สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  ใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมลองเอา สูตรยำปลาดุกฟู นี้ไปลองทำขายได้นะคะ เพราะเป็นเมนูที่คนไทยชอบทาน ถ้าเราทำอร่อยๆรับรองว่าขายดีแน่นอน จากรายได้เสริมอาจจะเปลี่ยนเป็นรายได้หลักให้เราได้เลย ส่วนผสมยำปลาดุกฟู 1.ปลาดุกย่าง 2.มะม่วงดิบ 3.หอมแดง 4.พริกสด 5.น้ำปลา 6.น้ำตาล 7.น้ำมะนาว 8.ถั่วลิสงทอด 9.ผักชี 10.น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำยำปลาดุกฟู 1.แกะเอาแต่เนื้อปลาดุกไปโขลกให้ละเอียด แล้วนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด ให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วจัดใส่จาน โรยหน้าด้วยถั่วลิสง และผักชี 2.เตรียมน้ำยำ ผสมน้ำตาลกับน้ำปลา คนให้น้ำตาลละลายหมด ใส่พริกซอย น้ำมะนาว หอมแดงซอย และมะม่วงดิบ คนส่วนผสมให้เข้ากันดี ตักใส่ถ้วยคู่กับจานปลาดุกฟู *ทอดปลาดุกฟู ต้องใช้น้ำมันเยอาะ และเป็นน้ำมันใหม่ น้ำมันต้องร้อนจัด ปลาถึงจะฟูและติดกันเป็นแพ ทอดในหม้อใบเล็กคะ จะได้ไม่เปลืองน้ำมัน ขอบคุณภาพและสูตรอาหารจากคุณ  Supaporn Kumnodnae

  ส่วนผสม 1.ซี่โครงหมูใบพาย 1กก.(หรือจะใช้เนื้อหมูก็ได้คะ) 2.กระเทียมโขลกหยาบๆ 2ชต. 3.เกลือป่น 1ชต. 4.ข้าวเหนียวนึ่ง 1/2ถ้วย วิธีทำแหนมซี่โครงหมู 1.ล้างทำความสะอาดหมู หั่นเป็นชิ้นเล็ก ผึ่งให้แห้ง 2.โขลกกระเทียม นำไปผสมกับข้าวเหนียว และเกลือ คนให้เข้ากัน หลังจากนั้น นำซี่โครงหมู มาเคล้าให้เข้ากัน นวดๆให้ส่วนผสมเข้าเนื้อ แล้วใส่ในขวดกดให้แน่นๆ ปิดฝาขวดให้สนิท(ลวกขวดโหลด้วยน้ำร้อน ผึ่งให้แห้งก่อนนำมาใส่) พอครบ 2วัน จะเริ่มมีน้ำออกมาและสีหมูจะซีดลง แสดงว่าเริ่มเปรี้ยวแล้ว นำมาทอด หรืออบ ทานกับข้าวเหนียวคะ ภาพและข้อมูลสูตรอาหารจากคุณ  Supaporn Kumnodnae

  เอาไปสร้างอาชีพได้! สูตรไม่ลับวิธีการทำไส้อ่อนย่างนุ่ม กับ น้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด อร่อยมากจนหยุดไม่อยู่ วันนี้เรามีเมนูมาเอาใจคนรักเครื่องใน นั้นคือ เมนูไส้อ่อนย่าง ถึงกับน้ำลายไหลกันไปเลยสำหรับคนรักเครื่องใน มาคะมาดูวิธีทำไส้อ่อนย่างนุ่มๆ ละมุนลิ้น ไส้ไม่มีกลิ่นคราว เหมาะกับการทำเป็นกับแก้มแสนอร่อยอีกเมนูหนึ่งกันเลย วัตถุดิบ 1.ไส้อ่อน 350 กรัม 2.รากผักชี 2-3 ราก 3.กระเทียม กลีบเล็ก 1 หัว 4.พริกไทยป่น 2 ช้อนชา 5.ซอสหอยนางรม 2 ช้อนชา 6.ซอสปรุงรส ฝาเขียว 2 ช้อนชา 7.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา 8.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 9.เกลือป่น 1 ช้อนชา 10.ตะไคร้ 1 ต้น หั่นแล้ว บุบให้แตก 11.ใบมะกรูด 2-3 ใบ 12.น้ำเปล่า ไว้สำหรับต้มไส้อ่อน (กะให้ท่วมไส้อ่อน เวลาต้ม) วิธีการทำ 1.นำรากผักชี กระเทียม พริกไทยป่นใส่ในครกและโขลกให้ละเอียด 2.นำไส้อ่อนมาล้างทำความสะอาด โดยขยำไส้อ่อนกับเกลือ แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด 2-3 ครั้ง เสร็จแล้วพักไว้ ทำขั้นตอนต่อไป 3.ต้มน้ำเปล่า ใส่ ตะไคร้ ใบมะกรูดและเกลือลงไป เพื่อดับคาว เมื่อน้ำเดือดพล่านจากนั้น นำไส้อ่อนที่เราตรียมไว้ลงไปต้มประมาณ 45 นาที 4.นำไส้อ่อนที่ต้มนิ่มตักขึ้นมาหั่นเป็นช่อๆ จากนั

  แจกไปเลยสูตร ก๋วยจั๊บญวนสูตรเครื่องแน่นๆ ทำง่ายๆ เอาไปสร้างอาชีพได้ ถ้าพูดถึงอาหารเช้าของใครหลายๆคน คงมีคนนึกถึงเมนูนี้แน่นอน นั้นก็คือเมนู “ก๋วยจั๊บญวน” หลายท่านอาจจินตนาการไปถึง อาหารคุ้นชินแถบภาคอีสาน (ก๋วยจั๊บอุบล) ซึ่งจริงๆแล้ว ชื่อที่เราเรียกก็เพราะว่าเมนูนี้ มีที่มาจากประเทศเวียดนามตามนั้นจริงๆ ค่ะ แต่เดิมสมัยก่อน มักจะทำขายในช่วงเช้า นิยมเรียกว่า “ข้าวเปียกเส้น” แต่ปัจจุบันนี้มีขายทั้งวัน รวมถึงมีขายแบบเส้นแห้งเป็นซองทางร้านออนไลน์ก็มีเห็นมากมาย แต่ถึงอย่างไรก็ขอยืนยันว่า ทำเองอร่อยถูกใจกว่าค่ะ และวันนี้เราเอาสูตรดั้งเดิมมาให้ถึงที่เลยทีเดียว เส้นก๋วยจั๊บญวน มีทั้งแบบสดและแบบแห้ง แบบเส้นสดจะอร่อย และหอมนุ่มมากกว่า เราไปดูวิธีการทำกันเลยค่ะ ส่วนผสม 1. เส้นข้าวเปียกแบบสด 1 ห่อ (จะตักได้ประมาณ 4-5 ถ้วย) 2. ซี่โครงหมู 3. หมูยอ 4. หอมเจียว 5. ต้นหอม 6. ผักชี 7. พริกป่น ใส่น้ำมันที่เจียวหอมด้วย 8. เกลือ 9. น้ำปลา วิธีทำ – ตั้งหม้อต้มน้ำ พอเดือดใส่เกลือ รากผักชี และซี่โครงหมูลง ต้มประมาณ 45 นาที เพื่อให้กระดูกหมูเปื่อย และน้ำซุปหวาน รสอร่อยกลมกล่อม – หลังจากนั้นใส่เส้นข้าวเปียกลงไป

  ปลาทูต้มเค็มที่ก้างเปื่อยนี้มีอยู่ในหนังสือชีวิตในวังอยู่แล้วเป็นตำรับของวังสวนสุนันทา แต่ในหนังสือไม่ได้บอกอะไรละเอียดมากนัก สูตรนี้เราต่อมาจากป้านิด บุตรสาวของคุณยายเนื่องมาอีกที่หนึ่ง มีเคล็ดลับมากมายกว่าในหนังสือ ฟังดูงายนะวิธีการทำอาหารแต่เวลาทำจริงๆแล้วไม่ง่ายเลย สูตรอาหารโบราณนั้นอร่อยมาก แต่ทำแล้วไม่อร่อย อยู่ที่ฝีมือคะ 1. ปลาทูสด ไม่มีใช้ปลารังก็ได้ จำนวนแล้วแต่สะดวก(หน้าหนาวนี้ปลาทูเนื้ออร่อยมาก) 2. มันหมูไม่มีใช้หมูสามชั้นติดมันเยอะ 3. น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลตะโหนด 4. มะขามเปียกใหม่ๆ 2 ปั้น 5. น้ำปลาอย่างดี ทิพรส คนแบกกุ้งดีที่สุด 6. ต้นอ้อยสักท่อนหรือ2ท่อนถ้าหาไม่ได้ใช้ชั้นอ้อยที่คนขายน้ำอ้อยคั้นเขาบีบน้ำอ้อยแล้วก็ได้ ใช้แก้ตัวปลาติดหม้อ เครื่องปรุงพิเศษ 1. ต้นหอมซอย 2. หอมแดงซอย 3. พริกชี้ฟ้าซอย 4. มะเขือเทศสีดา 5. ขิงอ่อนซอย 6. น้ำอ้อย 7. น้ำส้มซ่า วิธีทำ แสนอร่อย – ขยำมะขามเปียกด้วยน้ำปลาและน้ำตาลใส่น้ำนิดหน่อย แล้วชิมให้รสเท่ากัน หวานเค็ม เปรี้ยว แล้วกรองเอากากออก – ล้างท่อนอ้อยแล้วผ่าเป็ยซีกๆปูก้นหม้อกันปลาทูต้ดก้นหม้อ – ปลาทูตัดหัวออกแล้วควักไส้ออกล้างให้สะอาด วางเร

  สูตรการทำ “ไก่ต้มน้ำปลา “ลงทุน 60 บาท ย้ำสูตรนี้อร่อยจริง หัดทำจะได้ทำเป็นค่ะ ไก่ต้มน้ำปลาเจ้าเด็ด เอามากินเปล่าๆก็อร่อย กินกับข้าวก็อร่อยไม่แพงจัง หรือจะเอามาเป็นกับแกล้มก็สุดยอดไปเลย เมนูนี้เป็นเมนูที่ฮิตมากๆ บ้านไหนไหว้เจ้า ในวันนั้นจะต้องมีเมนูไก่ต้มน้ำปลาอย่างแน่นอน ใครที่ชอบกินไก่ต้มน้ําปลาสามารถเก็บสูตรมีไว้ทำได้เลย เป็นสูตรที่พ่อค้าแม่ค้าเงินล้านแบ่งสูตรมาให้กับคุณทุกคน วันนี้จะมาแจก 2 สูตรนะจ้ะ 1. สูตรไก่ต้มน้ำปลา เจ้าดัง รสเด็ด 2. สูตรไก่ทอดน้ำปลา 1. ไก่ต้มน้ำปลา วัตถุดิบ 1. น่องไก่ติดสะโพก 2 ชิ้นใหญ่ 2. กระเทียมทุบ 3 กลีบใหญ่ 3. รากผักชีทุบ 3 ต้น 4. น้ำปลา 2 ทัพพี 5. น้ำมันหอย 1 ทัพพี 6. ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำตาล 1 ทัพพี 8. น้ำเปล่า ใส่ท่วมไก่นิดหน่อย วิธีทำ “ไก่ต้มน้ำปลา” 1. ตั้งไฟต้มน้ำใส่กระเทียมทุบ รากผักชีทุบ น้ำมันหอย ซีอิ้วดำ น้ำปลา น้ำตาล คนเล็กน้อยแล้วใส่น่องไก่ ( ก่อนใส่ไก่ ขั้นตอนนี้ ลองชิมรสชาติที่เราชอบ ใส่เพิ่มได้ค่ะ) 2. ปิดฝาทิ้งไว้บนไฟ 15 นาที แล้วมาพลิกไก่กลับด้านเพื่อสุกเท่ากันและสีสวยเท่ากัน ทิ้งไว้อีก 15 นาที เป็นอันเสร็จ.. 3. ลองชิมดู ไม่ต้องข้มมาก

  เก็บเป็นเวลา 1 ปี จากที่ไม่เก็บ ก็มีได้ถึงครึ่งแสน หลายๆคนมักจะมีวิธีการออมเงินที่ต่างกันออกไป เพื่อเป็นแผนการสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตในวันข้างหน้า ในวันอนาคต เพราะในทุกๆวันนี้การมีเรี่ยวแรงทำงานหาเงินนับเป็นช่วงเวลาที่จะต้องคำนึงถึงช่วงเวลาในอนาคตที่เราไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง การมีเงินเก็บนี้ก็จะช่วยให้เราพ้นจากปัญหาต่างๆในอนาคตได้ สำหรับในวันนี้ได้มีทริคง่ายๆเพื่อให้ทุกคนได้ประโยชน์กัน จากคนที่ไม่มีเงินเก็บจะสามารถเก็บเงินก้อนโตได้ด้วยความตั้งใจและเป็นการสร้างวินัยให้กับตนเองได้มากขึ้น โดยเริ่มแรกจะเริ่มด้วยการเก็บเงินแบงค์ 50 ก่อน แบงค์ 50 ที่ได้จากเงินทอน จากเงินเดือนในทุกๆครั้งให้เราเก็บแยกไว้ สำหรับบางคนก็อาจจะไม่สามารถที่จะใช้วิธีนี้ได้เป็นต้องหยิบมาใช้ในทุกๆครั้ง เราจะได้มีวิธีการเก็บเงินแบบใหม่มาแนะนำกัน ให้กำหนดยอดเงินไว้ในแต่ละเดือนว่าจะต้องเก็บออมเท่าไหร่เป็นขั้นต่ำ โดยยกตัวอย่างเช่นจะกำหนดเอาไว้ที่เดือนละ 2,000 บาท หากเดือนไหนที่เก็บได้ไม่ถึงก็จะต้องหาเงินมาเติมให้ครบจำนวน 2,000 บาท แต่ค่าเงินเดือนไหนเงินเหลือก็ถือว่าเป็นกำ ไรที่จะทำให้เก็บได้มากขึ้น เมื่อเก็บในแต่ละเด