บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม 5, 2021

ข้าวเหนียวแก้ว

รูปภาพ
  ถ้าเอียนข้าวเหนียวมูนกันแล้วเปลี่ยนมาทำเมนูข้าวเหนียวแก้ว สูตรจาก  คุณ Rin's Cookbook (#Rinscookbook)  เคี้ยวกรุบกรอบหอมกลิ่นใบเตย โรยงาเพิ่มกลิ่นหอม จัดเลยบ่ายนี้ ส่วนผสม ข้าวเหนียวแก้วใบเตย      • ข้าวเหนียวนึ่งสุกและยังร้อนอยู่  [คลิกดู วิธีการนึ่งข้าวเหนียว]      • กะทิ 3/4 ถ้วย      • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย      • เกลือป่น 1/4 ถ้วย      • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย      • น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ  [คลิกดู วิธีทำน้ำปูนใส]      • งาดำคั่ว หรืองาขาวคั่ว (หรือทั้ง 2 ชนิด)  วิธีทำข้าวเหนียวแก้ว       1. ใส่ข้าวเหนียวร้อน ๆ กะทิ เกลือป่น น้ำปูนใส และน้ำใบเตยลงในอ่างผสมคนให้เข้ากัน ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร (หรือจาน) อย่าให้ลมเข้า พักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้ข้าวเหนียวดูดซึมส่วนผสมทุกอย่างเข้าไป       2. ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนผสมให้เข้ากัน เทส่วนผสมใส่กระทะใช้ไฟกลางอ่อน กวนข้าวเหนียวไปเรื่อย ๆ โดยค่อย ๆ กวนเพื่อให้ข้าวเหนียวเรียงสวยและไม่หักกลาง       3. หลังจากกวนมาประมาณ 5 นาทีจนน้ำตาลทรายเริ่มละลาย ให้กวนต่ออีก 10-15 นาที จนข้าวเหนียวชักเงาและจับตัวเป็นก้อน ปิดไฟและพักทิ้งไว้ประมาณ 1

ตะโก้สาคู

รูปภาพ
        1. ทำตะโก้สาคู โดยใส่น้ำลงในหม้อ ตามด้วยใบเตย นำขึ้นตั้งไฟแรง ต้มจนเดือด ใส่เม็ดสาคูลงไปต้ม ใช้ไฟกลางอ่อน ต้มประมาณ 15 นาที จนเม็ดสาคูเริ่มพองออก นำใบเตยออกแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้เข้ากันจนเม็ดสาคูสุก สุดท้ายใส่เม็ดข้าวโพดต้มสุกลงไป คนผสมให้เข้ากัน ยกลงจากเตา วางพักทิ้งไว้จนเย็น       2. ทำหน้ากะทิ โดยใส่กะทิ น้ำตาลทราย แป้งข้าวเจ้า และเกลือป่นลงในหม้อขึ้นตั้งไฟอ่อน หมั่นคนผสมตลอดเวลา (เพื่อป้องกันไม่ให้ไหม้) ประมาณ 15 นาที จนส่วนผสมข้น ปิดไฟ ยกลงจากเตา        3. ตักสาคูใส่ถ้วย ราดด้วยหน้ากะทิ แต่งด้วยเม็ดข้าวโพด พร้อมเสิร์ฟ      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  ตะโก้สาคู ขนมไทยหวานหอม ทำง่ายนิดเดียว +-+-+-+-+-+-+-+-+-+

มะพร้าวแก้วใบเตย

รูปภาพ
  ติดใจมะพร้าวแก้วสีสวย รสชาติหวานหอม ช่วงกินเจแบบนี้ใครอยากลองทำเอง ขอแนะนำสูตรจาก  คุณนัทจัง สบายดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  สูตรนี้สีธรรมชาติจากน้ำใบเตย ส่วนผสมไม่เยอะ ถ้าแดดดีจับตากแดด แต่ถ้าแดดไม่มีก็จับเข้าเตาอบเลยจ้า ส่วนผสม มะพร้าวแก้ว (ทำครั้งละน้อย ๆ)      • มะพร้าวทึนทึก (ขูดเป็นเส้น) 200 กรัม      • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย      • น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย (ใบเตยปั่นกับน้ำเปล่า)      • เกลือ 1/4 ช้อนชา (หรือไม่ใส่ก็ได้ค่ะ) วิธีทำมะพร้าวแก้ว       1. ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย น้ำใบเตย และเกลือลงในกระทะ เปิดไฟกลาง ๆ หมั่นคนไปเรื่อย ๆ จนน้ำงวดแล้วปิดไฟ       2. ใช้ช้อนกับส้อมตักมะพร้าวแก้วมาพอดีคำ วางลงในภาชนะแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง หรืออบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส จนแห้ง      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  มะพร้าวแก้วใบเตย ขนมไทยหวานละมุน เคี้ยวเพลิน ๆ +-+-+-+-+-+-+-+-+-+

ลูกเดือยเปียก

รูปภาพ
        ลูกเดือย มีประโยชน์ นอกจากเอาไปทำน้ำลูกเดือยแล้วยังเอามาทำเมนูขนมเจได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่นเมนูลูกเดือยเปียก สูตรนี้เพิ่มรสสัมผัสจากเผือก ตบท้ายด้วยราดน้ำกะทิตัดเลี่ยน  ส่วนผสม ลูกเดือยเปียก      • ลูกเดือยแห้ง 1 ถ้วย       • น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร      • เผือกหั่นเต๋า (หรือธัญพืชอื่น ๆ ตามชอบ  เช่น เม็ดบัว, ถั่วแดงต้มสุก, ฟักทอง)      • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย      • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา (ปรุงรส)      • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ      • เนื้อมะพร้าวอ่อน ส่วนผสม กะทิสำหรับราดหน้า (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)      • กะทิสำเร็จรูป 1/2 กล่อง      • เกลือป่น เล็กน้อย      • แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำกะทิสำหรับราดหน้า      • ต้มกะทิกับเกลือป่นในหม้อพอร้อน ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไปคนผสมให้เข้ากันจนข้น ยกลงจากเตา เตรียมไว้สำหรับราดหน้าลูกเดือยเปียก วิธีทำลูกเดือยเปียก       1. แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืนจนลูกเดือยเริ่มนิ่มขึ้น จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้       2. นำลูกเดือยที่แช่น้ำแล้วไปต้มจนสุกและบานออก ประมาณ 10-15 นาที ใส่เผือกที่หั่นไว้ลงไปต้มจนสุกนิ่ม จากน

ขนมฟักทอง

รูปภาพ
  ฟักทองนึ่งที่เหลือกินต่อไม่ไหวแล้ว จับมาทำเมนูขนมฟักทองกินหลังอาหารคาวน่าจะเหมาะ สูตรจาก  คุณนัทจัง สบายดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ขนมเจสีสวยหวานน้อย ถ้าใครไม่มีใบตองก็ใส่ถ้วยทนความร้อนนำไปนึ่งก็ได้เช่นกันจ้า  ส่วนผสม ขนมฟักทอง      • แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม      • แป้งมัน 40 กรัม      • แป้งเท้ายายม่อม 50 กรัม      • หัวกะทิ 200 กรัม      • เนื้อฟักทองนึ่งสุก 300 กรัม      • น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม      • น้ำตาลทราย 90 กรัม      • เกลือป่น 1 ช้อนชา      • มะพร้าวทึนทึกขูด 100 กรัม วิธีทำขนมฟักทอง       1. ใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อมลงในภาชนะ ตามด้วยกะทิ ประมาณ 60-80 กรัม นวดประมาณ 15 นาที        2. นำกะทิที่เหลือ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เนื้อฟักทอง และเกลือป่น ใส่ลงในเครื่องปั่นเพื่อให้เนื้อละเอียด เทผสมลงในแป้ง ใช้มือหรือตะกร้อมือคนเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน        3. ใส่เนื้อมะพร้าวขูดลงไปแล้วคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง นำไปห่อใบตองหรือใส่ถ้วย นำไปนึ่งประมาณ 15 นาที แต่งด้วยมะพร้าวขูด      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  วิธีทำขนมฟักทอง ขนมไทยสุดคลาสสิก ทำง่ายอร่อยด้วย +-+-+-

กล้วยเชื่อมแดง

รูปภาพ
  คุณแม่อยากกินเมนูกล้วยเชื่อมแดง ขนมไทยโบราณยุคนี้หากินยากมาก เท่าที่ไปดูตามร้านขนมไม่เจอเลย แต่ไม่เป็นไรทำเองก็ได้เนอะ ส่วนผสมไม่เยอะ แค่มีกล้วยหวีเดียวก็เอาอยู่ ส่วนผสม กล้วยเชื่อมแดง      • กล้วยน้ำว้าห่าม ๆ 12 หวี (ประมาณ  8-10 ลูก)      • น้ำปูนใส (สำหรับแช่กล้วย) **ถ้าไม่มีน้ำปูนใสให้ใช้น้ำเปล่าผสมเกลือป่นได้      • น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง      • ใบเตย 3 ใบ      • น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม      • น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม      • น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำกล้วยเชื่อมแดง       1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าออกแล้วหั่นเป็น 4 ชิ้น นำไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำปูนใส (หรือน้ำผสมเกลือ) ประมาณ 1 ชั่วโมง พอครบเวลานำไปล้างจนหมดกลิ่นปูน       2. ใส่น้ำเปล่า ใบเตย น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทรายลงในหม้อ พอเดือดใส่กล้วยน้ำว้าลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว รอให้เดือดอีกครั้งแล้วช้อนฟองทิ้งจนหมด เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนกล้วยเปลี่ยนเป็นสีแดง ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  กล้วยเชื่อมแดง ขนมไทยโบราณหากินยากแต่เราทำเองได้ +-+-+-+-+-+-+-+-+-+

มันต้มขิง

รูปภาพ
  เคยซื้อมันต้มขิงแต่ไม่ประทับใจ เพราะน้ำขิงรสชาติหวานแสบคอ วันนี้เลยมาทำเองง่าย ๆ สูตรนี้ใช้ขิงแก่รสชาติเผ็ดร้อน ใส่น้ำตาลน้อย อร่อยจนต้องยกซดกันเลย  ส่วนผสม มันต้มขิง      • มันเทศ 500 กรัม      • น้ำเปล่า 4-5 ถ้วย      • น้ำตาลกรวด 1 ถ้วย      • ขิงแก่ (หั่นเป็นแว่น) 5-10 ชิ้น วิธีทำมันต้มขิง       1. ปอกเปลือกมันเทศ ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ แช่น้ำ เตรียมไว้       2. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลกรวดคนผสมจนน้ำตาลละลายหมด       3. พอน้ำเดือด ใส่มันเทศลงต้มจนเดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่ขิงลงต้มจนมันเทศสุก ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  8 สูตรขนมมัน ขนมไทยกินแล้วมันเคี้ยวแล้วเพลิน +-+-+-+-+-+-+-+-+-+

ไข่นกกระทาทอด

รูปภาพ
  เอาใจคุณลูกช่วงกินเจกันด้วยเมนูไข่นกกระทาทอด จับมันเทศผสมกับแป้ง ใส่เกลือกับน้ำตาลนิดหน่อย ปั้นเป็นลูกกลมทอดจนกรอบ พอหายร้อนก็เรียกลูกรักมาหม่ำกัน ส่วนผสม ไข่นกกระทาทอด      • มันเทศ (ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก) 300 กรัม      • แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม       • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 20 กรัม      • ผงฟู 1/2 ช้อนชา      • น้ำตาลทราย      • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา      • น้ำมันพืช (สำหรับทอด) วิธีทำไข่นกกระทาทอด       1. นึ่งมันเทศจนสุกนิ่ม พักทิ้งไว้จนเย็นก่อนแล้วนำมาบดผ่านตะแกรงให้ละเอียดจนเนื้อเนียน       2. ใส่แป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงในมันบด นวดผสมจนเนื้อเนียน ปั้นแป้งเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเท่า ๆ กัน เตรียมไว้       3. เทน้ำมันพืชลงในกระทะใช้ไฟกลางรอจนน้ำมันร้อน ใส่แป้งปั้นกลมลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้ พร้อมเสิร์ฟ      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  8 สูตรขนมมัน ขนมไทยกินแล้วมันเคี้ยวแล้วเพลิน +-+-+-+-+-+-+-+-+-+

ขนมมันนึ่ง

รูปภาพ
  ถ้ายังกินเมนูจากมันสำปะหลังไม่จุใจมาต่อกันที่เมนูขนมมันนึ่งกันเลย เป็นอีกขนมเจที่อร่อยเหาะ จับมันสำปะหลังไปขูดก่อน ต่อมาก็ผสมกับน้ำตาลทรายและน้ำใบเตย เสร็จแล้วก็ใส่ถ้วยนำไปนึ่งจนสุก แค่นี้ก็รอกินกันเลย  ส่วนผสม ขนมมัน      • น้ำใบเตย 1 ถ้วย      • เนื้อมันสำปะหลัง (ขูดละเอียด) 400 กรัม        • น้ำตาลทรายขาว 200 กรัม       • เนื้อมะพร้าวทึนทึกขูด 1 ถ้วย      • เกลือป่นเล็กน้อย      • ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่ง) วิธีทำขนมมันนึ่ง       1. ผสมเนื้อมันสำปะหลังขูดกับน้ำตาลทราย ค่อย ๆ เทน้ำใบเตยลงนวดให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย        2. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลแล้วนำไปวางเรียงในชุดนึ่ง       3. นำชุดนึ่งที่ใส่น้ำแล้วขึ้นตั้งไฟรอจนน้ำเดือด ยกชุดนึ่งที่ใส่ขนมวางลงไปนึ่งประมาณ 10-15 นาที หรือจนขนมสุก นำออกมาพักไว้ให้เย็น        4. นำเนื้อมะพร้าวขูดไปนึ่งประมาณ 5 นาที แล้วนำออกมาคลุกกับเกลือป่นเล็กน้อย       5. แคะขนมมันออกจากพิมพ์ นำไปคลุกกับมะพร้าวขูดที่เตรียมไว้ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  8 สูตรขนมมัน ขนมไทยกินแล้วมันเคี้ยวแล้วเพลิน +-+-+-+-+-+-+-+-+-+

ขนมมันสำปะหลังเชื่อม

รูปภาพ
  มันสำปะหลังเอามาทำอะไรได้บ้าง ? นี่ไงเอามาทำขนมมันสำปะหลังเชื่อมได้ด้วย จับมันสำปะหลังต้มในน้ำเชื่อมจนสุก ก่อนเสิร์ฟราดกะทิตามชอบ ส่วนผสม มันสำปะหลังเชื่อม      • มันสำปะหลัง 1 หัว      • น้ำตาลทราย 2 ถ้วย      • น้ำลอยดอกมะลิ 5 ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ) ส่วนผสม กะทิสำหรับราด      • หัวกะทิ 1 ถ้วย      • แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนโต๊ะ      • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา วิธีทำมันสำปะหลังเชื่อม       1. หั่นมันสำปะหลังเป็นท่อนสั้น ๆ ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด เตรียมไว้       2. ใส่น้ำตาลทรายลงในกระทะเทฟลอน (หรือกระทะทองเหลืองถ้ามี) ตามด้วยน้ำลอยดอกมะลิ ใช้ไฟกลางเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลายหมด       3. เมื่อน้ำเชื่อมเดือดแล้วใส่มันสำปะหลังลงไปต้มจนมันเริ่มสุกบางส่วนแล้วลดเป็นไฟอ่อน จากนั้นเชื่อมมันไปเรื่่อย ๆ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดของมันสำปะหลังที่หั่น) จนน้ำเชื่อมซึมเข้าไปในเนื้อมัน และเนื้อมันมีลักษณะใส ปิดไฟ พักไว้       4. ทำกะทิสำหรับราด โดยละลายแป้งข้าวโพดกับหัวกะทิเล็กน้อย ใส่เกลือป่นลงไปคนให้แป้งละลายหมดแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อนคนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมข้นและเหนียว ปิดเตา พักไว้จนเย็น       5

ลำไยลอยแก้ว

รูปภาพ
   มาต่อกันที่เมนูขนมเจคลายร้อนกันบ้างดีกว่า มาลองชิมเมนูลำไยลอยแก้วกัน ซื้อลำไยสดมาแกะเม็ดต้มกับน้ำเชื่อม เพิ่มแปะก๊วยลงไป ตักน้ำแข็งโปะหน่อย แค่ถ้วยเดียวก็ชื่นใจ ส่วนผสม ลำไยลอยแก้ว      • เนื้อลำไย      • เม็ดแปะก๊วย (ต้มสุก)      • น้ำตาลทราย 1 ส่วน      • น้ำเปล่า 1 ส่วน วิธีทำลำไยลอยแก้ว       1. ปอกเปลือกลำไยออกแล้วใช้มีดคว้านเม็ดออก เอาเฉพาะเนื้อแล้วนำไปล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำเตรียมไว้        2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดเป็นไฟอ่อนแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย        3. นำเนื้อลำไยและเม็ดแปะก๊วยต้มสุกใส่ลงในหม้อน้ำเชื่อม รอจนน้ำเชื่อมเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้จนเย็น       4. ตักลำไยลอยแก้วใส่ลงในถ้วยใส่น้ำแข็งลงไป พร้อมเสิร์ฟ      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  8 สูตรผลไม้ลอยแก้ว เมนูขนมไทยคลายร้อนเย็นฉ่ำทำง่าย ๆ +-+-+-+-+-+-+-+-+-+

กล้วยปิ้งราดซอสมะพร้าวอ่อน

รูปภาพ
  กล้วยปิ้งร้อน ๆ กินกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ แต่ถ้าได้น้ำจิ้มหวานหอมมากินคู่กันคงเพิ่มดีกรีความอร่อยแน่นอน ชวนทำเมนูกล้วยปิ้งราดซอสมะพร้าวอ่อน สูตรจาก  คุณ Rin's Cookbook (#Rinscookbook)  จะนำกล้วยไปปิ้งบนเตาถ่านหรือนำไปอบก็ได้ ราดซอสใส่มะพร้าวอ่อนเน้น ๆ ใครมาแบ่งก็ไม่ยอม ส่วนผสม กล้วยปิ้งราดซอสมะพร้าวอ่อน      • น้ำตาลปี๊บ 4 ออนซ์ (ประมาณ 113 กรัม)      • น้ำตาลทรายขาว 2 ออนซ์ (ประมาณ 57 กรัม)      • น้ำตาลทรายแดง 2 ออนซ์ (ประมาณ 57 กรัม)      • เกลือ 1/2 ช้อนชา      • หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง      • เนื้อมะพร้าวสด 1/2 ถ้วยตวง      • ใบเตย 2 ใบ      • กล้วยน้ำว้าสุกตามชอบ 15-18 ลูก  วิธีทำซอสมะพร้าวอ่อน (น้ำจิ้มกล้วยปิ้ง)       1. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายแดงลงไป ตามด้วยเกลือ ใส่หัวกะทิลงไป 1/2 ถ้วยตวง นำไปตั้งบนเตาใช้ไฟอ่อนเคี่ยวประมาณ 20 นาที       2. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยใบเตย เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 10 นาที หรือจนน้ำกะทิเหนียวข้น       3. ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนให้เข้ากันรอให้เดือดอีกรอบ ปิดไฟ พักทิ้งไว้ วิธีทำกล้วยปิ้ง       1. ปอกเปลือกกล้วยหั่

ขนมครองแครงน้ำกะทิ

รูปภาพ
  เคยกินขนมครองแครงเมื่อตอนเด็ก แต่พออยากจะกินตอนนี้ก็หากินยาก แม้ว่าช่วงกินเจก็ยังไม่เห็นมีขาย มามะมาทำเองเลยดีกว่า ขอแนะนำเมนูขนมครองแครงน้ำกะทิ สูตรจาก  คุณ Fifa-girl สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  สูตรนี้ตัวครองแครงสีสวยจากดอกอัญชัน เคี้ยวหนุบหอมหวานกะทิ  ส่วนผสม ขนมครองแครง      • แป้งมัน 4 ถ้วย      • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย      • ดอกอัญชัน 20 ดอก      • กะทิ 2 กล่อง      • เกลือ 1 ช้อนชา      • น้ำตาลทรายขาว      • ใบเตย      • งาขาวคั่ว วิธีทำขนมครองแครง       1. เตรียมกะละมัง 2 ใบ แบ่งครึ่งแป้งมันใส่ลงในกะละมังทั้ง 2 ใบ (กะละมังละ 2 ถ้วย) ตามด้วยแบ่งครึ่งแป้งข้าวเจ้าใส่ตามลงไปในกะละมังทั้ง 2 ใบ (กะละมังละ 1/2 ถ้วย)       2. ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่ดอกอัญชันลงไป รอจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มแล้วจึงตักดอกอัญชันออก       3. นำน้ำดอกอัญชันที่ต้มเดือดแล้วมาเทลงไปในกะละมังแป้งใบแรก มือหนึ่งค่อย ๆ เทน้ำดอกอัญชัน เพราะกลัวแป้งจะเหลวเกินไป อีกมือหนึ่งคนเร็ว ๆ คนเสร็จก็ใช้มือนวดต่อ ถ้ากลัวแป้งติดมือให้ทาแป้งมันที่มือ แบ่งเป็นก้อนเล็ก ๆ        4. นำน้ำดอกอัญชันที่เหลือมาเติมน้ำเปล่า แล้วตั้งไฟใ

หมี่หวาน

รูปภาพ
  แค่เห็นภาพหมี่หวาน ขนมหวานสไตล์จีนที่เอาเส้นบะหมี่ทำเป็นขนมก็ดูแปลกอยากลิ้มลอง สูตรจาก  นิตยสารแม่บ้าน  บะหมี่เส้นนุ่มกินกับผลไม้อบแห้ง ราดน้ำเชื่อมลำไย ถ้าได้ใส่น้ำแข็ง เย็นฉ่ำใจเลยล่ะ ส่วนผสม หมี่หวาน      • น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง      • ลำไยอบแห้งสีทอง 50 กรัม      • เส้นบะหมี่เจ 4 ก้อน      • พุทราจีนเชื่อมหั่นชิ้น 1/4 ถ้วยตวง      • กล้วยตากหั่นชิ้น 1/4 ถ้วยตวง      • ลูกพลับอบแห้งหั่นชิ้น 1/4 ถ้วยตวง      • อินทผาลัมอบแห้งหั่นชิ้น 1/4 ถ้วยตวง      • ลูกเกดสีขาว 1/4 ถ้วยตวง      • แปะก๊วยเชื่อม 80 กรัม      • น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง วิธีทำหมี่หวาน       1. ตั้งน้ำเปล่าพอเดือด ใส่น้ำตาลทรายและลำไยอบแห้งลงต้ม ประมาณ 10 นาที พอเนื้อลำไยนุ่ม ยกลงพักไว้       2. ลวกเส้นบะหมี่เจในน้ำเดือด พอกึ่งสุกกึ่งดิบนำขึ้นมาจุ่มในน้ำเย็นสักครู่ จึงนำลงลวกในน้ำเดือดอีกรอบจนสุก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ ใส่ถ้วยสำหรับเสิร์ฟ       3. วางพุทราจีน กล้วยตาก ลูกพลับ อินทผาลัม ลูกเกด แปะก๊วยเชื่อม จากนั้นตักน้ำเชื่อมในข้อที่ 1 พร้อมเนื้อลำไยลงไป จัดเสิร์ฟทันที  หมายเหตุ       1. สามารถกินได้ทั้งร้อนและเย็น       2.

เผือกทอดเจ

รูปภาพ
  ช่วงกินเจเหมาะกับการหาขนมเจรองท้อง โดยเฉพาะของทอดนี่ห้ามพลาด ใครสนใจอยากทำเผือกทอดเจ เตรียมเผือกหั่นเส้นรอเลยค่ะ ทอดเสร็จร้อน ๆ กรอบอร่อย กินฟินทั้งครอบครัว ส่วนผสม เผือกทอดเจ      • แป้งข้าวเจ้า 1+1/4 ถ้วย      • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/4 ถ้วย      • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ      • เกลือป่น 1 ช้อนชา      • กะทิ 1 ถ้วย      • น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย      • เผือกขูดเป็นเส้น 2 ถ้วย      • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)      • น้ำจิ้มบ๊วย      • ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ ๆ วิธีทำเผือกทอดเจ       1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย และเกลือป่นเข้าด้วยกัน       2. เติมน้ำกะทิและน้ำปูนใสลงไปคนผสมให้เข้ากัน        3. จากนั้นใส่เผือกขูดลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน และแป้งเคลือบติดเผือกจนทั่ว เตรียมไว้       4. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟ พอน้ำมันร้อนจัดให้ตักเผือกเป็นก้อน ๆ ลงทอดจนเผือกลอยขึ้น และสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน       5. ผสมน้ำจิ้มบ๊วยกับถั่วลิสงคั่วบด เสิร์ฟพร้อมเผือก      + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่  เผือกทอดเจ อาหารว่างเจ กรอบนอกนุ่มใน +-+-+-+-+-+-+-+-+-+