเครื่องดื่มร้อนๆ เป็นเครื่องดื่มเย็นก็ได้ ให้ความอร่อยความสดชื่นที่ดีได้ ใครที่ชื่นชอบในการดื่มชาเย็นแล้วไม่อยา กที่จะออกไปซื้อ เราได้มีการชงดื่มเองที่บ้ า นมาฝากกัน โดยที่ไม่ต้องใช้วัตถุดิบอุปกรณ์มากมาย สามารถหาได้ในครัวของ เราแต่จะมีผงชาที่เราควรมีเอาไว้ ให้เลือกเป็นยี่ห้อใด ก็ได้ที่ชื่นชอบ เมื่อพร้อมแล้วเราตามมาดู กันเลยว่าทำชงดื่มอย่างไร วัตถุดิบอุปกรณ์ 1 นมข้นหวาน 2 นมสดจืดคาร์เนชั่น 3 น้ำตาลทราย 4 ผงชาเย็น ยี่ห้อใด ก็ได้ 5 ถุงชา 6 ช้อนชง 7 น้ำแข็งป่น ขั้นตอนการทำ 1 ผงชาเย็นในนี้ จะใช้เป็นชาตรามือ เพราะมีกลิ่นความหอมมีรสชาติที่ดี แต่หากใครชื่นชอบในยี่ห้ออื่นๆก็สามารถเลือกนำมาชงได้ ตักผงชาใส่ลงไปในถุงชาจำนวน 3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปแช่ไว้ในแก้วสแตนเลสที่ทนความร้อนได้ 2 เติมน้ำร้อนจัดใส่ลงไปในถุงชา 3 กระบวย แล้วแช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที 3 เม

  ลดลงไปได้ 10 ปี น้ำมันมะพร้าว หาติดบ้านเอาไว้ น้ำมันมะพร้าวที่จะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ มีความมัน เป็นสิ่งที่หลายคนได้รู้จักกันเป็นอย่างดี และสำหรับความดังความโดดเด่นของน้ำมันมะพร้าวนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของความงามของคุณผู้หญิงทั้งหลาย น้ำมันมะพร้าวเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้ผิวของคุณแลดูอ่อนเยาว์ลงไปได้เป็น 10 ปี จะสามารถช่วยทำให้ผิวมีความนุ่มชุ่มชื้นมีความเรียบเนียน แถมยังมีประโยชน์อื่นอย่างมากมาย ด้วยเคล็ดลับความงามทำอะไรได้บ้ างนั้นเราตามมาดูด้านล่างนี้ไปพร้อมๆกันเลย 1 ผิวชุ่มชื้นตลอดทั้งคืน ด้วยผิวหน้าที่จะต้องเจอกับฝุ่น ลม แดด ควันต่างๆนั้น แน่นอนว่าจะทำให้ผิวหน้าของเรารวมถึงผิวตัวมีความหมองคล้ำ มีผิวที่แห้งและดูไม่สดชื่น น้ำมันมะพร้าวเป็นตัวช่วยที่ดีได้ โดยให้นำมาทาบนใบหน้าก่อนเวลาเข้านอน ทำการนวดอย่างเบามือ จะรู้สึกได้ว่าน้ำมันจะแทรกซึมเข้าไปในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความนุ่มชุ่มชื้นขาวกระจ่างใสได้ ทำอย่างเป็นประจำจะช่วยลด อา ยุไปได้เป็น 10 ปีเลยทีเดียว 2 น้ำมันมะพร้าวช่วยผิวเรียบเนียน สำหรับปัญหาในเรื่องของเซล ลู ไลท์ที่เกิดขึ้นใต้ชั้นผิวของเรานั้น หลายคนมองหาวิธีการแก้ที่จะต้องเสีย

  ทำยังไงให้นุ่ม หอมฟุ้ง พร้อมการหุงข้าวเหนียวหอมนุ่ม เมนูยอดฮิตสำหรับเมนูอาหารเช้าในวันนี้เราได้มีสูตรง่ายๆ ที่สามารถทำตามกันได้ไม่ยากเลย สำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมอาชีพหลัก หรือจะทำทานกันเล่นๆ เราแนะนำในสูตรนี้เลย กับเมนูการทำห มู ปิ้งนมสดที่ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ อุปกรณ์ในการทำ 1 ไม้ปลายแหลมสำหรับเสียบห มูปิ้ง 2 เตาถ่านหรือเตาไฟฟ้าก็ได้แต่แนะนำให้ใช้เตาถ่านจะดีกว่า จะหอมกว่า 3 เหล็กปิ้ง เครื่องปรุงการทำ เนื้อห มูติดมันเล็กน้อย 1 กิโลกรัม, นมสด 1/2 ถ้วยตวง, กระเทียม 1 หัว, ซีอิ้วขๅว 3 ช้อนโต๊ะ, พริกไ ท ยเม็ด 1 ช้อนชา, ชึอิ้วดำหวาน 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันพืช, รากผักชีบด 4 ราก , น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนในการทำ 1 เริ่มด้วยการนำเนื้อห มูไปล้างน้ำให้สะอาดดี จากนั้นนำมาหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำไม่ควรหนาจนเกินไป ยิ่งบางก็จะยิ่งทำให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ควร บางมากเกินไป 2 นำเครื่องปรุงกระเทียม รากผักชี พริกไท ยมาโขลกรวมกัน แล้วให้ใส่ลงไปในภาชนะ เติมเครื่องปรุงทั้งหมดที่ได้เตรียมเอาไว้ใส่ลงไปคนให้เข้ากัน อย่าลืมที่จะใส่นมสดลงไปด้วย 3 นำเนื้อห มู ที่ได้เตรียมเอาไว้แล้

  ทำกินเอง ฟักทองสังขยา หวานหอมเนื้อเนียนนุ่ม ฟักทองสังขยาเป็นเมนูขนมหวานโบราณที่เราจะเห็นอยู่ตามร้านขนมหวาน แต่ในส่วนมากนั้นเราจะเห็นแต่สังขยาที่จะทานคู่กับข้าวเหนียว แต่ในวันนี้เมนูฟักทองสังขยาที่หลายคนชื่นชอบ แต่น้อยร้านที่จะทำกัน เราได้มีสูตรการทำมาบอกกับเพื่อนๆทุกท่านได้ลองนำสูตรนี้ไปทำตามกันได้ โดยเราจะมีทริคในการทำพร้อมทั้งส่วนผสมขั้นตอนในการทำแต่ละขั้นตอน ทริคการทำที่ต้องรู้ไว้ – เราจะไม่ใช้มือที่เปียกน้ำตอนที่คนส่วนผสม เพราะจะทำให้ส่วนผสมขนมของเรานั้นมีกลิ่นที่เหม็น คาวได้ – สำหรับถ้วยนึ่ ง เราจะต้องใช้ให้พอดี กับลูกฟักทอง เพื่อที่จะได้เนื้อฟักทองไม่แตก ให้มีเนื้อที่อร่อย – การทำขนมโบราณในแต่ละเมนูนั้น สิ่งสำคัญเราจะต้องใจเย็นๆ ใช้ไฟอ่อนๆเพื่อที่จะได้เนื้อมีความเนียนมีความอร่อย และมีความน่ารับประทานมากขึ้น – น้ำตาลที่ใช้เราจะใช้เป็นน้ำตาลโตนดจ ะให้ความหอมให้ความหวาน และมีรสชาติของความอร่อยมากขึ้น ส่วนผสมการทำ 1 ฟักทอง 1 ลูก (ประมาณ 200 กรัม) 2 ไข่เป็ดไล่ทุ่ง 4 ฟอง 3 น้ำตาลโตนด 1 ถต 4 ใบเตย 4 ใบ 5 หัวกะทิ (300 กรัม) 1/3 ถ้วย + 2 ชต 6 ฝอยทอง ขั้นตอนการทำ 1 เราจะเริ่มด้วยการนำฟัก

  ขนมหม้อแกง หอมหวานมันกะทิ สูตรทำง่าย ขนมหม้อแกงเป็นเมนูขนมของฝากที่หลายๆคนมักจะเลือกซื้อกัน ด้วยตัวขนมหม้อแกงน้ำเป็นเมนูขนมว่างทานเล่นของคนโบราณที่มีกันมานาน แต่ในปัจจุบันนี้เราก็จะเห็นได้ว่ามีอยู่มากมายและมีให้เลือกหลายหน้าด้วยกัน ขนมหม้อแกงได้มีการพัฒนาหน้าตาของขนมให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหม้อแกงเผือกหม้อแกงเม็ดบัว ซึ่งก็ต่างเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน เพราะด้วยรสชาตินั้นจะมีความนุ่มมีความหอม มีรสชาติของความหวานที่กำลังดี นำมาทานเป็นเมนูของว่างทานเล่นกันได้ และยังเป็นที่ชื่นชอบกันอย่างแน่นอน และเราก็ได้มีสูตรการทำมาฝากให้กับทุกท่านได้ทำตามกันได้ ตามมาดูในส่วนผสมพร้อมทั้งวิธีการทำเคล็ดลับความอร่อยด้านล่างนี้ เครื่องปรุง ส่วนผสมที่ต้องเตรียม 1 ถั่วเขียว250 กรัม (เผือก, เม็ดบัว, อื่นๆ) 2 น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง 3 หัวกะทิ 1ถ้วยตวง 4 น้ำตาลปี๊บ 250กรัม 5 เกลือป่น1/4 ช้อนชา 6 ไข่เป็ด3 ฟอง 7 หอมแดงซอย 3 ลูก 8 ใบเตย 3 ใบ วีธีการทำขนมหม้อแกง 1 เมื่อได้เตรียมส่วนผสมข้ามต้นเสร็จเป็นที่เรียบร้อย มาถึงวิธีการทำ ให้นำหอมแดงซอยไปเจียวในน้ำมันจนมีความเหลืองและมีความกรอบ 2 ถั่วเขียวให้นำ

  สมุนไพรกระชายดีกว่าโสม หาได้ง่าย ผลลัพธ์ดีมาก สมุนไพรของทางบ้ า นเรานั้นหลายๆคนคงจะทราบกันดีว่าสมุนไพรในแต่ละชนิดล้วนได้ให้ประโยชน์ที่ดีมากๆต่อสุข ภาพร่างกายของเรา แต่แน่นอนว่าก็ใช่ว่าจะดีกับทุกคน หากเราทานมากๆจนได้รับปริมาณที่มากจนเกินไป ก็อาจจะสะสมในร่างกายของเรา บางชนิด ก็ไม่ดีต่อร่างกายของเรา เพราะฉะนั้นควรเลือกทานอย่างเหมาะสม ไม่น้อยไม่มากจนเกินไป วันนี้เราได้มีสมุนไพรที่เรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรที่ดีมากๆ ได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกายของเรา หลายคนคงจะทราบกันว่าโสมเป็นสมุนไพรที่ดีมากๆ แต่ที่ดีไปกว่าสมนั่นก็คือกระชาย ที่มีคุณสมบัติที่ดี ทั้งยังไม่มีส า รต่างๆ และที่สำคัญนั้นเรายังหาได้ง่าย มีราคาที่ถูกกว่าเยอะมากๆ กระชายที่ดีที่สุดนั่นคือกระชายเหลือง ( กระชายเหลืองคือกระชายที่เราใช้ในการปรุงเครื่องแกงต่างๆ ) ลองลงมาก็คือกระชายแดง กระชายดำ ซึ่งวันนี้เราได้มีสูตรการทำเครื่องดื่มสมุนไพรน้ำกระชายมาฝากให้กับทุกท่าน ที่รักสุข ภาพได้ลองทำกันดู ซึ่งเมื่อดื่มอย่างเป็นประจำนั้น จะให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆต่อตัวเราเอง วิธีทำน้ำกระชายเหลืองสำหรับดื่ม วิธีทำเครื่องดื่มน้ำกระชายแก้วนี้นั้นก็ไม่ยาก ให้เรานำก

  คนชอบกิน เก็บสูตรไว้ทำเลย รสชาติอร่อย แถมทำง่ายๆ สวัสดีเพื่อนๆทุกท่านพบกันเช่นเคย และแน่นอนว่าวันนี้เราได้มีเมนูไข่มาแจกให้กับเพื่อนๆกัน แต่เมนูไข่ที่เราว่ามานี้ไม่ใช่ไข่ธรรมดา เพราะเราจะสอนวิธีการทำ เมนูไข่เยี่ยวม้า หรือ ไข่สำเภา เป็นเมนูที่มีการแปรรูปไข่ที่มีมาตั้งแต่โบราณ สามารถทำได้ทั้งไข่เป็ด ไข่ไก่ รวมถึงไข่นกกระทา โดยจะผ่ า นกระบวนการแช่หมักในส่วนผสมที่มาจากปูนขาว เกลือ โซเดียม คาร์บ อ เนต ใบชาดำ ซิงค์ ออก ไซด์และนำเปล่า ซึ่งจะมีเวลาในการหมักอยู่ที่ประมาณ 15 ถึง 20 วันเพื่อที่จะทำให้ไข่นั้นเกิดความเป็นด่าง แต่ในหลายๆที่เราจะสังเกตเห็นได้ว่าไข่เยี่ยวม้าที่มีเปลือกเป็นสีชมพู โดยปัจจุบันนี้ในส่วนมากจะเกิดจากการพ่นสีหรือทาสีลงไปที่เปลือกไข่หลังจากที่มีกระบวนการหมัก แต่ถ้าหากพูดถึงในสมัยเมื่อก่อนนั้น จะทาด้วยปูนแดงที่เอาไว้กินกับหมาก จึงทำให้เปลือกไข่มีสีที่ต่างไปจากเดิม หากเพื่อนๆท่านไหนที่ชื่นชอบในการทานแต่ยังไม่รู้วิธีการทำ เราจะเปลี่ยนจากซื้อมาเป็นทำเองก็สามารถทำตามกันได้ง่ายๆเลย การเก็บรักษาไข่เยี่ยวม้าอย่างถูกวิธีและให้มีความสะอาดนั้น เราสามารถเก็บไข่ได้นานเกือบ 6 เดือน และสา

  การทำให้เนื้อนุ่ม รสชาติอร่อย ทำเองเปิดร้านได้เลย เราจะพาทุกท่านมาเข้าครัวกันเช่นเคย และสำหรับในวันนี้ เมนูที่เรามีมาฝากกันก็จะเป็นเมนูการทำห มูแดงแสนอร่อยที่ให้รสชาติเหมือนกับร้านชื่อดังที่หลายคนชื่นชอบ มีเนื้อสัมผัสของความนุ่ม มีรสชาติของตัวซอสที่หวานกำลังดีน่ารับประทาน นำมาทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆหรือจะทานคู่กับบะหมี่แห้งก็ให้ความอร่อย สูตรที่เรานำมาในวันนี้ เป็นสูตรที่ทำตามกันได้ไม่ยาก เพื่อนๆสามารถนำสูตรนี้ทำทานกันเองในครอบครัว หรือใครที่ทำเก่งๆก็สามารถที่จะหยิบยกสูตรนี้ไปเปิดร้านสร้างเป็นอาชีพเสริมอาชีพหลักได้ง่ายๆ สิ่งที่ต้องเตรียม 1 สามชั้นหั่นหนา 2 ซ.ม. 1 กิโลกรัม 2 ถาดอบพร้อมตะแกรง 3 เครื่องสำหรับห มูแดง 4 น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย 5 ผงพะโล้ 1 ช้อนชา 6 สีแดงอมส้ม 1/2 ช้อนชา 7 เกลือ 1/2 ช้อนชา 8 เห ล้ า จี น 1 ช้อนโต๊ะ วิธีในการทำ 1 ในขั้นตอนแรกเราจะใช้เครื่องสำหรับในการหมักห มูแดง น้ำผึ้ง ผงพะโล้ เกลือเห ล้ าจี นและตามด้วยสีแดงอมส้มเล็กน้อย นำมาผสมให้เข้ากันดี 2 ตามด้วยใส่เนื้อห มูสามชั้นที่เราได้ล้างและหั่นเตรียมเอาไว้ลงไปหมักในเครื่องปรุงส่วนผสม เป็นเวลานานประมาณ 60 นาทีในตู้เย็น 3 เ

  สามชั้นทอดหอมน้ำปลา 3 สูตรความอร่อย ทานคู่น้ำจิ้ม เมนูกับข้าวหรือจะเป็นเมนูกับแกล้มทานเล่น กับเมนูสามชั้นทอดน้ำปลา ยังคงเป็นเมนูที่หลายๆคนชื่นชอบในการรับประทาน ด้วยรสชาติของความอร่อยมีความกรอบนอกนุ่มในและมีกลิ่นความหอมของน้ำปลา ทั้งมีรสชาติของความเข้มข้น นำมาทานคู่กับน้ำจิ้มข้าวสวยหรือข้าวเหนียว การทำสามชั้นทอดน้ำปลา หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ยากเพราะจะต้องเตรียมการหมักการทอดมีหลายขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่ในวันนี้เราได้มี สามชั้นทอดน้ำปลาทั้ง 3 สูตรเป็นแบบฉบับทำง่ายๆใช้ส่วนผสมเครื่องปรุงไม่มาก เราตามมาดูกันเลย สูตรที่ 1 แบบกรอบ ทานอร่อย สามชั้น 500 กรัม , น้ำปลาอย่างดี 3-4 ช้อนโต๊ะ , ไข่ไก่ 1 ฟอง , พริกไ ท ยป่น (เล็กน้อย) , ผงปรุงรส (เล็กน้อย) , แป้งชุบทอด 5-7 ช้อนโต๊ะ , น้ำมันพืช (สำหรับทอด) , น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนโต๊ะ , เกลือป่น (เล็กน้อย) , น้ำเย็น วิธีทำสามชั้นทอดน้ำปลา 1 นำสามชั้นมาล้างน้ำเปล่าทำความสะอาดจากนั้นนำส้อมมาจิ้มให้ทั่วและนำไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาดดี ทำการหมักเข้ากับเครื่องปรุงพริกไท ยป่น น้ำปลา ผงปรุงรส เติมแป้งชุบทอดและไข่ไก่ลงไป นวดส่วนผสมให้เข้ากันหมักทิ้งเอาไว้ 30 นาท

  เอาไว้ทำ เห็ดเข็มทองทอด ทำง่ายใน 3 นาที เคี้ยวเพลิน สำหรับท่านไหนที่เบื่อเมนูเห็ดเข็มทองแบบเดิมๆ วันนี้เราได้มีเมนูอาหารทานเล่นที่ได้จากเห็ดเข็มทอง เรามาเปลี่ยนสไตล์มาทำเป็นเมนูการทอดที่จะให้ความกรอบ เคี้ยวได้อร่อยเพลินๆ ส่วนผสม 1 เห็ดเข็มทอง ตามปริมาณที่จะทำ 2 แป้งทอด กรอบ 1/2 ถ้วย 3 ไข่ 1 – 2 ฟอง วิธีการทำ 1 ก่อนอื่นเลยให้ล้างเห็ดเข็มทองให้สะอาดดี จากนั้นให้นำมาฉีดเป็นลักษณะช่อๆแต่ไม่ต้องเป็นฝอยมาก ตักขึ้นใส่ตะแกรง พักเอาไว้ให้สะเด็ดน้ำ 2 ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปในจาน ตีให้เข้ากัน 3 นำเห็ดเข็มทองที่เราแบ่งเป็นช่อล้างเตรียมเอาไว้จุ่มลงไปในไข่ แล้วให้นำเห็ดเข็มทองมาคลุกต่อด้วยแป้งให้ทั่วทั้งหมด 4 ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปรอจนร้อน จากนั้นให้เรานำเห็ดเข็มทองลงไปทอดเราจะใช้ไฟไม่ต้องร้อนมาก เพราะเดี๋ยวจะไ ห ม้ ทอดพอให้มีความเหลือง จากนั้นตักขึ้นพักเอาไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ทริคเพิ่มความอร่อย – สำหรับเพื่อนๆท่านไหนที่ต้องการให้มีสีสันที่น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น นำผักต่างๆเช่น แครอท แตงกวา ถั่วลันเตา หรือผักต่างๆที่ชอบนำมาหั่นเป็นลูกเต๋า ก่อนที่เราจะนำเห็ดลงไปทอด ให้เรานำเห็ดมาชุบกับผักที่เราทำเตรียมไว

  ท้องราบ 3 ข้อง่ายๆ ทำได้ทุกวัน ทำแล้วหน้าท้องแบนราบ ใครเป็นกันไหมกับการที่นั่งห้องน้ำเป็นเวลานานแต่ก็ถ่ายไม่ออก หรือในบางทีบางวันนั้นก็ถ่ายอย่างไม่เป็นเวลา อย่าไปคิดว่านั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะนั่นจะเป็นสาเหตุหลักที่จะทำให้สุ ข ภ าพของตัวคุณนำไปสู่โ ร คต่างๆได้ สำหรับใครที่มีปัญหาเหล่านี้อยู่ วันนี้เรามีวิธีดีๆที่จะช่วยให้การถ่ายของคุณเป็นได้อย่างปกติ จะได้สบายตัวสบายหน้าท้อง และที่สำคัญยังช่วยทำให้ไม่สะสมของเสียในร่างกายของเราเอาไว้ สาเหตุของแข็งที่ตกค้าง – การรับประทานอาหาร ในบางทีอาจจะมีการเคี้ยวอาหารที่เร็วจนเกินไป ไม่ละเอืยด พอกลืนเข้าไปก็มักจะสะสม อยู่ภายในซึ่งจะทำให้ย่อยได้ยาก – ทานอาหารที่มีกากใยน้อยหรือไม่มีกากใย ไม่ชอบทานผักผลไม้ มักจะเป็นสาเหตุหลักๆ – ทานอาหารที่แปลกๆ ไม่สะอาด – ไม่มีการถ่ายก่อนเวลา 8:00 น ในช่วงเช้า ซึ่งนั่นจะทำให้ลำไ ส้ ของเราบีบตัว ทำให้ของแข็งย้อนกลับขึ้นไปด้านบน ถึงจะมีการถ่ายออกแต่ก็ถ่ายออกได้อย่างไม่หมด จึงเกิดเป็นการสะสมอยู่ภายใน สูตรเครื่องดื่มช่วยแก้ได้ สูตรที่ 1 เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชาใส่ลงไปในแก้วเติมน้ำอุ่นตามลงไป แช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที

  ชวนทำสังขยาชาเย็น เนียนนุ่ม หวานหอมชา ทานคู่ขนมปัง สังขยาชาเย็นที่โดยปกติแล้วมักจะนำมาทาบนขนมปัง เอาไว้ทานคู่กันขนมปังเนื้อนุ่มและตัวสังขยาที่ให้ความหอม ให้รสชาติของความอร่อย ซึ่งจะได้กลิ่นความหอมของชาบวกกับความหวานกลมกล่อมที่กำลังดี ในบางร้านก็มักจะมีรสชาติที่หวานจนแสบคอ บางร้านก็มีรสชาติที่จืดชืดไม่มีความหอมของชา แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเปลี่ยนจากซื้อ มาเป็นทำเอง เพราะสามารถทำเองได้ด้วยวิธีง่ายๆนี้ที่เรามีมาฝากกัน เป็นวิธีการทำสังขยาชาเย็นที่จะให้เนื้อเนียนนุ่ม มีความหอมหวานที่กำลังดี ทานคู่กับขนมปังหรือเมนูอื่นๆที่ชอบได้เลย ส่วนผสมสังขยาชาเย็น 1 ผงชาไท 5 ช้อนโต๊ะ (ชงกับน้ำร้อนให้ได้ 1 ถ้วย) 2 ไข่ไก่ 5 ฟอง 3 แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วย 4 นมสด 500 มิลลิลิตร (หรือกะทิ) 5 น้ำตาลทราย 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย 6 เกลือป่น 1 ช้อนชา 7 นมข้นจืด 1 ถ้วย วิธีการทำสังขยาชาเย็น 1 มาถึงวิธีการทำ ตักผงชาตักใส่ลงไปในถุงแช่ชา แล้วนำไปวางไว้บนแก้วสแตนเลสที่สามารถทนความร้อนได้ เติมน้ำร้อนจัดลงไปแล้วพักเอาไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อความเข้มของชา จากนั้นให้เราบีบผงชาเอาแต่น้ำ 2 ขั้นตอนถัดมาตีผสมไข่ไก่จำนวน 5 ฟองให้เข้

  บัวลอยไข่หวานโบราณ สีสวยจากธรรมชาติ ไข่หวานเยิ้มๆ สำหรับเพื่อนๆท่านไหนที่มีใจรักในการทำอาหาร วันนี้เราได้มีเมนูขนมหวานง่ายๆมาฝากกัน สำหรับใครที่ชอบทานบัวลอยไข่หวานต้องไม่ควรพลาดในสูตรนี้ เพราะที่เรานำมาฝากกันในวันนี้นั้น เป็นสูตรที่ตามกันได้ไม่ยากแถมยังได้รสชาติของความเข้มข้นความอร่อย และที่สำคัญไม่เหม็น คาวอย่างแน่นอน มีสีสันที่น่ารับประทาน ทานพร้อมกับคู่เคียงไข่หวานเข้ากันดีสุดๆ เมื่อพร้อมแล้วเราตามมาดูกันเลย ส่วนผสม บัวลอยไข่หวานแสนอร่อย – แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย – น้ำ 1/4 ถ้วย – เผือกนึ่ งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง) – ฟักทองนึ่ งสุก (หรือสีผสมอาหารเหลือง) – น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว) – น้ำกะทิ 1 ถ้วย – น้ำตาลทราย 1 ถ้วย – เกลือป่น 1 ช้อนชา – ไข่ไก่ วิธีทำบัวลอยไข่หวาน 1 แบ่งแป้งที่ได้เตรียมเอาไว้ออกเป็น 3 ส่วน ในส่วนแรกให้นวดผสมแป้งกับน้ำและเผือกนึ่ งสุก ในส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำและฟักทองสุก ในส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย ทำการนวดส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนลักษณะกลมๆ แล้วนำไปคลุกกับแป้งข้าวเหนียว บางๆเตรียมรอเอาไว้ 2 เทน้ำกะทิใส่ลงไปในหม้อและตา