สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าคนฉลาดมักจะเป็นคนที่ต้องเรียนหนังสือเก่ง รอบรู้สาระต่างๆ ได้ดีในหน้าที่การงาน แต่แท้จริงแล้วหารู้ไม่ว่า ความฉลาดทางตรรกะ ส ม อ ง หรือ IQ เป็นเพียงแค่ส่วนนึงเท่านั้น ซึ่งยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าที่เรียกว่า ความฉลาดทางอามรณ์หรือ EQ นี่แหละจะเด่นชัด และมีน้ำหนักว่า IQ อย่างที่คุณเคยสังเกตุเห็น คนเก่งมักเพื่อนน้อย เพราะเขามีอัตตาสูง และขณะเดียวกัน คนที่ไม่ฉลาดมาก แต่อามรณ์ดี สายสัมพันธ์ฉันมิตรดี มักจะมีความสุขและประสบความสำเร็จ วันนี้เรามาดู ว่าลักษณะเด่นแท้จริงของคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์นั้นเป็นยังไง ลองมาดูกันมั้ยว่าเธอเป็นแบบพวกเขากี่ข้อ 1. ไม่เดินซ้ำทางของใคร  คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ ก็มักจะทำตามเข็มทิศชีวิตของตน ต่อให้มีอีกกี่ร้อยกี่พันมาโน้มน้าวใจ พวกเขาจะเลือกสิ่งที่เป็นตัวเขาจริงๆ พวกเขาจะไม่ยอมเปลี่ยนไป เพราะพวกเขาเชื่อว่าคนเรา ต่างคนก็ต่างมีคุณค่าในตัวเอง แค่ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่ อย่าเอนไหวไปตามความรู้สึกของใครก็พอ 2. ไม่พย าย ามทำให้คนอื่นมาชอบเขา  คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ จะรู้ตัวเองดีว่าเป็นคนยังไง และตระหนักได้เสมอว่ามีคนรักก็ต้องมีคน เ ก ลี ย ด ฉะนั

  คำพูดของคนเรา มันสามารถสร้างนิสัย และ จิตสำนึกของคนๆนั้นได้ พูดดีสิ่งดีๆก็จะตามมา แต่เมื่อเราพูดไม่ดี สิ่งไม่ดีก็จะตามาเหมือนกัน 5 คำพูด ที่ไม่ควรพูด ยิ่งพูดชีวิตยิ่งตกต่ำ 1. คำว่า ย าก เมื่อเราพูดคำว่า ย าก ออกมาจากปาก มันก็คือการทำให้สิ่งนั้นเป็นไปได้ย ากกว่าเดิม และลดความสามารถของเราลงไปด้วย 2. คำว่า เหนื่อย พูดคำนี้ออกมา ร่างกายก็จะตอบสน อ ง ต่อคำพูดของเรา จากที่มีแร งกลับอ่อนแร งลงไปเลย และยิ่งรู้สึกว่ามันหนักขึ้นเป็น 2 เท่า 3. คำว่า ขิ้เกียจ พูดขิ้เกียจบ่อยๆ จะเป็นการสะกดจิตให้ตัวเราเริ่มไม่อย ากทำอะไรจริงๆ จะเริ่มรู้สึกไม่มีเรี่ยวแร งที่จะลุกขึ้นมาทำอะไร มีแต่จะอยู่เฉยๆ ซะมากกว่า 4. คำว่า ทำไม่ได้ ไม่ควรพูดว่า เราทำไม่ได้ เพราะจะเป็นเหมือนการปิดกั้นตัวเอง ปิดกั้นการเรียนรู้สิ่งใหม่ และคำพูดนั้นมีส่วนสำคัญคือจะกล่อมให้เราไม่สามารถทำได้จริงๆ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง สุดท้ายกลายเป็นคนที่ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง 5. คำว่า ท้อ เมื่อใดที่เปล่งคำนี้ออกมา พลังกายและพลังใจจะ ถ ด ถ อ ย ลงไปเลย เหมือนเราสร้างกำแพงสูงๆ ขึ้นมาในใจของตน ที่มองขึ้นไปก็ไม่เห็นแม้แต่ปลายกำแพง มันทำให้รู้สึกท้อจริ

  แน่นอนล่ะ เมื่อพูดถึงเรื่องความโสด หลายคนต้องกลั วว่าเมื่อโสดแล้วชีวิตต้องน่าเบื่ อแน่ๆ ตัวคนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว ลำบากแ ย่ ซึ่งมันก็ไม่ได้แ ย่ ขนาดนั้น เพราะข้อดีของคนโสดก็มีเหมือนกันนะ อาจจะจนคนมีคู่ยังต้องอิจฉ าเลยล่ะ 1. สามารถทำอะไรคนเดียวได้ ข้อดีอีกอย่างของการโสด คือเราสามารถทำอะไรคนเดียวได้ ไม่ต้องรอใคร อย ากไปไหนก็ไป และการทำอะไรคนเดียวยังเป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองมากขึ้นด้วยค่ะ การทำอะไรคนเดียวได้อย่างนี้ สบายใจที่สุดเลยล่ะ 2.มีเวลาอยู่กับเพื่อนเยอะขึ้น จะทำอะไรก็ได้ ไปเที่ยวกับเพื่อนบ่อยๆก็ได้ นานๆจะได้เจอกันที บางทีเป็นปีๆ แทบไม่ได้เจอเพื่อนเลย เห็นเพื่อนแค่ในโซเชียล แต่ถ้าเราโสด จะไปไหน เมื่อไหร่ก้ได้จ้า ไม่ต้องรอขอใคร ไม่ต้องเกรงใจใคร อย ากเจอเพื่อนเมื่อไหร่ก็ได้ 3.เก็บเงินได้เยอะขึ้น การที่มีแฟนเวลาจะทำไรก็ กินอะไร ไปที่ไหน ก็ต้องหาร 2 หรือไม่ก็ออกเองเต็มๆ แต่ถ้าคนโสดอย่างเรา สบายจ้าเรื่องนี้ ไปไหนก็จ่ ายแค่ส่วนของเราคนเดียว ไม่ต้องจ่ายให้ใคร ดังนั้นเราจะมีเงินเก็บมากขึ้น คนโสดส่วนใหญ่ไม่กลับบ้าน ก็นานๆ จะออกไปเที่ยวกับเพื่อน เริ่ดที่สุด 4.มีเวลาให้ตัวเองและคร

  ข้อคิดดีๆ จากท่าน ว.วชิรเมธี ได้กล่าวไว้  4 อย่ างนี้แหละ ไม่ยอมปรับปรุงตัวจนชีวิต พั ง ในที่สุด 1. อย่าเสี ยเวลากับความหลังที่ผ่านมา การย้ำคิดย้ำทำ ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น ทุกสิ่งอย่ างที่เคยเป็นของตัวเอง พอวันหนึ่งที่ต้องเสี ยไปก็ทำใจไม่ได้ ทำให้ยึดติดอยู่กับอดีตที่แล้วมา เหมือนคนที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกก้อนหินต่างๆ ที่พบเจอระหว่างทางขึ้นไปด้วย แบกขึ้นไปมากก็ยิ่งหนักมาก หากปล่อยวางไม่เป็น คิดแต่ว่าอะไรก็เป็นของๆ เราก็ยิ่งทุ กข์เรื่อยๆ 2. อย่ามัวแต่คิดริษย าคนอื่น “แข่งกันดี ไม่ได้ดีสักคน แบ่งกันดีได้ดีทุกคน”คนที่ริษย าคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ถ้าเขาสุข เราจะทุ กข์ ดังนั้น ต้องรู้จักถอดถอนความริษย าออกจากใจไปบ้าง เพราะ ความริษย าเป็น “ไ ฟ สุ ม ใจ” เราอิจฉ าใครสักคน เราก็มีทุ กข์ เมื่อยิ่งเห็นใครได้ดี ก็ยิ่งอิจฉ าริษย าเยอะ ก็เสมือนแบกทุ กข์ไว้ในใจมากขึ้นเรื่อยๆ 3. อย่าจ้องจับผิ ด ผู้ที่คอยจับผิ ด คนอื่นตลอดเวลา แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าใคร ไม่เห็นข้อ บ ก พ ร่ อ ง ของตัวเอง ” กิเล ส ฟูท่วมหัว ยังไม่รู้ตัวอีก “คนที่ชอบจับผิ ด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาสได้คิดดีทำดีเลย เพราะว่า มองโลกในแง่

  เพราะว่า ความรู้สึกก็เป็นเพียง อารมณ์ชั่ ววูบ เรามักปล่อยให้อารมณ์ในด้านลบ เพียงชั่ วคราว เข้ามาครอบงำตัวเองอยู่เสมอ และหลายครั้งแล้ว ที่อารมณ์ทั้งหมดทั้งมวลนั้น ได้ย้อนกลับมา ทำ ร้ า ย ความรู้สึกของตน และคนรอบข้าง เพียงเพราะการไม่รู้จัก ควบคุมอารมณ์ ของตัวเองให้ดีพอ เตือนตัวเองไว้อยู่เสมอว่า อารมณ์โก ร ธ ก็เป็นแค่เพียงอารมณ์ชั่ ววูบ ที่เกิดขึ้นมาชั่ วคราว จงอย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี ยหายจะดีกว่า เลี่ ยงการทำให้สถานการณ์ย่ำแ ย่ลงดีกว่า จงทำใจให้เย็นมากขึ้นโดยใช้ความนิ่งเงียบที่มี เข้าสยบ ต่อเหตุการณ์ ที่กำลังเผชิญ และเลี่ ยงการพูดคุยหรือ ป ะ ท ะ คารมกับผู้อื่นๆ ถ้ากลั วว่าจะเผลอพูดอะไรที่รุนแ ร ง ออกไป เรารอให้ใจเย็นขึ้นมากกว่านี้ก่อน แล้วถึงจะเริ่มคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ใช้เหตุผลที่ดีในการพูดคุย สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเอง การมีภาพลักษณ์ที่ดีนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็น ในการใช้ชีวิตของทุกๆ สังคม โดยเฉพาะในสังคมคนวัยทำงาน ที่มักจะต้องพบเจอกับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ รวมถึงผู้คนมากหน้าหลายตา อาจเป็นสาเหตุสำคัญ ของความ ขั ด แ ย้ ง และความใจร้อนที่อาจเกิดขึ้น หากสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเอง รวมไปถึง

  เป็นปกติของผู้ชายเมื่อเห็นผู้หญิงสวยแล้วอย ากทำความรู้จัก แต่ถึงผู้ชายจะเป็นพวกเจ้ า ชู้ ชอบมองสาวๆ เวลาเดินผ่าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอย ากจะคบกับผู้หญิงคนนั้นหอรกนะ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายรักและเกรงภรรย าได้นั้น คือ“นิสัย” เพราะมีส่วนในความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรย า ว่าจะรักกันยืดย าวมั้ย 1. ผู้ชายจะชอบ ผู้หญิงที่เก่ง ผู้ชายมีนิสัยเหมือนกันคือ ไม่ชอบมีภาระ ผู้หญิงเก่งจะทำให้เขารู้สึกว่าเธอช่วยอะไรเขาได้จริงๆ เก่งตั้งแต่ความสามารถส่วนตัว งานบ้าน งานเรือน งานนอกบ้าน งานอดิเรก พวกเขาจะหาใครที่เป็นแบบเธอไม่เจออีกแล้ว แต่ก็ต้องไม่เก่งเกินไปด้วยนะ ซึ่งการทำงานเก่งหรือเข้มแข็งเกินหน้าเกินตาสามีแบบที่ไม่ต้องพึ่งพาเขา เช่นนี้ดูเหมือนจะดี แต่เชื่อไหมล่ะว่าทำให้รักล่มกันมานักต่อนัก เพราะโดยนิสัยผู้ชายแล้ว แม้จะชอบให้ผู้หญิงของตัวเองเป็นผู้หญิงเก่งสักแค่ไหน แต่คุณสาวๆ ก็ต้องมีช่วงอ่อนแอเพื่อให้เขารู้สึกว่าต้องพึ่งพาได้ด้วยนะ 2. ใช้ความนิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว ผู้ชายหนึ่งใน 90 % พูดเป็นเสี ยงเดียวกันเลยว่า ความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรย าหลังแต่งงานกัน สิ่งที่เหนี่ยวรั้งให้คนสองคนอยู่ด้วยกัน

  สวัสดีค่ะ วันนี้มานำเสนอเมนู แกงมะระซี่โครงหมูอ่อน กระดูกหมูกรุบๆ มะระขมนิดๆ อร่อยเข้มข้น ตักข้าวสวยร้อนๆมารอทานกันค่ะ *ส่วนผสม มะระหั่นแว่น ซี่โครงหมูอ่อน พริกแกงเผ็ด กะทิ ใบมะกรูด พริกจินดาแดง น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา น้ำเปล่า **วิธีทำ 1.ผัดพริกแกงกับน้ำกะทิบางส่วนจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน . 2.ใส่ซี่โครงหมูลงผัดพอสุก เติมกะทิที่เหลือลงไป และเติมน้ำเปล่าพอท่วม . . 3.เคี่ยวซี่โครงหมูประมาณ 30 นาที เพื่อให้เปื่อยนุ่ม 4.ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว และน้ำปลา ชิมรสตามชอบ . 5.ใส่ใบมะกรูดฉีก พริกจินดาแดง และมะระลงไป . 6.พอมะระสุก ใส่ใบโหระพาโรยหน้า 7.ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟความอร่อย   ขอขอบคุณข้อมูลจาก  สมาชิกหมายเลข 1333363  สมาชิกเว็บพันทิป

  วันนี้มีวิธีการทำขนมเปี๊ยะเล็กมาแบ่งปันค่ะ สูตรแป้งนุ่มและบางค่ะ ใครชอบทานขนมเปี๊ยะแบบลูกเล็กๆ ต้องสูตรนี้เลยค่ะ หอมควันเทียนแบบไทยๆมากแป้งจะไม่หนานะคะ และจะนุ่มมาก รสชาติแสนอร่อย หวานมัน ใส่ไข่แดงเค็มด้วยค่ะ *ส่วนผสม ส่วนผสมใส้ถั่วไข่เค็ม ถั่วเขียวเลาะเปลือกแล้ว 325 กรัม (1 ถุงค่ะ) ไข่แดงเค็ม 9 ลูก ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำตาลทราย 300 กรัม กะทิ 1 ถ้วย เกลือ 1 ชช. ส่วนผสมแป้งชั้นใน แป้งเค็ก 400 กรัม น้ำมันพืช 1 ถ้วย น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย น้ำตาลทราย 100 กรัม หมายเหตุ  ในภาพจะเห็นแป้งสองชนิดนะคะ ทีแรกจะใช้สองชนิดทำเป็นเปี๊ยะกุหลาบสวย ๆ แต่เปลี่ยนใจ อยากทำเป็นแป้งเค็กอย่างเดียวดูซิว่าจะนุ่มออกมาเป็นอย่างไร เลยเอามาให้ดู 2 ชนิด ถ้าทำอีกเมื่อไหร่ จะทำแบบเปี๊ยะกุหลาบให้ดูกันค่ะทำไม่ยากคล้ายกัน ส่วนผสมแป้งชั้นนอก แป้งเค็ก 200 กรัม น้ำมันพิช 1/2 ถ้วย **ขั้นตอน เริ่มจากทำไส้ถั่วกันก่อนนะคะ นำถั่วเขียวเลาะเปลือก หรือ ถั่วทองนี่แหละค่ะ มาแช่น้ำไว้ข้าม คืน ให้เขาพองตัว แล้วเอามานึ่งให้สุกนะคะ นึ่งสุกแล้วก็เอามาใส่โถปั่น เติมน้ำมันค่ะ เติมน้ำตาลทรายค่ะ ไม่ต้องกลัวหวานนะคะ สูตรนี้ทำออกมาแล้วหวานกำลังดี เพราะว่