สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  ช่วงนี้ฝนตกอากาศดี​ มาทำขนมกินดีกว่า​ คิดอยากกินขนมเปียกปูนแบบสีดำ​ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนทำขาย อาจจะกลัวเรื่องสีดำที่ใช้มาจากการเผากาบมะพร้าว​ ซึ่งจริงๆแล้ว​การเผาให้เป็นสีดำ​ เป็นคาร์บอนที่ไม่ได้ก่อให้เกิดมะเร็ง​ เหมือนสารกลุ่มไนโตรซามีน​ ซึ่งเกิดจากการได้รับความร้อนจนไหม้ของพวกโปรตีน​ประเภทเนื้อสัตว์​ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง *วิธีทำ 1.นำกาบมะพร้าวไปเผา​ให้เป็นสีดำ​ แล้วแช่ในน้ำปูนใส​ให้เย็น​ โขลกให้ละเอียด​ นำไปคนใส่กับน้ำปูนใส​ 3 ถ้วย​ กร​องเอากากออกด้วยกระชอนถี่ๆ 2.ผสมแป้งข้าวเจ้า​ 1 ถ้วย​ ​และแป้งเท้ายายม่อม ​1 ชต.​นวดด้วยน้ำกะทิ ​1/3 ถ้วย​ นวดให้แป้งล่อนไม่ติดภาชนะ 3.ผสม​น้ำปูน​ใสที่เตรียมไว้​ ดอกเกลือ​ครึ่งช้อนชา​ น้ำตาลโตนด​ 1/3 ​ถ้วย​ คนส่วนผสมให้เข้ากัน​ กรองด้วยกระชอนถี่ๆอีกครั้ง​ 4.นำขึ้นตั้งเตากวนด้วยไฟกลางๆ​ พอแป้งเริ่มสุกลดไฟลง​กวนด้วยไฟอ่อนๆ​ จนแป้งสุก​มีลักษณะขึ้นเงา​ เทใส่ถาดพักไว้ให้เย็น . 5.ขูดมะพร้าวทึนทึกเป็นเส้นเล็ก​ โรยด้วยดอกเกลือนึ่ง​5นาที 6.ตัดขนมใส่จาน​โรยด้วยมะพร้าว *ขนมแบบดั้งเดิมจะต้องตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน​ คือมีด้านเท่ากันแต่มุ

  วันนี้มาแบ่งปันสูตรแกงเขียวหวานหมูเด้งค่ะ เป็นอาหารไทยประเภทแกง ทำเองง่ายๆ เครื่องแน่นๆ รสชาติอร่อยเข้มข้น กินกับข้าวสวยร้อนๆหรือขนมจีน ก็อร่อยเข้ากันสุดๆค่ะ เรามาดูขั้นตอนกันเลย *วัตถุดิบเครื่องปรุง แกงเขียวหวาน 1. หัวกะทิ 2. หางกะทิ 3. มะเขือเปราะ 4. มะเขือพวง 5. พริกชี้ฟ้า 6. น้ำปลา 7. ใบมะกรูด 8. น้ำตาลปี๊บ 9. โหระพา 10. น้ำพริกแกงเขียวหวาน 11. หมูเด้ง **เริ่มต้น วิธีทําแกงเขียวหวาน และขั้นตอนการทำแกงเขียวหวานให้อร่อย 1. นำหัวกะทิที่ซื้อมา ตั้งไฟให้แตกมัน หลังจากนั้นนำพริกแกงเขียวหวาน ใส่ลงไปผัดกับหัวกะทิ โดยใช้น้ำพริกแกงประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นค่อยๆ เติมหัวกะทิที่เหลือลงไปเรื่อยๆ ผัดให้น้ำพริกแกงเขียวหวานส่งกลิ่นหอม แล้วเติมหัวกะทิส่วนที่เหลือใส่ลงไปให้หมด ตั้งไฟให้เดือด 2. เมื่อหัวกะทิเดือดได้ที่แล้ว นำหมูเด้ง ที่เตรียมไว้ค่อยๆ ใส่ลงไปโดยใช้ช้อนตักให้เป็นก้อนกลมๆ ตั้งไฟให้เดือดประมาณ 5 นาที โดยสังเกตุหมูเด้ง ถ้าสุกแล้วจะลอยตัวขึ้นมา 3. เมื่อหมูสุกเรียบร้อยแล้ว น้ำกะทิเดือดแล้วให้ใส่หางกะทิส่วนที่เหลือลงไป หลังจากนั้นตั้งไฟให้ทุกอย่างเดือดอีกรอบ และเมื่อเดือดแล้ว ปรุงรสชาติ

  วันนี้มาชวนเพื่อนๆทำโรตีอร่อยๆทานกันค่ะ ทำเองได้ง่ายๆ กรอบอร่อย สะอาด ใส่ใส่ได้ตามต้องการ วัตถุดิบไม่ยุ่งยาก มาเริ่มทำกันเลย *วัตถุดิบ -น้ำสะอาด 135 g -แป้งเอนกประสงค์(ตราว่าว ) 300g -เนยละลาย 8g -นมข้น 40g -เกลือ 1/2ชช -ไข่ครึ่งฟอง -น้ำมันพืช **ขั้นตอน เริ่มจากผสมของเหลวก่อน . . . เต็มสูตรคือไข่ 1 ฟอง ครึ่งสูตรเลยใส่ครึ่งฟอง แบ่งไข่แบบขี้โกง 55 จริงๆเห็นเขาว่าต้องตีไข่แล้วชั่งหารครึ่งแต่ขี้เกียจเลยแบ่งแบบนี้เลย แล้วผสมให้เข้ากัน . ร่อนแป้ง 1 รอบ มาทำหลุมตรงกลางเทส่วนผสมของเหลวลงไปค่อยๆผสมให้เข้ากัน . ค่อยๆวนเเอาแป้งเข้าไปผสมกับแป้ง ถ้าพรวดพลาดแป้งจะเหลวได้ ได้ประมาณนี้ก็เอาไปนวด นวดไม่นานค่ะประมาณ 15 นาที่ ให้แป้งเนียน . แล้วแบ่งแบ่งให้ก้อนเท่าๆกัน ทาน้ำมัน ใส่ภาชนะแรป หรือ ปิดฝา เข้าตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เราทำตอนกลางคืน เช้ามาทอดทานได้เลย พอครบกำหนดเวลา เอาแป้งออกจากตู้เย็นให้คลายเย็นสักครู่ ก็นำแป้งมารีดให้บางๆ ใครตีแป้งแบบอาบังเป็นก็ทำเลยน้า เราทำไม่เป็นเลยอาศัยใช้ไม้คลึงเอาค่ะ ยิ่งบางยิ่งดีนะคะ วันนี้ทำไส้กล้วย ปกติคือต้องใส่กล้วยหลังเอาแผ่นโรตีลงทอด แต่กระทะเล็กเลยใส่กล้วย

  วันนี้มาชวนทำปลาหมึกต้มหวาน เมนูอาหารพื้นบ้านของทางภาคใต้ ด้วยรสชาติความเค็มกลมกล่อม กลิ่นหอม และสีสันสวยงามน่ารับประทาน เข้ากันกับความเหนียวนุ่มของปลาหมึกได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือข้าวต้มก็อร่อยไปอีกแบบ มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย . . *วัตถุดิบ -ปลาหมึก 6-8 ตัว -น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ -ผักชี 1 ต้น -กระเทียมไทย 20 กลีบ -พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา -ซีอิ้วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ -เกลือ 1/4 ช้อนชา -น้ำมันสำหรับผัด 1-2 ช้อนโต๊ะ **วิธีทำ  1.เอามีดผ่าขี้และตาปลาหมึกออกล้างให้สะอาดแล้วบั้งปลาหมึกเตรียมไว้รอ 2.ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทย(สามเกลอ)พักไว้รอเช่นกัน 3.ตั้งกระทะเปิดเตาใส่น้ำมันให้ร้อนจึงใส่สามเกลอลงไปผัดให้หอม 4.ใส่ปลาหมึกลงไปผัดให้สุกแล้วปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลปี๊บ และซีอิ้วขาว 5.ผัดต่อไปอีกสักพักจนน้ำที่ออกมาจากตัวปลาหมึกเริ่มงวดจึงปิดเตา 6.ตักปลาหมึกใส่จานโรยด้วยผักชีนิดหน่อยก็เป็นอันเสร็จพร้อมทานได้เลย ***รูปภาพขั้นตอนการทำคร่าวๆด้านล่างนี้จ้า*** วัตุดิบทั้งหมด เตรียมปลาหมึกโดยการเอามีดผ่าขี้และตาปลาหมึกออกล้างให้สะอาด แล้วบั้งปลาหมึกเตรียมไว้รอก่อน ตำรากผักชี กระเทีย