สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  แจกสูตร หมักไก่ย่างวิเชียรบุรี พร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด เอาไปสร้างอาชีพได้เลย จะทำกินเองภายในครอบครัว หรือจะทำเป็นอาชีพเสริม เพื่อหารายได้อีกทางหนึ่งก็ได้เช่นกัน ตามแต่สะดวกของแต่ละท่านกันเลย มาเริ่มกันเลยค่ะ สูตรหมักไก่ย่างวิเชียรบุรี 1.ไก่ 1 ตัวขนาดประมาณ 1 กิโลกรัม 2.ตะไคร้ 3 ต้น 3.กระเทียมไทย 20 กลีบ 4.รากผักชี 7 ราก 5.พริกไทยดำ  1 ช้อนโต๊ะ 6.ใบเตย 2 ใบ 7.ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ 8.ซีอิ้วขาว 1-1/2 ช้อนโต๊ะ 9.หอมแดง 4 หัว 10.นมสด 1/4 ถ้วย 11.เกลือ 1 ช้อนชา น้ำจิ้มไก่ย่างวิเชียรบุรี สูตรที่ 1 1.น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ 2.น้ำมะขามเปียกต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ 3.น้ำตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ 5.ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 6.พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ 7.ต้นหอมซอย 8.ผักชีฝรั่ง วิธีปรุง นำน้ำมะนาว น้ำตาลปิ๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา มาผสมจนเข้ากันดีแล้วชิมรสให้ได้รส เปรี้ยว หวาน เค็ม จากนั้นใส่ข้าวคั่ว พริกป่น คนให้เข้ากันแล้วโรยด้วยต้นหอมซอยผักชีฝรั่ง น้ำจิ้มไก่ย่างวิเชียรบุรี สูตรที่ 2 1.กระเทียม 5 กลีบ   2.พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด   3.น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยต้วง  4.กระเทียมดอง 2 หัว   5.เกลือ 1-2 ช้อนชา วิธีปรุง

  แจกสูตร ไก่ต้มน้ำปลา พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด อร่อยแซ่บ เรียกได้ว่าเป็นเมนูสุดโปรดของใครหลายๆคนเลยก็ได้สำหรับไก่ต้มน้ำปลาที่เสริฟความอร่อยคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด เป็นที่ถูกปากถูกใจตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่เลยทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่กำลังอยากได้สูตรเด็ดๆวันนี้เรามีสูตร ไก่ต้มน้ำปลา พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดมาฝากกันค่ะ สิ่งที่ต้องเตรียม - กระเทียบ 3 กลีบใหญ่ -น้ำปลา 2 ทัพพี -น่องไก่ติดสะโพก 2 ชิ้น -น้ำมันหอย 1 ทัพพี -น้ำตาล 1 ทัพพี -รากผักชี 3 ต้น -ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ -น้ำเปล่า วิธีทำ 1.ตั้งไฟต้มน้ำ ปริมาณน้ำให้น้ำท่วมตัวไก่ 2.ทุบรากผักชีและกระเทียมใส่ลงไปต้ม จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำปลา ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ลงไปชิมรสที่ถูกใจ 3.ใส่ไก่ตามลงไปล้วปิดฝาต้มทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นกลับด้สนไก่เพื่อให้สุกทั่วถึงกัน และทิ้งไว้อีก 15 นาที แค่่นี้ก็นำขึ้นและใส่จานได้เลยค่ะ ต่อไปไปทำน้ำจิ้มกัน สิ่งที่ต้องเตรียม (น้ำจิ้ม) -น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา -พริกขี้หนู แล้วแต่คนทานเผ็ด-ไม่เผ็ด -น้ำปลา 1-2 ช้อนชา -น้ำมะนาว -กระเทียม 5-6 กลีบ นำรากผักชี พริก กระเทียม โขลกให้ละเอียด และเต็มเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ ตักน้ำต้มไก่เติมลงไปจาก

  สูตรข้าวคลุกกะปิ เครื่องเน้น กลิ่นหอมแรง ถ้าพูดถึงเมนูข้าวคลุกกะปิ หลายคนนึกถึงเครื่องเคราที่มาพร้อมหมูหวาน แม้จะมีขายทั่วไปแต่สำหรับคนชอบเข้าครัวถ้าทำเองกินเยอะแค่ไหนก็ได้ วันนี้ขอนำเสนอวิธีทำข้าวคลุกกะปิ 2 สูตรเด็ด ข้าวผัดกะปิกลิ่นหอมแรงมาพร้อมกับเครื่องตูม ๆ พ่วงด้วยสูตรหมูหวานที่รสออกเค็มหวาน อย่ารอช้า ไปหาอุปกรณ์มาทำพร้อมกันเลย สูตรที่ 1 วัตถุดิบ 1. ข้าวสวย 1 ถ้วย 2. กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 4. กะปิเผา 1 ช้อนโต๊ะ 5. ปลาดุกฟูแกะเป็นชิ้นเล็กๆ 1/2 ถ้วยตวง (หรือจะไม่ใส่ก็ได้) 6. กุ้งแห้งป่นหรือโขลกละเอียด 1/2 ถ้วยตวง(ใช้สำหรับคลุกกับข้าวหรือจะไม่ใส่ก็ได้) และกุ้งแห้งสำหรับทานเป็นเครื่องเคียง 7. ไข่ไก่ 1 ฟอง เพื่อทำไข่เจียวม้วนหั่นฝอย 8. มะม่วงซอย หอมแดงซอย 4-5 หัว 9. พริกเหลืองหรือพริกแดงหั่นฝอย 2-3 เม็ด 10. ผักชี 1 ต้น 11. แตงกวา 1 ลูก 12 ถั่วฝักยาวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 13. มะนาว 1 ลูก 14. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 15 น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ขั้นตอนในการทำข้าวคลุกกะปิ นำกระทะใส่น้ำมันขึ้นตั้งไฟ พอน้ำมันร้อนให้ใส่กระเทียมเจียวพอเหลือง แล้วใส่กะปิผัดพอมีกลิ่น

  แจกสูตร ''น้ำพริกกากหมู'' กรุบกรอบ หอมเครื่องเน้นๆ ทำกินแสนง่าย ทำขายก็รวย และในวันนี้เราก็จะพาทุกคนนั้นมาลองทำเมนูอร่อยๆไว้กินกันเองที่บ้านซึ่งมีวันหยุดนี้รับรองว่าจะมีอะไรทานอร่อยๆกันอย่างแน่นอนใครได้ลองทานแล้วก็ติดใจกันซึ่งเมนูที่เราจะทำกันนั้นก็คือการทำน้ำพริกกากหมูซึ่งสามารถเก็บไว้กินได้นานอีกทั้งกินกี่ครั้งก็ยังฟินอีกด้วย ได้สูตรนี้ได้มาจากสมาชิกเว็บไซต์ รายหนึ่งที่มีชื่อไอดีว่า แม่มณี memeinaka ได้สูตรนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเรามาดูกันได้เลย วัตถุดิบ -กากหมู -พริกแห้ง -กระเทียมซอย -หอมแดงซอย -น้ำตาลทราย -เกลือป่น ขั้นตอนการทำ ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากการนำกากหมูที่ได้มามาเชียวใหม่ครั้งเพื่อความกรอบมากยิ่งขึ้นจากนั้นก็ทิ้งไว้ให้เย็นลง ขั้นตอนที่ 2 ทอดพริกกระเทียมและหอมแดงให้เรียบร้อย ขั้นตอนที่ 3 จากนั้นก็เอากากหมูที่เย็นลงมาตำให้ละเอียด ตามด้วยกระเทียมพริกหอมแดงที่ทอดเอาไว้ไม่ต้องละเอียดมากนัก ขั้นตอนที่ 4 จากนั้นก็ใส่เกลือน้ำตาลลงไปคลุกเคล้าตามรสชาติของตัวเองให้ได้รสชาติที่ถูกใจ เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำพริกกากหมูไว้รับประทานกันแล้วล่ะค่ะเพิ่งบอกเลยว่าน่ารับประทานเป็นอ

  แจกสูตรบัวลอยแก้วมะพร้าวอ่อนดอกอัญชัน เมนูกะทิแสนอร่อยประโยชน์เยอะมาก บัวลอยแก้ว เป็นขนมหวานที่ประยุกต์จากบัวลอยปกติโดยมีลักษณะใสกว่าน่ารับประทาน เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม ตัวแป้งด้านในมีลักษณะกรุบๆ รับประทานกับน้ำกะทิ อาจเติมเครื่องต่างๆเช่น เนื้อมะพร้าวอ่อน เผือก ข้าวโพด หรือไข่หวาน ได้ตามชอบ วิธีทำบัวลอยแก้ว ขนมไทย เมนูกะทิ เม็ดบัวลอยแก้วที่เหนึยวนุ่ม กรอบ น้ำกะทิเข้มข้นไม่หวานจัดเกินไป ทานรวมกับเครื่องเคียงต่างๆ อย่าง เผือก มะพร้าวอ่อน ข้าวโพด และ สาคูเม็ดใหญ่ เคล็ดลับการทำบัวลอยแก้วทำอย่างไรไปดูกันเลย... ส่วนผสม 1.น้ำจากดอกอัญชัน 1 ถ้วยตวง 2.แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วยตวง 3.แป้งมันหรือแป้งท้าว 8 ช้อนโต๊ะ(สำหรับตอนทำส่วนหวานค่ะ) 4.น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง 5.เกลือป่น 1  ช้อนชา 6.กะทิ  2 ถ้วยตวง 7.เนื้อมะพร้าวอ่อน 8.น้ำมะนาว นิดหน่อย 9.น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วยตวง (จะใช้ดอกมะลิ หรือกลิ่นมะลิขวดก็ได้) วิธีทำ 1.นำดอกอัญชันล้างให้สะอาดนำมาตำให้ละเอียดแล้วนำไปกรองบีบมะนาวใส่นิดหน่อยสีจะม่วงขึ้นค่ะ จากนั้นนำไปต้มให้เดือดจัดแล้วนำมาเทใส่แป้งมันที่เราเตรียมไว้ รีบใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน แล้วใช้มือนวด 2.นำแป้

  สูตรบัวลอยเบญจรงค์มะพร้าวอ่อน-ไข่นกกระทาหวาน วิธีทำอย่างละเอียด วัตถุดิบทั้งหมด 1.แป้งข้าวเหนียว 2.แป้งมัน 3.หัวกะทิ 4.น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย 5.ไข่นกกระทา 6.มะพร้าวอ่อน 7.เกลือป่น 8.ใบเตย แครอท ฟักทอง น้ำหวานสีแดง วิธีทำแป้งแต่ละสี แป้งสีส้ม ได้จากแครอท 1.หั่นแครอทเป็นลูกเต๋าเล็ก ต้มในน้ำเดือดจนนิ่ม นำออกมาพักให้สะเด็ดน้ำ 2.ยีหรือบี้แครอทในกระชอยถี่ ให้เนื้อทะลุออกมา ตักเอาเฉพาะเนื้อแครอทที่ทุลุออกมาจากกระชอน 3.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน) 4.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง นวดพอติดเป็นก้อนนิด ๆ แล้วนำเนื้อแครอทมาผสม กะให้ผสมแล้วแป้งเหนียวพอดี นวดจนแป้งเหนียว พักไว้ แป้งสีเหลือง ได้จากฟักทอง 1.ปอกเปลือกฟักทอง หั่นฟักทองเป็นลูกเต๋าเล็ก ต้มในน้ำเดือดจนนิ่ม นำออกมาพักให้สะเด็ดน้ำ 2.ยีหรือบี้ฟักทองในกระชอยถี่ ให้เนื้อทะลุออกมา ตักเอาเฉพาะเนื้อฟักทองที่ทุลุออกมาจากกระชอน 3.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน) 4.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง นวดพอติดเป็นก้อนนิด ๆ แล้วนำเนื้อฟักทองมาผสม กะให้ผสมแล้วแป้งเหนียวพอดี นวดจนแป้งเหนียว พักไว้ แป้งสีเขียว ได้จากใบเตย 1.หันใบเตย 4-5 ใบพอหยาบ ๆ นำ