สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  ผสมเกลือ เบกกิ้งโซดาเข้ากัน ผลลัพธ์ดีน้อยคนที่รู้ อย่างที่หลายคนได้ทราบกันดีว่า เกลือเป็นส่วนผสมห นึ่ งสำหรับการปรุงอาหารในหลายๆเมนู ที่มักจะขาด กันไม่ได้เลย นอกจากที่จะเป็นตัวช่วยในการปรุงรสชาติอาหารแล้วยั งสามารถนำเกลือมาทำประโยชน์ในด้านอื่นได้อย่างมากมาย วันนี้เราได้นำประโยชน์มาฝากกัน ตามมาดูกันเลย เชื่อว่าหลายๆคนก็อาจจะยังคงไม่รู้ว่าสามารถทำแบบนี้ได้ด้วย 1 แช่เสื้อผ้า สีไม่ตกใส่ ใช้เกลือเป็นตัวช่วยในการซักผ้ากันสีตกใส่ได้ ผสมเกลือเข้ากับน้ำสะอาดแล้วที่ใส่ลงไปในถังเครื่องซักผ้า แช่ผ้าทิ้งเอาไว้ก่อนซักประมาณ 30 นาที ครบเวลาแล้วก็ทำได้ตามปกติซึ่ง วิธีนี้จะทำให้เสื้อผ้าของคุณมีความสะอาดใหม่และทำให้เนื้อผ้าไม่หดเลย ที่สำคัญยังเป็นวิธีที่ช่วยลดในเรื่องของกลิ่น อั บ ชื้นบนเสื้อผ้าได้ 2 ซักผ้าม่าน และพรม ส่วนผสมของเกลือจะมีคุณสมบัติที่ช่วยทำความสะอาดได้ ให้ใช้เกลือมาซักพรมเช็ดเ ท้ าเช็ดมือ หรือจะนำไปซักผ้าม่านให้มีความสะอาด วิธีการก็คือทำการซักผ้าด้วยน้ำ ย าซักผ้า 1 รอบ จากนั้นผสมเกลือ 2 กำมือใหญ่ๆเข้ากับน้ำเปล่า คนผสมให้เข้ากันแค่ผ้าทิ้งเอาไว้นาน 60 นาที แล้วนำมาซักต่อในรอบที่ 2 วิธีนี้

  สิ่งสำคัญ 3 อย่างในชีวิต ที่เอากลับคืนมาไม่ได้ ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนเกิดได้ในทุกเวลาอยู่เสมอ สำหรับการดำเนินชีวิตความเป็นไปของแต่ละคนนั้น ย่อมมีจุดหมายปลายทางที่ต่างกัน เหตุการณ์สำคัญสำคัญต่างๆเกิดขึ้นในชีวิตอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องราวของความสุขหรือในเรื่องราวของความทุ ก ข์ แต่ก็มักจะมีอยู่ 3 สิ่งเท่านั้นที่เกิดขึ้น และเราไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขในสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาใหม่ได้ อย่างสิ่งแรกก็คือ คำพูด เคยไหมในบางครั้งบางเวลาที่เราต้องการจะพูดอะไรสักอย่างที่อย า กพูดมากมายแต่ในสุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้พูดออกมา หรือในบางครั้งคำพูดของตัวเราเองไม่ได้อ ย า กพูดแต่ก็ดันพูดขึ้นมาเฉยๆ จนบางครั้งคำพูดของเราได้ไปทำ ร้าย จิตใจของคนที่รับฟัง สิ่งเหล่านี้แหละเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขคำพูดที่เราพูดออกไปได้ จนหลายครั้งเองที่ทำให้คำพูดของเราย้อนกลับมาทำ ร้ า ยตัวเราเอง คำพูดที่เราไม่ระ วั ง ที่ได้พลั้งปากพูดออกไป ทำ ล า ยทั้งตัวเราเองและตัวผู้ที่รับฟัง การคิดให้ดี ก่อนที่จะพูด คำพูดทุกคำพูดที่เราพูดออกไปนั้น จะต้องรู้ว่าเมื่อพูดออกไปแล้วจะส่งผลที่ดีหรือผลที่ไม่ดี กับตัวเราและผ

  นิสัย จากการสวมแหวน นิ้วไหนบอกได้นิสัยแท้ของตัวคุณ วันนี้เราจะพาทุกๆท่านมาทายนิสัยจากการเลือกใส่แหวนแต่ละนิ้วกัน มาดูว่าในแต่ละนิ้วจะสามารถบอกได้ถึงความหมายในการใช้ชีวิตอย่างไรได้บ้ า ง ดูได้ทั้งนิสัยตัวเองและดูนิสัยของคนรอบข้างใน ด้วยจากการใส่แหวน ชอบสวมแหวน นิ้วโป้ง คนที่ชอบใส่แหวนที่นิ้วโป้งนั้น จะเป็นคนที่ชื่นชอบในการสร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองและให้กับคนรอบข้าง จะเป็นคนที่ชอบในเรื่องที่คนอื่นเขาไม่ได้สนใจ ไม่ได้ใส่ใจ มีความคิดที่แตกต่างออกไป การใส่แหวนที่นิ้วโป้งข้างซ้าย จะบอกได้ถึงในความมั่นใจของตนเอง บางคนมีความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ ชอบเข้าสังคม ชอบทำงานในการใช้คำ สั่ง ต้องสั่งคนเยอะๆ จะช่วยในการเสริมบารมีได้ หากใครที่คิดว่าตัวเองมีความมั่นใจมากเกินไป อยา กปรับให้อยู่ใน ระดับที่สมดุล ให้ใส่แหวนที่นิ้วโป้งข้างขวาจะสามารถช่วยได้ ชอบสวมแหวน นิ้วชี้ คนที่ชอบใส่แหวนนิ้วชี้เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำและมีความมั่นใจในตัวเอง กล้าที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆ ชอบเป็นหัวหน้ามากกว่าการเป็นลูกน้อง เป็นคนที่ชอบแสดงความเข้มแข็ง แต่ที่จริงแล้วในบางครั้งบางเหตุการณ์ก็มีความอ่อนแอพอตัว นิ้วชี้ เป็นนิ้ว

  ซักหมอนนอนที่เหลือง เป็นวงๆ ซักให้กลับมาขาวสะอาด กลิ่นหอม การนอนหลับพักผ่อนเป็นสิ่งที่สำคัญ ในทุกๆวันจะต้องมีการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อที่จะทำให้ร่างกายของเราได้พักผ่อน ตื่นเช้าวันใหม่ด้วยความสดชื่น แต่ถ้าหากว่าหมอนหรือที่นอนของเรานั้นมีกลิ่นอับ มีความส ก ป ร กมีความ คั น นอนแล้วไม่สบายตัว ก็จะส่งผลทำให้การนอนหลับของเรานั้นไม่ดี นอนหลับได้อย่างไม่เต็มที่ ก็จะส่งผลปัญหาในด้านของสุ ข ภาพอื่นๆตามมาด้วย วันนี้เราจึงได้นำตัวช่วยดีๆมามอบให้กับแม่บ้ า นทั้งหลาย ได้นำหาวิธีดีๆเหล่านี้ไปใช้กัน เป็นวิธีการซักหมอนให้สะอาด หมอนที่เราใช้ในการหนุนนอนทุกวันนั้น ถอดปลอกหมอนออกมาดูก็จะมีเป็นคราบเหลืองวงๆ มีความเลอะ แถมยังมีกลิ่นเหม็นด้วย การซักไม่ยากเลยถ้าเรารู้วิธีการซักที่ถูกต้องและให้ผลที่ดี เราได้นำวิธีการซักมาฝากกันค่ะ ไม่ต้องไปซื้อใหม่ให้เปลืองเงิน หมอนใบเก่าก็สามารถซักให้สะอาดได้ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ 1 ผงซักฟอก 1 ถ้วย 2 น้ำ ย าปรับผ้าขาว 1 ถ้วย 3 ผง จั ด การคราบ ½ ถ้วย 4 น้ำ ย าล้างจาน 1 ถ้วย 5 บ อ แ ร ก ซ์ ½ ถ้วย 6 เบกกิ้งโซดา ½ ถ้วย 7 น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย 8 บอลซักผ้า วิธีการซักหมอน 1 ในขั

  ผักกระเจี๊ยบเขียว ทำอาหารได้อร่อย มากประโยชน์ ที่หลายคนไม่รู้ ผักสมุนไพรอย่างผักกระเจี๊ยบเขียว เป็นผักที่จะนิยมนำมาทานคู่กับน้ำพริกต่างๆ นำมาทำเป็นเมนูอาหารต่างๆได้ในหลายเมนู ความอร่อยและการเคี้ยวที่ได้สัมผัสที่มีความกรุบกรอบ นำไปทานกับเครื่องเคียงอาหารประเภทไหน ก็จะช่วยชูรสชาติของอาหารนั้นให้อร่อยยิ่งขึ้น และสำหรับผักกระเจี๊ยบเขียวนี้ยังเต็มไปด้วยส า รอาหารต่างๆมากมาย เรียกได้ว่าเป็นพืชผักที่มีรสชาติที่อร่อยและยังให้ประโยชน์ที่ดี ผักกระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่ตลาด รวมถึงผู้บริโภคมีความต้องการเป็นจำนวนมาก มีการส่งออกไปยังประเ ท ศต่างๆ แต่ทั้งนี้สำหรับการปลูกกระเจี๊ยบเขียวนั้น อากาศสำหรับประ เทศบ้ า นเราไม่สามารถที่จะปลูกได้ตลอดทั้งปี และผู้คนภายในประ เ ท ศก็เริ่มที่จะนิยมในการทานผักกระเจี๊ยบเขียวกันมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ผักกระเจี๊ยบเขียวจะกลายมาเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่จะสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนได้ดี จั ด ว่าเป็นพืชที่ทำให้ชาวเกษตรกรได้มีรายได้เป็นกอบ เป็นกำ สามารถทำมาหาเลี้ยงครอบครัวได้ ประโยชน์ที่มีอยู่ในกระเจี๊ยบเขียว – ผักกระเจี๊ยบเขียวจะมี ฟ อ ส ฟ อรัสสูง ซึ่งในส า รชนิดนี้นั้น

  ไม่ต้องเสียเวลาถอดมาล้าง ก็ทำให้สะอาดได้ ไม่เหลือฝุ่น การทำความสะอาดบ้ า นไม่ว่าจะปัญหาในเรื่องของการกวาด การถู การซักผ้าและอื่นๆมากมาย จะต้องเสียเวลาในการทำงานอยู่ทั้งวัน และใช่ว่าจะทำได้อย่างสะอาดในครั้งเดียว จะต้องทำหลายๆครั้ง เพื่อที่จะทำให้ฝุ่นเหล่านั้นหมดไปได้ และทำให้บ้ า นของเราสะอาดขึ้น สำหรับมุ้งลวดเป็นสิ่งที่หลายๆบ้ า นมักจะมีการติด กัน เพื่อเป็นการป้อง กันฝุ่นที่จะเข้ามาในตัวบ้ า น และลองได้สังเกตดูดีๆแล้วมุ้งลวดของทกๆบ้ า นนั้นก็จะเต็มไปด้วยฝุ่น เวลาที่เราจะทำความสะอาดจะต้องมีการถอดแกะมุ้งลวดออกมาล้าง ไหนจะเป็นวิธีการถอด เป็นวิธีการล้างทำความสะอาด เช็ดให้แห้ง ผึ่งแดดให้แห้ง แล้วนำมาประกอบกับเข้าที่เดิม ทำเอาเสียเวลาไปทั้งวัน เราจึงได้นำเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก ประหยัดแรงไปได้เยอ ะจะเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการทำความสะอาด ลองได้นำวิธีนี้ไปทำกันได้ ในการทำความสะอาดมุ้งลวดนั้น เราไม่ต้องแกะถอดออกมาล้าง วิธีการง่ายๆก็คือให้ใช้ผ้าชุบน้ำนำไปเช็ด กับกระดาษหนังสือพิมพ์ให้เปียก จากนั้นให้นำหนังสือพิมพ์ที่เปียกๆ นี้มาแปะที่มุ้งลวดทั้ง 2 ด้าน ปล่อ

  บอกสูตรไม่หวง ได้รสปลาร้านัวๆ ทำได้ทุกเมนูอร่อย หากจะพูดถึงเมนูยอดนิยมของคนบ้ า นเรานั้น นอกจากที่จะเป็นเมนูผัด กระเพรา ต้มยำกุ้ง ผัดไ ท ยที่เป็นเมนูหาทานได้ง่าย ก็ยังมีอิกห นึ่ งเมนูที่ไม่ว่าจะไปตามสถานที่ไหนๆ ก็มักจะต้องพบเจอกันอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ เมนูส้มตำนั้นเอง ส้มตำที่หลายคนชื่นชอบ ได้รสชาติที่อร่อย ได้ความนัวจากน้ำปลาร้า นำมาทานแล้วถูกใจกันอย่างแน่นอน บางคนมีร้านส้มตำในใจ เป็นร้านที่มีรสชาติที่ถูกใจความอร่อย นอกจากความสดใหม่ของวัตถุดิบต่างๆแล้วร สชาติของน้ำปลาร้าที่มาปรุงรสก็ต้องมีความนัวมีรสชาติที่อร่อยด้วย ถ้าใครที่ชื่นชอบในการทานส้มตำและอยา กที่จะลองทำน้ำปลาร้าเก็บเอาไว้ทานเอง วันนี้เราจึงได้นำสูตรการทำน้ำปลาร้ามาฝากให้กับเพื่อนๆทุกคนกันค่ะ ไม่ว่าจะทำเป็นเมนูส้มตำ น้ำพริกต่างๆ หรือนำไปประกอบในเมนูอาหารในไหนก็อร่อยมากๆเลย การทำน้ำปลาร้า ส่วนประกอบ 1 ปลาร้าใช้ทั้งเนื้อและน้ำ 1 กิโลกรัม แนะนำว่าหากเป็นปลาร้าปลากระดี่จะไม่ค่อยอร่อย ไม่ค่อยนัวกลมกล่อม เลือกดีสุดจะเป็นปลาร้าตัวเล็ก จากอิสานและทางเหนือ 2 น้ำสะอาด 1 กิโลกรัม โดยปริมาณของน้ำที่เติมขึ้นอยู่กับคุณภาพและความเค็มของปลาร

  สอนทำทาโกะยากิ แป้งกรอบๆนุ่มๆ ใส่เครื่องเต็มๆ ทำขายได้ ของทานเล่นกับเมนูทาโกยากิ ที่หลายๆคนนั้นชื่นชอบในการทาน ลักษณะเป็นลูก ลูกๆ ด้านในจะมีเครื่องอยู่ด้านใน แล้วบวกกับตัวซอสต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ มีรสชาติของความอร่อย โดยแป้งมีความกรอบนอกนุ่มใน เป็นเมนูที่หลายคนชอบทานกัน วันนี้เราจึงได้นำสูตรวิธีการทำมาฝาก เป็นแบบฉบับง่ายๆ หากใครที่ทำเป็นเก่งๆ ก็นำสูตรนี้ไปทำข า ยกันได้ ทาโกะยากิ กรอบนอกนุ่มใน ( สูตรนี้ทำได้ประมาณ 40-50 ลูก) ส่วนผสมในการทำ เกลือ 1 ช้อนชา , ผงฟู 1 ช้อนชา , ผงดาชิ 1 ช้อนชา , น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา , ไข่ไก่ 1 ฟอง , แป้งสาลี 200 กรัม ( ถ้าอยา กจะให้แป้งนุ่มกว่าเดิมให้ใช้แป้งเค้กนะคะ และที่สำคัญเวลาผสมแป้งอยา กให้แป้งข้นมากเกินไปนะคะ จะทำให้ทาโกะเราด้านได้ค่ะ ) , น้ำเปล่า 800 มิลลิลิตร (ml) ส่วนผสมอื่นๆ หนวดปลาหมึก (ทาโกะ) , ต้นหอม , กระหล่ำปลี , แครอท ,ปูอัด (หั่นฝอย) , ซอสกินกับทาโกะยากิ คือ มายองเนส ทงคัสสึผสมกับซอสมะเขือเทศ ผงปลาแห้ง สาหร่าย วิธีทำ 1 ทำการผสมในส่วนของแป้ง ไข่ เกลือ ผงฟู น้ำตาลทราย ผงดาชิ เติมน้ำเปล่าเข้าไปแล้วให้คนส่วนผสมทั้งหมดนี้อย่างช้าๆ จนทั้งหมดเข้าก

  วิธีเก็บข้าว เก็บไว้ได้นานและสะอาด ไม่มีตัวขึ้น ข้าวที่เป็นอาหารหลักของในทุกๆบ้ า น พระในทุกบ้ า นนั้นจะต้องซื้อข้าวส า รเก็บเอาไว้หุงในทุกๆวันกันใช่ไหมล่ะคะแต่สำหรับในหลายๆบ้ า นแน่นอนว่าจะต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้กันอย่างแน่นอน กับตัว ม อ ดที่ขึ้นอยู่ในถังข้าวเป็นสิ่งที่ก ว น ใจหรือในบางครั้งที่เก็บข้าวเอาไว้นานๆแล้วเม็ดข้าวและมีความแตก นำมาทานไม่ได้ก็มี วันนี้เราจะไม่มีไอเดียวิธีการเก็บข้าวให้อยู่ได้นาน ไม่ว่าจะเป็นข้าวส า รหรือข้าวเหนียว ทำตามวิธีนี้ก็จะเห็นผลที่ดีได้วิธีนี้เราได้มาจาก คุณ ทรงฤทธิ์ ปะเทโท เกษตรชาวผู้ชำนาญ การปลูกข้าวได้ให้วิธีเก็บข้าวแบบง่ายๆกันค่ะ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1 ขวดน้ำพลาสติกเหลือใช้ (แนะนำให้ใช้ขวดน้ำอัดลม เพราะเนื่องจากมีความหนากว่าขวดน้ำ) 2 ข้าวส า รข้าวเหนียวหรือถั่วต่างๆ 1 กิโลกรัม 3 ใบเตยตากแห้ง(ไม่มีไม่เป็นไรค่ะ) ขั้นตอนการทำ วิธีการง่ายมากๆเลย ข้าวส า รคลุกผสมรวมกับใบเตยตากแห้ง แล้วทิ้งเอาไว้สักครู่ จากนั้นใส่ลงไปในขวดพลาสติกปิดฝาให้แน่น ง่ายๆเท่านี้เองล่ะคะ วิธีนี้นอกจากจะช่วยกันตัว ม อ ดได้แล้ว ยังช่วยยืดอายุของข้าว ส า รให้อยู่ได้นานขึ้นด้ว

  ซุปก้อนซุปผง ที่ใช้ปรุงอาหารบ่อยๆ มีส่วนผสมนี่มาก วันนี้เราได้นำความรู้ที่ดีมาบอกให้กับทุกๆท่าน ทุกๆท่าน ได้ทราบกันหรือไม่ว่าเวลาที่เราทำเมนูอาหารต่างๆ ยิ่งกับเมนูที่เป็นต้ม ซุปก้อนซุปผงที่เราใส่ลงไปในอาหาร เพื่อที่จะปรุงแต่งรสชาติให้ได้รสชาติของความอร่อยมากยิ่งขึ้น สำหรับซุปก้อนหรือเป็นซุปผงสำเร็จรูป ปัจจุบันนี้จะมีให้เลือกอย่างหลายรสชาติ และนำไปทำได้ในหลายๆเมนู ไม่ว่าจะเป็นซุปห มู ซุป ไ ก่ หรือซุปต้มยำ การทำพะโล้ และในเมนูอื่นๆมากมาย เป็นห นึ่ งนวัต ก ร ร มที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการประกอบอาหารให้ความรวดเร็วในการทำอาหารได้มากยิ่งขึ้น และยังคงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค เพราะการทำนั้นไม่ได้ยาก ต้มน้ำใส่ซุปก้อนลงไปเราก็จะได้รสชาติน้ำซุปที่มีความใกล้เคียงแบบซุปที่เคี่ยวแบบธรรมชาติ แต่รู้หรือไม่ว่าสำหรับในส่วนผสมหลักๆของซุปก้อนที่เรานำไปประกอบอาหารนั้นทานเข้าไปบ่อยๆ ก็จะไม่ดี กับร่างกายสักเท่าไหร่ เพราะในซุปก้อนนั้นจะมีส่วนผสมของ ซุปก้อนหรือซุปผง ที่ทานกันอยู่บ่อยๆ 1 ส่วนผสมของเกลือ 26-32 เปอร์ เซ็นต์ เป็นส่วนประกอบหลักปริมาณมากที่สุดในซุปก้อน 2 ผงชูรส 11-32 เปอร์ เซ็นต์ เป็นส่วนผสมที

  แม้ว่าผักผลไม้จะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ที่ใครหลายคนแนะนำให้ทานให้มากๆ แต่หากเป็นผู้ป่วยในบางโรค มีผักผลไม้บางชนิดที่ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้ โรคไต ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักผลไม้ที่มีสารของกรดออกซาลิกปริมาณสูง อาทิเช่น - มันสำปะหลัง - ดอกกะหล่ำ - ผักโขม - ปวยเล้ง เป็นต้น เนื่องจากกรดออกซาลิกสามารถจับกับแคลเซียมตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วที่ไต นอกจากนี้ผู้ป่วยไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น - หน่อไม้ - ใบขี้เหล็ก - ทุเรียน - มะละกอ เป็นต้น โรคธาลัสซีเมีย ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคเลือดจางที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม มีปริมาณธาตุเหล็กสูง แต่ไม่สามารถนำมาสร้างเม็ดเลือดแดงเองได้ ทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กสูงในเลือดซึ่งเป็นอันตราย ฉะนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น - ตับสัตว์ - เครื่องในสัตว์ รวมไปถึงผักผลไม้ที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น - ผักกูด - ถั่วฝักยาว - ผักแว่น - เห็ดฟาง - ใบตำลึง - ใบแมงลัก - ส้ม เป็นต้น โรคไทรอยด์ ผู้ป่วยโรคไทรอยด์ สิ่งที่ผู้ป่วยกลุ่มนี้พึงระวังคือ พืชวงศ์ Cruciferae ได้แก่ - กะหล่ำปล

  มันแน่นอนอยู่ที่ทุกคนจะรู้ถึงคุณประโยชน์มากมายที่ได้จากกล้วย แต่ส่วนใหญ่เวลาที่เรากินกล้วยเรามักจะปอกเปลือกของมันออก และทิ้งไป กินแต่ลูกของมันกัน วันนี้  GangBeauty  เลยขอมาแนะนำว่า อย่าพึ่งทิ้งเจ้า "เปลือกกล้วย" เพราะความจริงแล้วมันมีประโยชน์มาก! ไปดูกันเลยมามันให้อะไรกับร่างกายเราได้บ้าง 1. ขัดฟันขาว :ในเปลือกกล้วยมีแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียม แมงกานีส แมกนีเซียม ซึ่งจริงๆ แล้วยังไม่มีผลวิจัยเรื่องนี้ยืนยันชัดเจนค่ะ ถึงกระนั้นก็มีทันตแพทย์หลายคนบอกว่า เปลือกกล้วยพอช่วยขัดฟันให้ขาวได้อยู่เหมือนกัน 2. แก้ส้นเท้าแตก :นำมาถูบริเวณส้นเท้าที่แห้งกร้าน ทิ้งไว้สัก 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยทำให้ผิวบริเวณส้นเท้านุ่มขึ้น ทำประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง พร้อมกับทาครีมบำรุงตามไปด้วย 3. สมานแผล :ในเปลือกกล้วยมีเอนไซม์ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ และแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น แค่เพียงนำเปลือกกล้วยไปล้างยางออกให้หมดเสียก่อน แล้วค่อยนำมาถูรอบๆ ปากแผล ที่เกิดจากการเกา รอยสิว รวมไปถึงอาการคันจากเชื้อรา 4. แก้ยุงกัด :น้ำตาลในเปลือกกล้วยสามารถลดอาการบวมของตุ่มคันจากยุงกัด ใช้เปลือก