สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  หมูย่าง เป็นเมนูที่ทานกันได้ทุกวัย รสชาติอร่อย นุ่ม หอม ทานกับส้มตำ ข้าวเหนียว ยิ่งฟิน ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำสูตร "หมูย่างตะไคร้" ของ  ครัวบ้านพิม  มาบอกกัน เผื่อมีเวลาว่างอยากจะลองทำทานกันในครอบครัว บอกเลยสูตรนี้ใช้ส่วนผสมและเครื่องปรุงไม่เยอะ ขั้นตอนการทำก็ง่าย แต่รสชาติที่ได้เด็ดมาก ไม่ต้องกินกับน้ำจิ้มอีกก็อร่อยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปเข้าครัวทำกันเลย ส่วนผสม - หมูสันคอ 200 กรัม  แล่เป็น 2 ชิ้น - กระเทียมไทย 1 ชต. - ตะไคร้สดๆ  2 ต้น - หอมแดง  2 หัว - พริกไทยดำบุบหยาบๆ 1/2 ชช. - ซีอิ๊วขาว 1 ชต. - น้ำตาลทราย 1/2 ชต. - ซอสหอยนางรม 1 ชต. ขั้นตอนการทำ 1.โขลก ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม ให้ละเอียด ตักใส่ชาม 2.ใส่ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น น้ำตาลลงไป 3.คนให้น้ำตาลละลาย แล้วนำหมูลงไปเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้อย่างน้อย 1 ชม. ในตู้เย็น (ช่องธรรมดา) 4.จากนั้นนำหมูที่หมักไว้แล้วไปย่างให้สุก หู้ยยย...น่าทานมากๆเลยค่า ใครสนใจอยากลองทำกินที่บ้าน ลองนำสูตรนี้ไปทำตามดูนะคะ รสชาติอร่อยมากกกก คอนเฟิร์มเลยค่ะ

  วันเอาใจคนรักอาหารทะเล โดยเฉพาะคนรักหอยแครง เพราะ GangBeauty มีสูตรลวกหอยแครงให้อร่อยถุกใจมาฝากค่ะ เนื้อหวานๆ มาพร้อมกับสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ บอกได้เลยว่าพลาดไม่ได้ รับรองทำไม่ยาก ถ้าใครชอบทานตามไปดูส่วนผสมและขั้นตอนการทำได้เลยจ้า ส่วนผสม 1. หอยแครงลวก 2 กิโลกรัม 2. มะนาว 3. กระเทียม 4. รากผักชี 6. ผักชีซอย 7. น้ำตาลปี๊บ 8. เกลือ 9. เครื่องต้มยำ (ตะไคร้, ใบมะกรูด และข่า) 10. น้ำแข็งก้อน 11. น้ำส้มสายชู ขั้นตอนการทำ 1. ล้างหอยให้สะอาด อย่าให้มีโคลนหลงเหลืออยู่ 2. นำหอยที่ล้างเสร็จแล้วไปแช่น้ำ ใส่เกลือทิ้งไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนแช่ทิ้งไว้ราว 20 นาที 3. ระหว่างที่แช่หอยแครงทิ้งไว้ มาทำน้ำจิ้มกัน เริ่มจาก นำพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชี ไปปั่นในเครื่องปั่นอาหารขนาดเล็ก (หรือจะใช้วิธีตำให้ละเอียดก็ได้) 4. ผสมมะนาว น้ำตาลปี๊บ ลงในถ้วย คนให้เข้ากัน 5. นำพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชี ที่ปั่นรวมกันแล้ว ไปใส่ลงในถ้วยที่มีน้ำตาลปี๊บและน้ำมะนาว จากนั้นเติมเกลือลงไปเพื่อปรุงรสเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันดี เพียงเท่านี้น้ำจิ้มซีฟู้ดก็เสร็จเรียบร้อย 6. มาถึงขั้นตอนการลวกหอย เริ่มจากตั้งห

  สวัสดีจ้า!! วันนี้  Gang Beauty  มีเคล็ดลับการทำน้ำจิ้มแจ่วสุดอร่อย สูตรของ  คุณใหม่ หัดเข้าครัว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ซึ่งได้สอนวิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว ไว้กินกับเมนูอาหารย่างสุดอร่อยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น หมูย่าง ไก่ย่าง ไส้ย่าง เป็นต้น แถมยังเป็นสูตรไม่ใส่ผงชูรสอีกด้วยนะคะ แต่รับรองว่าได้ว่า รสชาติอร่อยกลมกล่อม แซ่บนัวร์ ถูกปากติดใจกันแน่นอน จะมีขั้นตอนกาเตรียมของและวิธีการทำอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า วัตถุดิบและส่วนผสม น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ พริกป่นคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย 1-2 ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่ง 1-2 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว 1.ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาวเพิ่มความหอม คนให้เข้ากัน 2.จากนั้นใส่พริกป่นที่คั่วเอง จะหอมมากๆ เลยค่ะ ตามด้วยหอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย หรือเพื่อนๆ จะใช่ต้นหอมก็ได้ ตามใจชอบ ขั้นตอนสุดท้ายจะโรยผงข้าวคั่วที่เราทำเอง ซึ่งเป็นสูตรที่หอมและนัวมาก โดยไม่ต้องใส่ผงชูรสเพิ่มเลยค่ะ แนะนำว่าถ้าใส่เยอะเกินไปข้าวคั่วจะไปดูน้ำจิ้มแจ่วจนแห้ง ให้ค่อยๆ ใส่ทีละนิดดูความเข้มข้นว่า

  ก่อนพูด ก่อนทำอะไรลงไป จงคิดให้ดี ไม่ใช่ทุกคนที่รักหรือชื่นชมในตัวเรา หากเราทำอะไรไม่เข้าตาใครเขา คนรอเหยี ย บก็อาจจะเยอะกว่าที่คิดไว้ก็ได้ โลกมันไม่ได้ เ ล ว ร้ า ย นะ แต่มันก็ไม่สวยงามมากเหมือนกัน และนี่ เป็น “6 ข้อดี ของการเป็นคนนิ่งๆ” แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป 1. ครองสติได้ดีมากขึ้น การที่เราเป็นคนนิ่งๆ เขาจะหยุดคิดให้รอบคอบ ในทุกๆ สิ่งก่อนที่จะทำ การควบคุมตนเองได้แม้ใน ย า มโ ก ร ธ ถือว่าเป็นข้อดีมาก ถ้าเราใจร้อนข าดสติ อาจ เผลอไปทำอะไร ที่ไม่ควรไปก็ได้ กลายเป็นการเข้าใจผิ ดกัน 2. ผู้อื่นก็คาดเดาได้ย าก ทำให้คนอื่นๆ มองเราไปอีกแบบ ก่อนที่เขาจะทำอะไร ก็จะคิดเยอะหน่อย และมีความเกรงใจเราอยู่บ้าง เพราะงั้น นิ่งๆ ไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ทำให้รักษาระยะห่าง และมีความเกรงใจซึ่งกันและกัน เรื่องต่างๆ ที่จะตามมาก็น้อยลง 3.ผู้อื่นเกรงใจ ไม่กล้ายุ่ง ก็เพราะ การที่เราเป็นคนนิ่งๆ จึง ย ากจะคาดเดา ดูเป็นคนที่สุขุม เยือกเย็น เป็นผู้ใหญ่ และคนส่วนใหญ่เลยขอไม่ยุ่งจะดีกว่า ไม่อย ากมีปัญห าด้วย 4. เก็บความรู้สึกเก่ง คนนิ่งๆ นี่แหละ เขาจะจัดการอารมณ์ของตนเองได้ดี และมีวิธีดีๆ เตรียมไว้เ อาคืนที่ดีกว่าการ ด่ๅ

  (เขียนไว้ดีมาก) หลานเอ๊ย..ไม่มีอาชีพใด ' ต่ำต้อย ' อย่าเทียวดูถูกคนอื่น เด็ กหนุ่มคนหนึ่ง เป็นชาวสงขลา เรียนเก่งมาก ได้ทุนไปเรียนอเมริกาตั้งแต่เ ด็ก จนจบด็อกเตอร์ เลยเชียวล่ะ จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน บ้านของเด็ กหนุ่มอยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบสงขลาต้องนั่งเรือแจวข้ามไป ใช้เวลาแจวประมาณหนึ่งชั่ วโมง เรือที่ติ ดเครื่องยนต์ไม่มีเหรอลุง ? เด็ กหนุ่มจบเมืองนอกถาม ? ไม่มีหรอกหลาน ที่นี่มันบ้านนอก มันห่างไกลความเจริญ มีแต่เรือแจว โอ้..ล้าสมัยมากเลยนะลุงโบราณมาก ที่อื่นเขาใช้เรือยนต์กันหมดแล้วลุง ลุงยังมานั่งแจวเรืออยู่อีก ไปส่งผมฝั่งโน้นเอาเท่าไรลุง ? 80 บาท หล านเอ๊ย ย โอเค..ไปเลยลุง.. ในขณะที่ลุงแจวเรือ หนุ่มนักเรียนนอก ก็เล่าเรื่องความทันสมัย ความก้าวหน้า ความศิวิไลซ์ ของอเมริกา ให้ลุงแจวเรือฟัง เมืองไทยเมื่อเทียบกับอเมริกาแล้ว ล้าสมัยมาก ไม่รู้คนไทยอยู่กันได้ยังไง ? ทำไมไม่พัฒนา ทำไมไม่ทำตามเขาให้ทันสักที ? ลุง..ลุงใช้คอมพิวเตอร์ ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นไหม ? ลุงไม่รู้หรอก..ใช้ไม่เป็นหล าน โอ้โฮ! ลุงไม่รู้เรื่องนี้น่ะ ชีวิตลุงหายไปแล้ว 25% แล้วลุงรู้ไหมว่าเศรษฐกิจของโลกตอนนี้เป็นยังไง ? ลุ

  คุณแม่บ้านทั้งหลาย เรามาเข้าครัวทำอาหารมัดใจคุณสากันดีกว่าค่ะ เพราะผู้หญิงเราต้องมีเสน่ห์ปลายจวักติดตัวไว้ สามีจะได้อยู่ติดบ้าน หรือใครยังโสดก็ทำกินเองคนเดียวสวยๆ จะได้ไม่ต้องไปนั่งกินที่ร้านหงอยๆ เเถมประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วยค่ะ ทำไม่ยากอย่างที่คิด ตามไปดูกันเลยค่ะ เริ่มทำกันเลย ขั้นเเรก นำหมูมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เเล้วปรุงรสตามชอบ ด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย ใส่พริกไทยเล็กน้อย ไข่ไก่ แป้งข้าวโพดเล็กน้อย คลุกให้เข้ากัน หมักหมูทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือถ้าจะให้อร่อยเลิศนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นข้ามคืนก็ได้ค่ะ ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันลงไป ใส่เส้นใหญ่หรือเส้นหมี่ลงไป ใส่ซีอิ๊วดำลงไปเล็กน้อย ผัดจนเส้นนุ่ม ตักขึ้นใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ จากนั้นตั้งน้ำมันในกระทะ เจียวกระเทียมให้พอหอม แล้วใส่หมูที่หมักไว้ลงไปผัดให้พอสุก เติมน้ำซุปกระดูกหมูลงไป ตามด้วยยอดคะน้าอ่อน  รอจนน้ำเดือด ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว ซีอิ๊วขาว ใช้น้ำสะอาดละลายแป้งมันหรือเเป้งข้าวโพดลงในถ้วย เเล้วค่อยๆเทเติมลงในกระทะ คนจนเหนียวตามชอบ เเล้วปิดไฟ ตัดราดใส่เส้นที่ผัดไว้ โรยหน้าด้วยพริกไทย เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ ลองฝึกทำทานเองท

  คนเป็นสามีต้องให้ 4 อย่าง คนเป็นภรรยาต้องเก็บ 4 อย่าง ดีมากๆ การตัดสินใจเลือกมีครอบครัวมีสามีภรรยาที่ดีนั้น ก่อนอื่นจะต้องรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับครอบครัวเป็นอย่างดีเสียก่อน ถึงจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ สิ่งที่ดีที่ควรจะต้องมีคนที่เป็นสามีจะต้องให้ 4 อย่างกับภรรยา และคนเป็นภรรยาจะต้องเก็บ 4 อย่างให้กับสามี เมื่อคุณอ่านจบ หลายๆอย่างของการมีครอบครัวจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เป็นสามีที่ดีต้องให้ 4 อย่าง 1 ให้เรื่องเงินกับครอบครัว ไม่ใช่ให้ทั้งหมดที่ตัวเองมีแต่ให้ตามความสามารถของตัวเอง (ภรรยาเป็นคนควบคุมด้านการเงินของครอบครัว) และสามีเป็นผู้นำครอบครัวที่จะต้องเป็นคนดูแลหลักในเรื่องของการเงิน 2 ให้เรื่องเวลาแก่ครอบครัว ไม่ใช่ว่าวันหยุดทั้งที่ก็เอาวันเวลาว่างไปเที่ยวกับเพื่อน ควรที่จะมีเวลาให้กับครอบครัวบ้าง หากิจก ร ร มร่วมกันทำ พาไปเที่ยว หรือช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร เลี้ยงดูลูกๆ 3 ให้เรื่องการยอมรับแก่สังคมแก่ครอบครัว เวลาที่จะไปไหนมาไหนก็ต้องมีภรรยาตุ๊กตาหน้ารถอยู่เสมอ ห้ามหนีไปไหน ห้ามนอกใจภรรยาเป็นเด็ดขาด 4 ให้เรื่องความไว้วางใจ จงเปิดเผยสถานะของคุณและภรรยาคุณ (

  รักของพ่อแม่ เป็น รั ก แ ท้ และ รักยั่งยืน ลู ก นั้นคงเห็นว่า ที่พ่อแม่ทำทุ ก อ ย่ า ง ให้แก่ลูกนั้น ก็ทำด้วยความรัก ก็ทำด้วยความรัก เราจึงควรรู้จักความรักของคุณพ่อคุณแม่ให้ดีสักหน่อย เริ่มแรกรู้จักกันไว้ก่อนว่า ความรักนั้น ถ้าแยกตามหลักธรรม ก็แบ่งง่าย ๆ ว่ามี 2 แบบ ความรักแบบที่ 1 คือ ความชอบใจอย ากได้เขามาสนอง ความต้องการของเรา เพื่อให้ตัวเรามีความสุข ความชอบใจที่จะเอามาบำเ รอความสุขของเรา ชอบใจคนนั้นสิ่งนั้นเพราะจะมาสนอง ความต้องการเป็นเครื่องบำรุง บำเ รอเรา ทำให้เรามีความสุขได้ ความรักแบบนี้มีมากมายทั่วไป ความรักแบบที่ 2 คือ ความอย ากให้เขามีความสุข ความต้องการให้คนอื่นมีความสุข หรือความปรารถนาให้คนอื่นอยู่ดีมีความสุข ความรักของพ่อแม่เป็นแบบที่ 2 นี้ คือ อย ากให้ลูกมีความสุข ความรัก 2 แบบนี้ แทบจะตรงข้ามกันเลย แบบที่ 1 อย ากได้เขามาบำเ รอ ความสุขของเรา จะหาความสุขจากเขา หรือเอาเขามาทำให้เราเป็นสุข แต่ แบบที่ 2 อย ากให้เขาเป็นสุข จะให้ความสุขแก่เขา หรือทำให้เขาเป็นสุข ความรักที่หนุ่มสาวมักพูดกัน คือแบบที่ 1 แต่ในครอบครัว มีความรักอีกแบบหนึ่งให้เห็น คือความรักระหว่างพ่อแม่กับลูกโดย