สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  ตอนเด็กๆเวลาเรียนในชั้นเรียน จะชอบตื่นเต้นมากกับการได้เจอเพื่อนที่มีนามสกุลยาวๆ แล้วก็อ่านยากๆ เพราะมันดูหรูหราไฮโซ อ่านทีก็ฟังเพราะเสนาะหูไปยันโลกหน้า แต่พอโตมาก็เพิ่งได้รู้ว่าความยาวกับความยากในการอ่านนี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยสักนิด ก็แค่อุปทานวัยเด็กเท่านั้นเอง ความจริงแล้ว นามสกุลที่เป็นถึงนามสกุลเก่าแก่ของชาติไทยก็มีแต่สั้นๆ อ่านง่าย คำไทยแท้ทั้งนั้น ว่าแต่  Gangbeauty  ก็อยากจะรู้แล้วเหมือนกันว่ามีนามสกุลอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยเถอะ 1. บุนนาค  เป็นต้นตระกูลที่เก่าแก่อีกตระกูลหนึ่งของประเทศไทย ตระกูลนี้ต้นกำเนิดมาจากพ่อค้าชาวเปอร์เซียที่ชื่อ "เฉกอะหมัด" ที่เข้ามารับราชการตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ช่วงของกรุงรัตนโกสินทร์ ตระกูลบุนนาค เป็นที่ทรงอิทธิพลสูงสุดของไทยเชียวนะจะบอกให้ 2. ณ บางช้าง  สืบสายมาตั้งแต่เจ้านายในวงศ์พระร่วงแห่งกรุงศรีอยุธยา ยาวนานมากกกกก 3. วัชโรทัย  สืบสกุลมาจากพระยาอุทัยธรรมเจ้ากรมภูษามาลา ที่เคยรับราชการเป็นภูษามาลาในสมัยกรุงศรีอยุธยามาแล้ว นี่ก็เก่ามากกก 4. สุจริตกุล  ต้นตระกูลคือหลวงอาสาสำแดง สืบเชื้อสายมาจากขุนนางในราชสำนักกรุงศรีอยุธยา เป็นตระกูลท

  การมีชีวิตที่ดีเกินกว่าสิ่งที่เราต้องทำคือสิ่งที่เราต้องทำเพื่อให้เป็นไปในอนาคต พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาจนเติบโต ในสมัยก่อนได้รับความเชื่อมั่นว่าจะขอให้มีผ้าใบแม่หรือขอชานหมากของพ่อสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุ้มครองและเป็นเครื่องชั้นดีเพราะสองสิ่งนี้ถือ เป็นตัวแทน ความรัก ความสุขของพ่อแม่เพื่อให้ลูกมีความคิดถึงความงามความสุขกับตัวเองเมื่อคุณธรรมต่อคุณธรรมมาบรรจบกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ิ์ได้โดยไม่ต้องปลุกเสกโดยสิ่งเหล่านี้จะสามารถส้รางปาฏิหาริย์ขึ้นได้เสมอมาดังเรื่องของพ่อครูศิริพงษคุรุพันธกิจเล่าไว้เมื่อปี 2553 มีความว่า เราพร่ำสอนลูกทุกคนให้ความสำคัญกับทุกคนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความทรงจำที่ได้รับจากผู้บูชาคือความคิดของลูกด้วยความสุขความสำราญ เร็จในการดำเนินชีวิต ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยที่ได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์ โดยคนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจบปริญญาตรีเอกอัครราชฑูต ณ อยุธยา ห้องของปลัดกระทรวงอีกทั้งยังมีนิสัยขยันขันแข็งก็จะไปเปิดท้ายรถขายของทำงานไม่เคยหยุดหารายได้ตลอดและด้วยสิ่งที่ค้าขายและเสียงกับคนที่มาติดต่อให้ไปเป นผู้จัดการร้านอาห

  วันนี้  ขอแชร์เคล็ดลับวิธีถนอนอาหารในการเก็บเห็ดฟาง ให้อยู่ได้เป็นอาทิตย์ โดยไม่เน่า ไม่แฉะ แถมรสชาติยังอร่อยเหมือนพึ่งซื้อมาจากตลาด ซึ่งวิธีเก็บเห็ดฟางที่เรานำมาฝากกันทำได้ง่ายมากๆ ว่าแล้วมาดูวิธีกันเลยค่ะ วิธีที่ 1 เก็บสด เห็ดฟางไม่อมน้ำ สดเหมือนเดิม อยู่ได้ 1 คืนโดยไม่เหี่ยว วิธีนี้คือไม่ต้องทำอะไรมาก หาตะกร้าโปร่งๆ มา 1 ใบ ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์พับทบสัก 4 ชั้น วางรองพื้นตะกร้า ส่วนตัวเห็ด ไม่ต้องตัดราก ขูดดิน หรือล้างน้ำให้สะอาด ห้ามทำทุกอย่างที่ว่ามา ให้เอาวางเรียงลงไปในตะกร้าที่เตรียมไว้ให้เรียบร้อย ใช้พลาสติกห่ออาหารมาหุ้มตะกร้าให้มิดชิด เสร็จแล้วก็เอาเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา เช้ามาเห็ดก็อยู่เหมือนเดิม สด กรอบ อร่อยเท่าเดิม วิธีที่ 2 ลวก เห็ดฟางอยู่ได้ 2 อาทิตย์ เริ่มต้นด้วยการตั้งน้ำรอไว้ ไม่ต้องเยอะมาก ช่วงรอน้ำเดือด นำเห็ดไปล้างให้สะอาด และจัดการเทเห็ดลงไปในน้ำทันทีที่น้ำเดือด ทิ้งให้ดิ้นในหม้อประมาณ 45 วินาที โดยในระหว่างนั้นก็ให้จัดการเตรียมกะละมังน้ำเย็นรอไว้ ครบเวลาก็ตักออกจากหม้อ ใส่ลงไปแช่น้ำเย็นต่อสักครู่ สะเด็ดน้ำ เก็บใส่กล่อง เข้าตู้เย็นได้

  ลูกชิ้นถือเป็นของกินที่ไม่ว่าจะกินเล่น หรือกินจริงจังก็เพลินปากทั้งนั้น แต่ลูกชิ้นประเภทนึงที่หาตามตลาดอร่อยยาก เพราะมันไม่ค่อยมีใครทำ ก็คือลูกชิ้นกุ้งนี่แหละ ด้วยราคาของกุ้งที่ก็ไม่ได้ถูก ทำให้เราจะได้กินลูกชิ้นกุ้งที่อร่อยจริงๆ ก็แค่ในร้านติ่มซำที่ขายกันเข่งนึงก็ดูไม่อิ่ม ไม่ฟินสักเท่าไหร่ งั้น GangBeauty จะพาทำลูกชิ้นกุ้งแบบเด้งสู้ฟัน เอาให้เหมือนร้านติ่มซำทำขายกัน ตามสูตรของคุณ jin leng จากพันทิปดอทคอมเลยดีมั้ย! ส่วนผสม 1.กุ้งแก้ว/กุ้งสดแช่เย็น 2.หมูสับเด้งแช่เย็น 3.แป้งมันฮ่องกง 4.ซอสปรุงรส 5.พริกไทย 6.น้ำตาล วิธีทำลูกชิ้นกุ้ง 1.นำกุ้งกับหมูออกมา จัดการล้างกุ้งทั้งเย็นๆนั่นแหละ แกะเปลือกให้เรียบร้อย 2.จากนั้นก็นำกุ้งกับหมูมาปั่นรวมกัน ใครไม่มีเครื่องปั่นให้สับกุ้งให้ละเอียด คลุกผสมกับหมู เติมแป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ 3.ปรุงรสด้วยผงปรุงรส ซอสปรุงรส พริกไทย น้ำตาลนิดหน่อย นวดแล้วฟาดลงกับชาม เพิ่มความเหนียวหนึบ 4.ตั้งน้ำให้ร้อน ไม่ต้องรอเดือดก็ปั้นลูกกลมๆ ใส่ลงไปได้เลย 5.พอมันลอยขึ้นมาอยู่เหนือน้ำแล้ว ก็ให้ตักออกมาแช่น้ำเย็น ลูกชิ้นจะได้เด้งดึ๋ง! ถ้าทำลูกชิ้นแล้วยังเหลือ ส่วนที่ยังไม่ได้ป

  สูตรง่ายๆ ทำไม่ยากเลยสำหรับทำเป็นอาชีพ หากต้องการรสชาติใดเป็นพิเศษ ก็สามารถเพิ่มหรือลดเครื่องปรุงได้ตามความเหมาะสม โดยปกติแล้ว หมูปิ้งหนึ่งไม้ ขายในราคา 10 บาท จะมีต้นทุนรวมทั้งหมดแล้วไม่เกิน 7 บาท หากหมูปิ้ง 1 ไม้ กำไรเฉลี่ย ไม้ละ 3 บาท หากวันนึงขายได้ 300 ไม้ กำไรจะอยู่ที่ประมาณ 900 บาทต่อวัน ขายเพียงสองวัน ก็สามารถคืนทุนค่าอุปกรณ์ได้แล้วครับ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องระวังให้มากเลยคือข้าวเหนียวโดยปัญหาที่พบมากคือ ข้าวเหนียวเย็น และคนซื้อจะไม่ค่อยชอบ ดังนั้น เราต้องมีภาชนะที่เก็บความร้อนได้ดี เพื่อที่ ผู้บริโภคจะได้ทานหมูปิ้งที่หอมอร่อย และข้าวเหนียวอุ่นๆ เพียงเท่านี้ ก็มั่นใจได้เลยว่าลูกค้าคนนี้จะกลับมาซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ร้านคุณอีกแน่นอน อุปกรณ์ในการทำหมูปิ้ง 1. ไม้ปลายแหลมสำหรับเสียบหมูปิ้ง 2. เตาถ่านหรือเตาไฟฟ้าก็ได้แต่แนะนำให้ใช้เตาถ่านจะดีกว่า 3. เหล็กปิ้ง ส่วนผสม เนื้อหมูติดมันเล็กน้อย 1 กิโลกรัม นมสด 1/2 ถ้วยตวง กระเทียม 1 หัว ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา ชึอิ้วดำหวาน 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช รากผักชีบดละเอียด 4 ราก น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำข้าวเหนียวหมูปิ้ง 1

  หิวแต่ไม่อยากอ้วน! ต้องทำยังไง?  GangBeauty  เชื่อว่าหลายๆคนกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ วันนี้  GangBeauty  เลยมีเมนูง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ แถมไม่ทำให้อ้วนด้วย นั้นก็คือ "ผักกาดขาวหอไส้" ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ ส่วนผสม 1.เนื้อสะโพกไก่ หรือเนื้อหมู 2.ผักกาดขาว 3.กระเทียม/พริกไทย 4.ซีอิ๊วขาว/น้ำมันหอย/น้ำตาลเล็กน้อย วิธีทำ 1.โขลกกระเทียมกับพริกไทยให้ละเอียดพักไว้ 2.สับไก่(หมู)ให้ละเอียด หมักด้วย กระเทียมพริกไทยซีอิ๊วขาว/น้ำมันหอย/น้ำตาลเล็กน้อย ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาทีหรือหมักทิ้งไว้ทั้งคืน 3.ลวกใบผักกาดขาวในน้ำเดือดแล้วแช่ในน้ำเย็นจัด ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ ตัดก้านทิ้งเอาแต่ส่วนใบ 4. นำไก่สับมาวางลงบนใบผักกาดแล้วห่อให้สวยงาม 5.นำไปวางในลังถึงนำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ5นาทีหรือจนสุก ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมค่ะ กลับบ้านไปลองทำกันดูนะคะชาวแก๊งค์

  เมนูง่ายๆสำหรับคุณสาวๆที่ไม่เก่งงานครัว กับการทำ แพนเค้กจากขนมปังกรอบ ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรจากคุณ  ข้าวกล่องภรรยา  ที่ได้แชร์วิธีการทำเจ๋งๆ สำหรับทานเป็นมื้อเช้าหรือจะทำเป็นของหวานก็ได้นะ ไปดูวิธีทำกันเลย [ส่วนผสม] - ขนมปังอบกรอบ - ไข่ไก่ - นมจืดพร่องมันเนย - น้ำผึ้ง [วิธีทำ] 1. นำขนมปังกรอบมาบดให้ละเอียดก่อนโดยใช้เครื่องปั่น 2. จากนั้นก็ค่อยๆ เทไข่ลงไปผสมให้เข้ากัน 3. เมื่อไข่และขนมปังกรอบเข้ากันดีแล้วก็เติมนมลงไป 4. เพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้งประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ 5. ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วลดลงมาเป็นไฟอ่อน จากนั้นก็ค่อยเทส่วนผสมของเราลงไป 6. เมื่อเริ่มมีฟองอากาศก็ค่อยๆ กลับอีกด้าน แล้วตักออก 7. จัดตกแต่งให้สวยงาม เสร็จแล้วจ้าาา

  วันนี้  GangBeauty  ขอชวนเพื่อนๆเข้าครัว มาทำ "กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา" เมนูอาหารธรรมดาๆ ที่ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ สามารถหาซื้อได้ในตลาดทั่วไป แถมยังมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่มีรสชาติแสนอร่อย เปรียบเปรยเหมือนไปนั่งกินในภัตตาคารเลยจ้า โดยเป็นสูตรของคุณ มันแกวกะแห้วหมู สมาชิกพันทิปดอทคอม ที่ได้เผยเคล็ดลับการทำกะหล่ำปลีน้ำปลา ให้ได้รสกลมกล่อม จนใครได้กินก็ต้องติดใจ ซึ่งมีขั้นตอนการทำดังต่อไปนี้!! วัตถุดิบที่ต้องเตรียม กะหล่ำปลีขนาดเหมาะมือ 1 หัว หรือถ้าทานหลายคนอาจจะเพิ่มปริมาณก็ได้ค่ะ (เคล็ดลับอยู่ที่ต้องเลือกกำล่ำที่ยังสด โดยดูจากใบหากกรอบ แตกง่าย ไม่ออกมาเป็นใบ ก้านเหนียว แปลว่าไม่ค่อยสดค่ะ) ,กระเทียม 2 หัว ,น้ำมัน ,น้ำปลา ขั้นตอนการทำ เริ่มจากแกะกะหล่ำปลีเป็นใบๆ ฉีกหรือหั่นตามความสะดวก ล้างด้วยน้ำสะอาดพักไว้ ทุบกระเทียมสักสองหัว ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมทุบลงไปก่อน จากนั้นใส่กะหล่ำปลีที่เตรียมไว้ลงไป แล้วยังไม่ต้องรีบผัด ทิ้งไว้สักพัก นับ 1-10 ค่อยๆเริ่มผัดช้าๆ ไม่ต้องรีบ ให้ใบกะหล่ำโดนน้ำมัน และกระทะทั่วๆกัน ผัดกะหล่ำปลีรวมให้เข้ามาอยู่ตรงกลาง

  วันนี้ GangBeauty ขอเอาใจสายเบเกอรี่ ด้วยเมนู "เค้กเนยสด"  เป็นสูตรจากคุณ Mama Pui ?s Kitchen ทำเองได้แบบไม่ต้องง้อร้าน สูตรส่วนผสมและขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพื่อนๆ ทำตามได้อย่างแน่นอน เรามาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยดีกว่าค่ะ ส่วนผสม 1. เนยเค็ม 250 กรัม 2. น้ำตาลไอซิ่ง 200 กรัม 3. ไข่ไก่ 5 ฟอง 4. แป้งเค้ก 230 กรัม 5. ผงฟู 1/2 ช้อนชา 6. นม 50 กรัม 7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา วิธีทำเค้กเนยสด 1. มาเริ่มทำกันเลยค่ะ ร้อนแป้งเค้กกับผงฟูไว้ก่อนเลย เนยเค็มกับน้ำตาลไอซิ่งตีจนขึ้นฟู สังเกตุจากสีของเนยจะอ่อนลง 2. ใส่ไข่ไก่ทีละฟอง ใส่กลิ่นวานิลลาด้วยนะคะดับกลิ่นคาวของไข่ไก่ 3. ใส่แป้งเค้ก แบ่งใส่ 2 รอบ ใส่นมสลับลงไปด้วยเพื่อลดความฟุ้งของแป้ง 4. ตีให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วเทใส่ในถาด อบไฟบน-ล่าง 160องศาC ประมาณ 35-40 นาที 5. อบเสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น นำมาตัดเป็นชิ้น