แจกสูตรบัวลอยแก้วมะพร้าวอ่อนดอกอัญชัน เมนูกะทิแสนอร่อยประโยชน์เยอะมาก

 

แจกสูตรบัวลอยแก้วมะพร้าวอ่อนดอกอัญชัน เมนูกะทิแสนอร่อยประโยชน์เยอะมาก

บัวลอยแก้ว เป็นขนมหวานที่ประยุกต์จากบัวลอยปกติโดยมีลักษณะใสกว่าน่ารับประทาน เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม ตัวแป้งด้านในมีลักษณะกรุบๆ รับประทานกับน้ำกะทิ อาจเติมเครื่องต่างๆเช่น เนื้อมะพร้าวอ่อน เผือก ข้าวโพด หรือไข่หวาน ได้ตามชอบ


วิธีทำบัวลอยแก้ว ขนมไทย เมนูกะทิ เม็ดบัวลอยแก้วที่เหนึยวนุ่ม กรอบ น้ำกะทิเข้มข้นไม่หวานจัดเกินไป ทานรวมกับเครื่องเคียงต่างๆ อย่าง เผือก มะพร้าวอ่อน ข้าวโพด และ สาคูเม็ดใหญ่ เคล็ดลับการทำบัวลอยแก้วทำอย่างไรไปดูกันเลย...

ส่วนผสม

1.น้ำจากดอกอัญชัน 1 ถ้วยตวง
2.แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วยตวง
3.แป้งมันหรือแป้งท้าว 8 ช้อนโต๊ะ(สำหรับตอนทำส่วนหวานค่ะ)
4.น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
5.เกลือป่น 1  ช้อนชา
6.กะทิ  2 ถ้วยตวง
7.เนื้อมะพร้าวอ่อน
8.น้ำมะนาว นิดหน่อย
9.น้ำลอยดอกมะลิ 4 ถ้วยตวง (จะใช้ดอกมะลิ หรือกลิ่นมะลิขวดก็ได้)

วิธีทำ

1.นำดอกอัญชันล้างให้สะอาดนำมาตำให้ละเอียดแล้วนำไปกรองบีบมะนาวใส่นิดหน่อยสีจะม่วงขึ้นค่ะ จากนั้นนำไปต้มให้เดือดจัดแล้วนำมาเทใส่แป้งมันที่เราเตรียมไว้ รีบใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน แล้วใช้มือนวด

2.นำแป้งที่ได้ไปปั้นยาวๆแล้วเอามีดหั่นเล็กๆ จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือด พอแป้งลอยขึ้นคือสุก ตักออกมาพักไว้ในน้ำเปล่า

3.ส่วนหวาน นำแป้งมันหรือแป้งท้าวมาผสมกะน้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ (หรือกลิ่นมะลิ)คนให้ละลาย แล้วนำไปตั้งไฟ ให้แป้งสุก พอแป้งสุกน้ำมันจะใสๆ จากนั้นนำแป้งที่เราต้มพักไว้ มาใส่ รอให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ

4.ส่วนกะทิ นำกะทิ เกลือป่น ตั้งไฟอ่อนๆ ไม่ต้องรอเดือดนะคะ พอให้อุ่นๆร้อนๆพอ นานเด๋วกะทิจะแตกมัน

เคล็ดลับการทำบัวลอยแก้ว

-กะทิ ต้องเลือกใช้มะพร้าวขูดสดๆ คั้นกะทิสดๆ การคั้นหัวกะทิ จะต้องไม่ผสมน้ำเลย จะได้กะทิที่มีความมันและหอม

-การต้มบัวลอย ให้ใช้น้ำเชื่อมต้ม จะได้เนื้อบัวลอยที่มีความหวานแทรก และ เนื้อเด้ง เหนียว

-สาคูเม็ดใหญ่ ต้องทำตามขั้นตอนที่แจ้ง คือ ต้มก่อน จากนั้นแช่ทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนที่จะต้มอีกครั้ง จึงจะได้สาคูที่นุ่มหนึบ

-การหั่น เผือก และ ฟักทอง ไม่หั่นให้เล็กเกินไป เนื่องจาก เวลานึ่งอาจทำให้ เผือก และ ฟักทอง เละ ไม่น่ารับประทาน

-น้ำตาล สำหรับขนมหวาน ให้เลือกใช้น้ำตาลป๊ีบ โดยเทคนิคการทำ ให้ค่อยๆ ใส่น้ำตาล จนได้ความหวานที่พอดี หากใส่มากเกินไป และใส่ทีเดียวเลย หากหวานเกินไปจะแก้ไขยาก

-อย่าต้มกะทินานเกินไปจะทำให้แตกมันและไม่อร่อย

-อย่าต้มแป้งนานเกินไป เพราะจะทำให้เหนียวละลายติดหม้อ ถ้าเอาต้มในน้ำเดือดแล้วลอยฟูขึ้นมาถือว่าเป็นอันใช้ได้ ให้ตักออกน็อคน้ำเย็นเลย

-ถ้าต้องการทำบัวลอยจากผลไม้ชนิดอื่นให้ต้มแล้วยีเนื้อให้ละเอียด นำมาผสมกับแป้งแล้วปั้นให้เป็นก้อน

-ถ้าต้องการความแปลกใหม่ ให้เปลี่ยนจากก้อนกลมเป็นปั้นแบบลูกเต๋า เพราะหลังต้มแล้วความใสของแป้งจะให้ความเงา เหมือนอัญมณี

-ถ้าต้องการบัวลอยเบญจรงค์ 5 สี ให้ใช้สีจากธรรมชาติแบ่งผสมเข้าไป ได้แก่ สีเขียวจากใบเตย สีเหลืองจากขมิ้นหรือมัน สีแดงจากแก้วมังกร สีม่วงจากดอกอัญชัน สีชมพูจากแก้วมังกรเจือจาง สีน้ำเงินจากอัญชัน

-ถ้าต้องการทำบัวลอยไข่หวาน ให้ตอกไข่ใส่ลงไปในน้ำกะทิ ถ้าต้องการทำบัวลอยไข่เค็มให้ใช้ไข่เค็มดองสำเร็จรูปจะสะดวก

-ความหอมหวานของน้ำกะทิควรเติมน้ำมะพร้าวอ่อนลงไปแทนน้ำเปล่า

-สูตรพิเศษในการทำบัวลอยให้หอมหวาน เวลาเติมน้ำกะทิให้ใส่มะลิลงไป 1 หยิบมือ เพื่อให้มีกลิ่นหอมจางๆ แล้วค่อยกรองออก


อ้างอิงสูตรจาก คุณ tuEn

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สูตรเด็ดขนมจีบหมู จีบกุ้ง จีบปู เก็บไว้ทำขายหรือทำกินกับครอบครัว อร่อยสุดๆ

ให้ไหว้ก่อนในช่วงสิ้นปีนี่ ทำแล้วจะเจริญกันทุกคน

ปลอดภัยชัวร์ "ลูกชิ้นหมูเด้ง" ปันสูตรทำเองไม่ต้องง้อร้าน

17 ประโยชน์จาก "เบียร์" แม้แต่ฟองขาวๆ ก็มีดีกว่าที่คุณคิด!!

เก็บไว้ทำกิน 2สูตรทอดน้ำปลาแสนอร่อย หอมน้ำปลา แถมไม่มีน้ำมัน

แจกสูตรอาหาร “แกงไตปลาน้ำข้น” พร้อมวิธีทำแกงไตปลายังไง ให้หอมถึงเครื่องแกง

แจกสูตร “ทอดไข่ดาว” ยังไงให้ให้สวยน่ากิน เสิร์ฟคู่พริกน้ำปลา

แบ่งปันสูตร ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ

สูตรห่อหมกปลากราย อร่อยกว่าร้านดัง

แจกฟรี 5 สูตรน้ำจิ้มรสเด็ด กินกับอะไรก็อร่อย ทำกินเองได้ง่ายๆ ทำขายรวย