สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  สูตรนี่ทำง่ายแถมอร่อยมาก แจ่วบองปลาร้า หอมอร่อย เก็บไว้ได้นาน เป็นในห นึ่ งเมนูที่เรียกได้ว่าเมนูยอดนิยมกันอย่างมาก ด้วยรสชาติของความอร่อยความหอม เป็นน้ำพริกที่ทำแล้วเก็บเอาไว้ได้นาน นำมาทานคู่กับผักสด ผักล ว กกับแกล้มต่างๆ เข้ากันได้อย่างดีมากๆเลย เมนูที่เรานำมาฝากกันในวันนี้นั่นก็คือ แจ่วบองปลาร้า ใครได้ชิมก็เป็นต้องติดใจในทุกราย สำหรับใครที่ทานปลาร้าจะต้องพลาดไม่ได้กับสูตรนี้เลย หรือหากใครที่ไม่ทานปลาร้านั้นอยา กให้ได้ลิ้มลองน้ำพริกสูตรนี้ เพราะมีรสชาติที่อร่อยมากๆ จิ้มกับข้าวเหนียวร้อนๆ นำมาทานกับเครื่องเคียงต่างๆผักต่างๆ แจ่วบองปลาร้า ส่วนผสม – ปลาร้า 2 ขีด (เอาแต่ตัวนะคะไม่เอาน้ำ) – ตะไคร้ 5 ต้น – หอมแดง 5 หัว – กระเทียมไ ท ย 5 หัว – ใบมะกรูด 10 ใบ – ข่าแก่ 2 แง่ง – พริกแห้งหรือพริกสด ตามชอบ2 ถ้วย – น้ำตาลทรายเล็กน้อย – น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ – น้ำมะขามเปียก 1 ช้อน (ถ้าไม่ใส่เก็บได้นานกว่า) ปริมาณสัดส่วนแล้วแต่ความชอบค่ะ วิธีการทำ 1 เตรียมส่วนผสมและเครื่องปรุงต่างๆครบเป็นที่เรียบร้อย ก็จะมาเริ่มวิธีกันเลย ในขั้นตอนแรกนั้นปลาร้าห่อใบตองแล้วนำไป ย่ า งไฟอ่อนๆ ในกระทะได้กลิ่นของความหอม

  กุยช่ายทอดกรอบๆ สูตรนี่ทำเปิดร้านทำขายได้ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆทุกท่านนั้นมาเข้าครัว พร้อมกับวิธีการทำเมนูของว่างเป็นเมนูแสนอร่อยที่หลายๆท่านชื่นชอบ กับเมนูการทํากุยช่ายทอด กรอบ อาหารว่างทานเล่นเคี้ยวกันได้เพลินๆ กุยช่ายที่ทอดใหม่ๆ มีความร้อนมีความกรอบ ได้นำมาทานคู่กับน้ำจิ้มรสอร่อยก็จะยิ่งให้รสชาติที่อร่อยเพิ่มขึ้นไป และในปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่าเมนูกุยช่ายนั้นก็ได้มี ด้วยกันอย่างหลายหลากหลายไ ส้ ผักกุยช่าย เผือก มันม่วง หน่อไม้และอื่นๆ รสชาติที่ได้ออกมานั้นก็จะได้ความต่างกันออกไป ซึ่งแล้วแต่ความชื่นชอบ ของแต่ละคนเลย กุยช่ายสูตรในวันนี้นั้นจะเป็นกุยช่ายทอด กรอบ ใส่ใบกุยช่ายที่เราจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ ใส่แน่นจัดเต็ม และตัวแป้งร้านจะมีความกรอบมีความอร่อย ทอดไม่อมน้ำมัน ตามมาดูกันเลยทั้งส่วนผสมและวิธีการทำ ส่วนผสม (ไ ส้ กุ้ยช่าย) 1 ใบกุยช่าย 3 ขีด 2 กระเทียมสับ 3-4 กลีบ 3 ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต้ะ 4 น้ำมันพืช ส่วนผสม (แป้งกุ้ยช่าย) 1 แป้งข้าวจ้าว 1 2/3 ถ้วย 2 แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ 3 แป้งข้าวเหนียว 2 ช้อนโต๊ะ 4 แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ 5 น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 6 เกลือ 1/4 ช้อนชา 7 น้ำมันพืช 3 ช้อน

  สอนทำแป้งขนมครก หอมอร่อย หวานมันกะทิ ขนมครกที่เราเห็นมาตั้งแต่เ ด็ กๆในสมัยนั้น มักจะเป็นกิจก ร ร มที่เ ด็ กทุกคนต่างใฝ่ฝัน เวลาเล่นข า ยของก็ชอบจำลองเป็นแม่ค้าที่ขายขนมครก ของว่างทานเล่นกับเมนูขนมครกนี้ มีมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ โดยปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีให้ทานกันอยู่ แต่น้อยร้านที่จะมีรสชาติแบบในสมัยก่อนแบบดั้งเดิม วันนี้เราจึงได้นำ สูตรการทำขนมครกมาฝากกัน จะทำทานกันเองที่บ้ า นหรือทำข า ยเพื่อสร้างเป็นรายได้และสร้างเป็นอาชีพได้ ส่วนผสมที่เตรียมไว้ 1 ตัวแป้งขนมครก แป้งข้าวจ้ าว 1 ถ้วย , หัวกะทิ 1/2 ถ้วย , หางกะทิ 1+1/2 ถ้วย , น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย 2 หน้าขนมครก หั วกะทิ 1 ถ้วย , ด อ กเกลือ 1/2 ช้อนชา (หรือใช้เกลือธรรมดาก็ได้ค่ะ) , ใบต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ 3 น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ ใช้เช็ดถาดขนม วิธีทำขนมครก 1 เริ่มต้นด้วยการผสมแป้งข้าวเจ้าเข้ากับน้ำตาลทราย ใส่หัวกะทิลงไป คนแป้งให้เข้ากันดี จากนั้นเติมหางกะทิที่เตรียมเอาไว้ตามปริมาณที่เตรียมเอาไว้ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน พักแป้งทิ้งเอาไว้นาน 2 ชม. 2 ในระหว่างที่ทำการรอนั้น ให้เราเตรียมในส่วนของหน้าขนม โดยผสมกะทิเข้ากับดอกเกลือ ใส่ใบหอมซอยลงไป 3 ค

  ช่วยได้เยอะ เคล็ดลับสุดง่ายๆ ช่วยประหยัดค่าน้ำได้มาก พอได้เห็นบิลค่าน้ำค่าไฟมาในแต่ละเดือนนั้น ก็คิดในใจว่าทำไมเยอะแบบนี้ ทั้งๆที่ในบางเดือนเราก็มีการใช้น้ำใช้ไฟกันอย่างประหยัด แต่เราเชื่อได้เลยว่าสำหรับหลายๆท่านอาจจะยังไม่นึกถึงว่า เราสามารถที่จะประหยัดในส่วนของน้ำได้มาก นั่นก็คือ การใช้น้ำจากชักโครก นั่นเอง หลายๆท่านได้ทราบกันหรือไม่ว่า เราสามารถประหยัดน้ำในส่วนนี้ได้ เพราะการใช้น้ำจาก ชั ก โครกที่เรากดในแต่ละครั้งนั้น ใช้น้ำได้ถึง 8 ถึง 12 ลิตรเลยทีเดียวต่อ 1 ครั้ง และใน 1 วันเข้ากันกี่ครั้ง เข้ากันกี่คน ซึ่งจะทำให้เปลืองน้ำในจุดนี้ไปมากเลย วิธีการที่จะช่วยประหยัดน้ำในส่วนนี้นั้น วันนี้เราจึงได้นำเทคนิคง่ายๆที่จะช่วยคุณได้อย่างดี จะทำให้ประหยัดน้ำในการกดแต่ละทีได้มาก จะลดปริมาณของน้ำลงเราตามมาดูในวิธีกันเลยว่าทำอย่างไร อุปกรณ์ที่ต้องใช้ 1 ขวดน้ำพลาสติกเหลือใช้ที่มีฝาปิด 2 น้ำสะอาด ขั้นตอนในการทำ ก่อนอื่นเลยที่เราจะทำนั้นให้เรากดน้ำชักโครก 1 ครั้งแล้วสังเกตดูปริมาณน้ำที่ออกมานั้น ก็จะออกมาในปริมาณที่มาก วิธีการแก้ ให้ทำตามด้านล่างนี้เลย 1 สำหรับในขั้นตอนแรกนั้นเราจะเริ่มด้วยการ เตร

  ปลูกพืชไว้ ช่วยดูดเงินทอง ปลูกเอาไว้บริเวณบ้าน การปลูกต้นไม้ที่จะช่วยเสริมในด้านของความมั่งคั่งมาสู่คนในครอบครัว ต้นคลาสซูล่า หรือที่เรียกกันว่าเป็นต้นไม้สวรรค์ ต้นเงิน เป็นพืชที่ปลูกในร่มได้ดีและมีความทนเป็นเลิศ ไม่ต้องการในการดูแลมากนัก นิยมปลูกแบบบอนไซ คือไม่โตและมีการจัดตกแต่งเพื่อความสวยงาม โชค ช ะ ตาโช ค ล า ภที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่ทุกๆคนต่างไขว่คว้า อยาก ที่จะมีอยา กจะได้เป็นของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าทุกๆคนนั้นจะมีโอกาสได้รับสิ่งที่ดี หากใครที่กำลังมองหาโอกาสและความก้าวหน้า วันนี้เราลองเริ่มต้นง่ายๆจากการหาของที่เป็นมง ค ล มาประดับตกแต่งเอาไว้ในชีวิต วันนี้เราได้นำพืชที่มีความหมายที่ดี มีความเป็นมง ค ลมาแนะนำ นั่นก็คือ ต้นคลาสซูล่า ที่นอกจากจะสร้างความสวยงามและความสดชื่นในบ้ า นแล้วนั้น ยังให้ออก ซิ เจนให้อากาศที่ดี ให้โ ช ค ล า ภ ด้วย ประโยชน์ที่มากขนาดนี้แล้วเราจะต้องหาปลูกกันเอาไว้เลย พืชมง ค ล ที่ว่านี้ มีชื่อว่า ต้นคลาสซูล่า  หรือ  ต้นไม้สวรรค์ หรือ ต้นใบเงิน ซึ่งพืชชนิดนี้ จะช่วยทำ 3 หน้าที่ 1 ช่วยกรองอากาศ 2 ปก ป้องจากฝุ่นละออง 3 ช่วยเพิ่มพลังงานบวก เข้ามาสู่บ้ า นของคุณ สำหรั

  ปลากริมไข่เต่า ขนมโบราณ เส้นนุ่มหนึบ ปลากริมหอมหวาน ขนมโบราณขนมปลากริมไข่เต่า เป็นขนมหม้อแบบโบราณที่อยู่ยืนยงมาจนถึงในทุกๆวันนี้ ปัจจุบันนี้ก็หาทานกันได้ยาก มีน้อยร้านที่ทำข า ยกัน ขนมปลากริมไข่เต่านั้นจะใส่หม้อดิน 2 หม้อ แล้วจะเป็นปลากริมตัวยาวๆใส่อยู่ในน้ำกะทิสีน้ำตาลเพราะน้ำตาลปี๊บจะมีรสชาติที่หวานมัน หม้อใบที่ 2 จะเป็นไข่เต่าตัวยาวๆเหมือนกันแต่สีขาว จะอยู่ในกระทิขาว มีรสชาติของความเค็ม เวลาตักทานนั้น ตักขนมทั้ง 2 หม้อมาผสมรวมกัน ก็จะได้รสชาติที่มีความเค็มหวานมัน สูตรขนมปลากริมไข่เต่าในยุคใหม่นี้ จะมีการปรับปรุงขึ้นจากเดิมมาก เพราะมีการผสมแป้งอยู่หลายชนิด ให้ตัวขนมมีความเหนียวนุ่มมากขึ้นกว่า โดยจะใช้เป็นแป้งข้าวเหนียวอย่างเดียว วิธีการทำมากินนั้น ก็มีการเคี่ยวน้ำให้เป็นคาราเมล เพื่อที่จะให้สีน้ำกะทิ เป็นสีน้ำตาลเข้ม บางคนใช้เป็นน้ำตาลอ้อย น้ำตาลมะพร้าวหอมๆ บางคนก็จะใส่สีเขียวกลายเป็นปลากริมเขียว ขนมปลากริมไข่เต่า ส่วนผสมแป้ง 1 แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม 2 แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม 3 แป้งมันสำปะหลัง 50 กรัม 4 น้ำเดือดจัด 275 กรัม (1 1/4 ถ้วย) เทแป้งลงไปในอ่างผสมคนให้เข้ากัน ตั้งน้ำให้เดือ

  สามชั้นทอดน้ำปลา 3 สูตรการทำ อร่อย บอกทุกๆขั้นตอน เป็นเมนูโปรดของหลายๆคนกันเลย สำหรับสามชั้นทอดน้ำปลา กรอบนอกนุ่มใน ทอดแบบไม่อมน้ำมัน ทอดน้ำมันไม่กระเด็น ยิ่งได้ทานคู่กับน้ำจิ้มที่ชื่นชอบทานกับข้าวเหนียวทานกับข้าวสวย หรือจะทานเป็นกับแกล้มของว่างทานเล่น อร่อยแน่นอน ตามมาดูกันเลย โดยวันนี้เราได้มี 3 สูตรมาฝากกัน ในแต่ละสูตรนั้นจะมีส่วนผสมเครื่องปรุงที่ต่างกันออกไป วิธีการทำก็จะคล้ายๆกันเลย ชื่นชอบทำตามสูตรไหนสะดวกทำตามสูตรไหนก็สามารถเลือกทำกันได้บอกเลยว่าอร่อยทุกสูตร 1 สามชั้นทอดน้ำปลา (สูตรกรอบนาน) ส่วนผสม 1 ห มู สาม ชั้น 500 กรัม 2 น้ำปลาอย่างดี 3-4 ช้อuโต๊ะ 3 พริกไท ยป่น (เล็กน้อย) 5 ผงปรุงรส (เล็กน้อย) 6 แป้งชุบทอด 5-7 ช้อuโต๊ะ 7 ไข่ไก่ 1 ฟอง 8 น้ำเย็น 9 น้ำมันพืช (สำหรับทอด) 10 น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อuโต๊ะ 11 เกลือป่น (เล็กน้อย) วิธีทำสามชั้นทอดน้ำปลา – เริ่มด้วยการใช้ส้อมนำมาจิ้มเนื้อห มู ให้ทั่วๆ ก่อนที่จะนำมาหมักเข้ากับเครื่องปรุงน้ำปลา พริกไ ท ยป่น ผงปรุงรส แป้งชุบทอด ใส่ลงไป ใส่ไข่ไก่และทำการนวดผสมให้เข้ากัน – เทน้ำมันพืชใส่ลงไปบนกระทะ ตั้งไฟ เมื่อน้ำมันร้อนแล้วใส่น้ำส้มสายชู เกล

  พริกสด มะนาว เก็บไว้นานเป็นปีๆ ไม่เสีย คงสดใหม่ สำหรับวัตถุดิบรวมทั้งเครื่องปรุงต่างๆในการทำอาหารนั้น ก็จะมีพริก กระเทียม มะนาว ที่เรานำมาใช้ในหลายๆเมนู ยิ่งได้เป็นพวกน้ำพริกหรือน้ำจิ้มต่างๆนั้น จะขาด กันไปไม่ได้เลย เพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติของความอร่อยได้มากยิ่งขึ้น แต่ในหลายๆครั้งที่เราได้ซื้อมาจำนวนที่มาก นำมาทำแล้วไม่หมด ก็มักจะเก็บไว้เอาไว้ในตู้เย็น เวลาที่นำมาใช้ในครั้งถัดไปบางทีก็เสีย บางทีก็ดำ ไม่มีความสดใหม่ จะต้องทิ้งไปในทุกครั้ง ทำให้เสียดายของและเสียดายเงินด้วย แล้ววันนี้เราจึงได้นำเคล็ดลับดีๆสำหรับการเก็บพริก มะนาว เก็บผักผลไม้ต่างๆให้อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น ให้มีความสดใหม่ได้นาน บางอย่างนั้นสามารถที่จะเก็บเอาไว้ได้นานเป็นปีกันเลย โดยที่จะยังให้ความสดใหม่ นำมาประกอบในเมนูอาหารได้เหมือนเดิม เหมือนพึ่งซื้อมาจากตลาด เก็บพริกสดใหม่ การเก็บพริกพริกขิ้ห นู พริกชี้ฟ้า พริกแดง ที่เรามักจะนำมาประกอบในเมนูอาหารทำน้ำพริก ทำน้ำจิ้มต่างๆ ให้ได้รสชาติของความเผ็ดให้มีสีสันที่น่าทานมากยิ่งขึ้น วิธีการเก็บเอาไว้ให้นานๆ เริ่มด้วยการล้างน้ำทำความสะอาด ตัดในส่วนของใบก้านออก พึ่งเอาไว้ให้แห้ง จา

  ของใช้ในบ้าน นำมาขัดล้างสร้อยทอง เงาวับเหลืองเหมือนเส้นใหม่ เป็นเรื่องราวที่ดีที่เราอยา กจะมาฝากให้กับทุกๆท่านกัน สำหรับวิธีการล้างทำความสะอาดทองด้วยของใช้ที่มีอยู่ในบ้ า น ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวนต่างๆ ก็สามารถที่จะขัดล้างได้อย่างสะอาด ทั้งยังมีความเงาวับได้เหมือนใหม่ สร้อยทองสร้อยข้อมือที่หลายๆคนมักจะใส่กันอยู่เป็นประจำนั้น หรือบางคนซื้อมาเก็บเอาไว้เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่า สำหรับการใส่สร้อยทอง สร้อยข้อมือ หรือแหวนต่างๆนั้น เมื่อเราใส่ไปนานวันเข้า แน่นอนว่าจะเกิดเป็นคราบ ทำให้มีความเหลืองดูเก่า ไม่เหลืองสวยงามเหมือนในตอนแรกๆ 5 วิธีล้างทองให้สะอาด 1 ย าสี ฟั น มาขัดถู ใช้ยาสีฟันมาช่วยทำความสะอาดทอง ยาสีฟันที่เราใช้นั้นแนะนำว่าไม่ให้ใช้เป็นที่ไม่มีแบบเม็ดบีท เพราะจะทำให้ทองเป็นรอยได้ นำมาป้ายลงบนสร้อย จากนั้นใช้แปรงขนนุ่มๆมาขัดแปรงหรือจะใช้เป็นผ้าขนนุ่มๆมาขัดอย่างเบาๆ วิธีนี้จะช่วยให้ทองเงาวับ เมื่อได้ขัดออกเป็นที่เรียบร้อยให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง 2 ใช้น้ำย าล้างจาน น้ำยาล้างจานผสมเข้ากับน้ำอุ่น แล้วเอาทองเครื่องประดับที่เราต้องการจะล้างทำความสะอาดนั้น มาแช่เอาไ

  ด้วยรสชาติของน้ำพริกกะปินั้นที่หลายๆคนต่างได้ชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก น้ำพริกกะปินิยมนำมาทานคู่กับเมนูอาหารได้ในหลายๆเมนู เพราะมีความอร่อยและเข้ากันเป็นอย่างมาก น้ำพริกกะปิจะให้อร่อยนั้นจะต้องเตรียมเครื่องปรุงอย่างดี กะปิอย่างดี กระเทียมอย่างดี เครื่องปรุงต่างๆที่เราได้นำมาโขลกผสมรวมกันนั้นจะต้องเป็นของที่ดีและมีคุณภาพ เพื่อที่จะให้รสชาติของความอร่อยได้มากยิ่งขึ้น 1 น้ำพริกกะปิ (สูตร 1) เครื่องปรุง 1 กะปิห่อใส่ใบตองผิงไฟให้พอหอม 300 กรัม 2 กุ้งแห้งป่นอย่างดี 200 กรัม 3 กระเทียมสดเเกะเปลือก 100 กรัม 4 พริกขี๊ห นูสวน 50-70 กรัม 5 มะเขือเปราะเอาเมล็ดออก แล้วซอยให้เป็นเสี้ยวๆ 50 กรัม 6 มะอึกซอย 50 กรัม 7 น้ำมะนาวสด 6-8 ช้อนโต๊ะ 8 น้ำปลาแท้ 2-4 ช้อนโต๊ะ 9 น้ำตาลปีบ 3-5 ช้อนโต๊ะ วิธีการปรุงรสชาติ กะปินำมาโขลกรวมกับกระเทียม พริกเมื่อเข้ากันดีแล้วใส่กุ้งแห้งป่นตามลงไป และโขลกต่อให้เข้ากัน ใส่มะเขือเปราะ มะอึก แล้วค่อยๆใช้สากทำการโขลกอย่างเบาๆ จากนั้นให้ทำการปรุงรสชาติด้วยการเติมน้ำมะนาว น้ำปลาน้ำตาลปี๊บ ให้รสชาติของทั้ง 3 รสนั้นคลอกันไป รสชาติของความหวานตามหลัง บางคนจะชื่นชอบในการใส่ผิวมะนาวซอ