สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  ต้องแข็งแกร่งขนาดไหน ถึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ประเทศที่ในหนึ่งวันมีถึง 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุดได้ เว้นแต่ว่าวันไหนจะโชคดี มีฝนตกลงมาพอให้ได้ชุ่มฉ่ำ แต่ก็เหนอะหนะอบอ้าว แค่พัดลมเป่าอาจจะเอาไม่อยู่ จะเปิดเเอร์ก็กลัวว่าค่าไฟจะพุ่งใช่ไหมคะ หมดกังวลได้ เลยค่ะ เพราะวันนี้  GangBeauty  จะมาเผยวิธีเปิดแอร์ให้ประหยัด เย็นฉ่ำทั้งวัน ค่าไฟไม่พุ่ง ทำอย่างไรไปดูพร้อมกันเลย เรามักจะได้ยินคำแนะนำที่บอกว่า ให้เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศา ความชื้นที่ 50 เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของแอร์ และช่วยประหยัดไฟ ซึ่งความเชื่อนี้อาจไม่ถูกนัก เพราะเป็นแนวคิดของต่างประเทศ ที่มีสภาพอากาศแตกต่างไปจากบ้านเรา แล้วอุณหภูมิที่เหมาะสมจริงๆคือเท่าไหร่? คำตอบคือ เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศา ความชื้นที่ 70 เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้สบาย อาจจะหลักพันหรือมากที่สุดในหลักหมื่น แม้จะเปิดแอร์ทั้งวันก็ตาม หรือหากอยากประหยัดมากขึ้นอีก ลองเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 30 องศา แล้วใช้พัดลมเป่าควบคู่ไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้เย็นฉ่ำแบบไม่เปลืองเงินในกระเป๋า เพราะพัดลม กินไฟ เพียง 50 วัตต์ ปีหนึ่งตกอยู่ที่ 630 บาท

  แม่ให้ก้นมาน้อยเกินไป ใส่อะไรก็ไม่สวย อยากมีก้นต้องทำยัง ไปฉีดเพิ่มก็กลัว เฮ้ออออ.... อย่าพึ่งหมดหวังไป!  GangBeauty  ขอแนะนำ 5 วิธีเพิ่มก้นสวยๆด้วยตัวเอง ด้วยการทำตาม 5 วิธีนี้ ไปลองทำกันเลยย 1. เดินแล้วก็เดิน :วิธีนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนก้นได้เกิดการเคลื่อนไหว ซึ่งนี่แหละเป็นตัวการทำให้ก้นฟู ! เพียงแค่คุณหมั่นเดินหรือหมั่นเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดได้ไหลเวียนไปทั่วร่างกายรวมถึงบริเวณก้น แต่ถ้าคุณยังมัวแต่จะใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมๆ นั่งทำงานงกๆ ตลอดเวลาไม่ลุกเดินไปไหน ก้นก็จะถูกทับทั้งวันจนกลายเป็นกล้ามเนื้อที่ถูกเมิน ก้นมันเลยไม่ฟูเด้งดึ๋งสักทีไงล่ะ ! 2. เลิกขึ้นลิฟต์แล้วหันมาใช้บันได :วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัยทำงานที่ทำงานบนตึกสูง แค่เปลี่ยนจากการขึ้นลิฟต์แล้วหันมาเดินขึ้นลงบันไดเป็นประจำแทน คุณก็สามารถบอกลาก้นแบนๆ ไปได้เลย ยิ่งถ้าวิ่งขึ้นลงบันไดในเวลาที่ต้องทำงานให้ไว ก็รับรองได้เลยว่า ก้นคุณจะใหญ่สมใจอยากอย่างแน่นอน ! 3. วิ่งจ๊อกกิ้ง :นอกจากจะช่วยให้ต้นขาแน่นกระชับแล้ว ยังช่วยให้ก้นเด้งอิ่มแน่นอีกด้วย ดังนั้น ถ้าคุณอยากมีก้นฟูก็เริ่มวิ่งซะตั

  วิธีโบราณจากจีนกว่าพันปี เคล็ดลับการนอนหลับที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นในพริบตา เคล็ดลับ "การนอนหลับ"จากจีนกว่าพันปี ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นในพริบตา อย่าลืมเอาวิธีโบราณไปลองใช้กันดูนะคะ คุณเคยมีความรู้สึกนี้หรือไม่ ? เคยนอนหลับแล้วรู้สึกว่ามือเท้าเย็น หนาวสั่นที่หลัง นี่อาจเป็นเพราะว่า "หยาง" ในร่างกายคุณนั้นไม่เพียงพอ ซึ่งตามหลักแพทย์แผนจีนแล้ว อาการขาดหยางมากเกินไป อาจทำให้ภูมิคุ้มกันของในร่างกายบกพร่องได้ และคัมภีร์แพทย์แผนจีนโบราณหลายเล่มยังได้บันทึกไว้อีกด้วยว่า "การบำรุงด้วยอาหารย่อมดีกว่าบำรุงด้วยยา แต่การนอนหลับพักผ่อนนั้นถือเป็นยาบำรุงที่ดีที่สุด" บางเล่มยังได้มีการบันทึกเอาอีกไว้ว่า "ยาร้อยชนิดก็ไม่สู้การนอนหลับพักผ่อน" การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือคุณภาพในการนอนไม่ดี อาจทำให้มีผลกระทบต่ออารมณ์ สมาธิ หรือแม้กระทั่งเกิดอาการปวดหัว เวียนหัว ปวดกล้ามเนื้อ หรืออ่อนเพลียขึ้นได้ ในตำราแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า คนที่นอนพักไม่เพียงพอมาเป็นเวลานานจะอยู่ในสภาวะร่างกายอ่อนแอ ในสภาวะเช่นนี้จะทำให้พลังหยางในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อกับอ

  สัตว์โลกมีหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มักจะมีความน่ารักแตกต่างกันไป ทว่าบางชนิดกลับไม่เป็นที่ชื่นชอบของมนุษย์เท่าไหร่ ถึงขนาดว่าตั้งกระทู้ถามกันเลยทีเดียวว่ามีไว้ทำไม มีประโยชน์อะไร และสัตว์โลกที่  Gangbeauty  กำลังจะพูดถึงนี้ก็คือยุงค่ะ ยุงที่บินวี้ๆ ไล่ดูดเลือดเรา ทำให้เราคันคะเยอไปทั้งตัวนี่แหละ เธออาจจะรู้สึกว่ามันคือตัวป่วนที่ควรกำจัดไปให้สิ้นซาก แต่ความจริงพวกมันมีประโยชน์ต่อโลกมนุษย์มากนะ! 1. อาหารสำคัญในห่วงโซ่อาหาร    หนึ่งประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของยุง คือการเป็นอาหารจานสำคัญในห่วงโซ่อาหารสำหรับสัตว์ต่างๆ บนโลกใบนี้นี่ล่ะ ไม่ว่าจะแมลงปอ ค้างคาว หรือแม้แต่ปลาก็ยังต้องพึ่งพายุงเป็นอาหาร ซึ่งเป็นการจัดการกันอย่างสมบูรณ์ในระบบนิเวศของสัตว์นั่นเอง 2. ผสมเกสรดอกไม้    แม้ว่าหน้าที่การผสมเกสรดอกไม้นั้น จะยกให้ผึ้ง ให้แมลงอื่นทำก็ได้ แต่ขอบอกเลยว่าโอกาสในการผสมพันธุ์นั้นน้อยกว่ายุง ยุงบนโลกนี้มีมากกว่า 3,000 ชนิด และมีเพียงแค่ 6% เท่านั้นที่ดูดเลือดคน นั่นหมายความว่าดอกไม้และพืชพรรณนานาที่สวยงามบนโลกใบนี้ มียุงกว่า 94% เป็นตัวช่วยผสมเกสรให้จากการดูดน้ำหวาน บอกเลยว่าจะผึ้งจะแมลงไหนก็สู้จำน

  สาวๆ ที่อยากมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ดูดีจากภายในสู่ภายนอก  GangBeauty  มีเคล็ดลับมาฝากค่ะ สำหรับใครที่ชอบทานผลไม้เป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้เรามีผลไม้ที่ทานแล้วช่วยล้างสารพิษในร่างกายมาฝาก 5 ชนิด ไปดูกันเล้ยยยย 1. มะละกอ มะม่วง มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่มะม่วงมีสารสำคัญน้อยกว่ามะละกอเล็กน้อย ผลไม้ทั้งสองชนิดมีเอนไซม์ชื่อปาเปน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร จะช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้นเช่นเดียวกับโปรเมลิน ทั้งมะละกอและมะม่วงดีสำหรับการทำความสะอาดลำไส้และช่วยย่อยอาหาร และมะละกอยังช่วยลดอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย 2. แตงโม มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดังนั้นจึงช่วยฟอกล้างร่างกายได้เป็นอย่างดี ใช้รักษาแผลในกระเพาะ ลดความดันในเลือดสูง ทำให้สบายท้อง น้ำคั้นจากเปลือกของแตงโมและเมล็ด หากดื่มก่อนกินเนื้อแตงโมในมื้ออาหารสักครึ่งชั่วโมง จะทำให้ได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเปลือกของแตงโมอุดมด้วยคลอโรฟิลล์และเมล็ดยังอุดมด้วยวิตามินด้วย 3. องุ่น เป็นสารฟอกล้างสำหรับผิวหนัง ตับ ลำไส้และไตโดยเฉพาะ เนื่องจากองุ่นมีคุณสมบัติรักษาน้ำมูกที่จะออกมาจากเยื่อเมือกต่างๆ ในร่างกาย องุ่นยังให้พล

  เวลาอากาศหนาวๆ นาทีที่ยากที่สุดในแต่ละวัน ก็คือการดึงตัวเองขึ้นจากเตียงในตอนเช้า คนกรุงเทพอาจจะไม่เข้าใจ แต่ถ้าคุณมุ่งหน้าขึ้นเหนือเมื่อไหร่ล่ะก็?คุณจะรู้ ความอบอุ่นของ "สวรรค์" และความหนาวเหน็บของ "นรก" ห่างกันแค่ผ้าห่มกั้น ตอนเช้าตรู่เป็นช่วงโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และภาวะเนื้อสมองตายเหตุขาดเลือดเกิดบ่อยที่สุด จากการสำรวจ 70%-80% ของโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดในสมองเกิดในตอนเช้าเวลา 6-10 นาฬิกา โปรดทราบในฤดูหนาว! สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อตื่นนอนไม่ใช่ใส่ลุกขึ้นหรือดื่มน้ำ หลังจากการสังเกต เวลาผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจจะมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ความดันขึ้นสูง เส้นเลือดในสมองแตก จะเกิดอาการในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ก็คือตอนที่เพิ่งตื่นนอน! ถ้าพอตื่นแล้วรีบลุกขึ้น ร่างกายจากที่อยู่ในสภาพนอนพักผ่อน อยู่ดีๆก็ต้องขยับใช้เรี่ยวแรง ระบบประสาทจะถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้สูงอายุแล้วความสามารถในการปรับตัวจะช้าลง ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง อีกอย่าง หลังจากร่างกายนอนพักอย่างเต็มที่ทั้งคืน เลือดจะมีความหนืดมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเส้นเลือดอุดตันเพิ่มมาก

  อากาศที่ร้อนระอุในเมืองไทยนั้นส่งผลให้การใช้ชีวิตในบ้านของหลายๆ ครอบครัวต้องทุกข์ทนกับอุณหภูมิที่สูงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในหน้าร้อนแล้ว ถ้าหากไม่มีเครื่องปรับอากาศก็คงจะอยู่ลำบากไม่น้อยเลย แต่เราสามารถช่วยคลายร้อนให้บ้านได้ด้วย ไม้เลื้อยสำหรับทำซุ้มบังแดด ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นพืชที่เลี้ยงง่ายและโตไวอยู่แล้ว ซึ่งคราวนี้เราก็มีมาแนะนำให้ชาวเว็บถึง 10 ชนิดด้วยกัน นอกจากจะให้ร่มเงาแล้ว ยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รอบๆ บ้านอีกด้วยนะ ลองมาดูกันเลยครับ 1. ต้นถั่วฝักยาว ลักษณะทั่วไป : พืชไม้เลื้อยตระกูลถั่ว ที่ให้ร่มเงาด้วยใบกว้าง และใน 1 ช่อใบประกอบไปด้วย 3 ใบ ดอกมีสีอมม่วงและมีฝักไว้ให้เก็บกิน วิธีปลูก : นำเมล็ดพันธุ์ที่ได้ไปแช่น้ำแล้วเลือกเมล็ดที่จมและมีสภาพสมบูรณ์ไปปลูก ผสมดินร่วนกับปุ๋ยหมักแล้วขุดหลุมหย่อนเมล็ด ฝังกลบให้เรียบร้อย เมื่อต้นเริ่มขึ้นให้จัดการถอนต้นที่ไม่แข็งแรงทิ้งไป ดูแลรักษาด้วยการรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น มิเช่นนั้นจะทำให้เกิดโรคราได้ นอกจากนี้อย่าลืมควบคุมความชื้นให้เหมาะสมด้วย 2. ต้นคอนสวรรค์ ลักษณะทั่วไป : ต้นคอนสวรรค์ หรือ ดาวนายร้อย จัดเป็น

  ไอ้นั่นก็น่ากิน ไอ้นี่ก็น่าอร่อย ไม่อยากกินอาหารที่ทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่รู้อีกว่าอันไหนกินแล้วดีบ้าง เอ่าๆ อย่าเพิ่งงอแง เดี๋ยว  Gangbeauty  เอาลิสต์รายชื่อของกินที่กินแล้วดีมาฝาก จะบอกว่าเยอะมาก 18 อย่างแน่ะ ทีนี้จะมาบ่นว่ากินเฮลท์ตี้ไม่ได้ ไม่มีอะไรจะกินไม่ได้แล้วนะ ตามมา! ลิสต์แรก  เพื่อผิวสวย           ผู้หญิงแต่ละคนก็มีวิธีดูแลผิวพรรณที่แตกต่างกันออกไป ครีมใครครีมมัน แต่สูตรธรรมชาติส่วนใหญ่ก็จะไม่รู้กันใช่มั้ยล่ะ เห็นในรูปมั้ย สามอย่างเนี้ยแหละที่จะสนองผิวงามให้เธอได้ล่ะ เพราะสามอย่างนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอีที่จะเร่งให้ผิวเกิดการซ่อมแซมแบบรวดเร็ว และยังช่วยไม่ให้ยูวีอันตรายมาทำร้ายผิวของเธอได้มากด้วย มีกรดอัลฟาไลโปอิคที่จะช่วยไม่ให้ผิวเธอหมองคล้ำ มีโคเอนไซม์คิวเทนที่จะทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ สุดท้ายคือมีซิงค์ที่ช่วยในเรื่องของบาดแผล ให้เยียวยารักษาได้ไวนั่นเองจ้า ลิสต์ที่ 2  สุขภาพทรวงอก           ตามตำรับตำรากล่าวไว้ว่า อาหารบางอย่างก็สามารถป้องกันโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งที่จะมาเติบโตเป็นมะเร็งเต้านมนี่แหละ อย่างเช่นในบล็อคโคลี่นั้นก็มี

   เวลาเข้าห้องน้ำตามที่สาธารณะ เคยสงสัยกันไหมว่าวิธีการล้างมือให้ถูกหลัก ที่มีแปะเป็นสติ๊กเกอร์เอาไว้ตามหน้าอ่างล้างมือนั้นมันสำคัญมากน้อยแค่ไหน เหตุใดจึงต้องมีการรณรงค์กันขนาดนี้ และ  Gangbeauty  เชื่อเลยว่าใน 100 คน จะมีคนปฏิบัติตามหลักนั้นเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นเอง โดยอีก 98 คนนั้นไม่รู้เลยว่าแบคทีเรียร้ายที่แฝงมากับฝ่ามือของเรานั้นมันมีอยู่จริง! 1. E.coli  หรือชื่อเต็มว่า "Escherichia coli" เป็นแบคทีเรียที่พบได้ในลำไส้ของคน และสัตว์เลือดอุ่นทั่วไป แบคทีเรียนี้จึงมักติดปะปนออกมากับอุจจาระ และมันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เราท้องเสีย ท้องร่วง มีอาการเกี่ยวกับลำไส้มากขึ้น ซึ่งมันก็อาจทำให้เราถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ เสียการเสียงานได้ไม่น้อย 2. C.xerosis  หรือชื่อเต็มว่า "Corynebacterium xerosis" อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่เจ้าตัวนี้ล่ะที่เป็นสาเหตุทำให้เราเกิดโรคผิวหนัง การทำงานของมันคือขั้นแรกจะทำให้เราผิวเป็นขุย ไม่เรียบเนียน หนักขึ้นไปคือคัน และผิวหนังก็จะค่อยๆ บางลง จนไวต่อสิ่งต่างๆ ไม่แข็งแรง 3. S.pyogenes  ที่ย่อมาจาก "Streptococcus pyogenes" เป็นแบคทีเรียที