สูตรอาหาร เมนูอาหาร

  สมัยเด็กๆ สมัยยังซน เด็กทุกคนไม่ว่าใครก็ต้องขยาดกับเจ้าขวดน้ำสีฟ้าที่ได้ชื่อว่า "แอลกอฮอล์" กันทั้งนั้น เพราะเมื่อไหร่ที่วิ่งซนจนหกล้มเลือดไหล ผู้ใหญ่ก็มักจะเดินมาพร้อมกับขวดนี้ แล้วพูดด้วยความหวังดีว่า "แสบๆ เนี่ยล่ะดี เดี๋ยวก็หาย" และสุดท้ายมันก็กลายมาเป็นความเชื่อต่อกันมา  Gangbeauty  ยืนยันตรงนี้ว่ามันผิดมากนะ ความแสบที่ได้รับมาตอนเด็กน่ะ เราโดนรังแกมาทั้งนั้น! www.therecoveryvillage.com pxhere.com           แอลกอฮอล์  เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีฤทธิ์ยับยั้งต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยสีฟ้าที่เห็นนั้น ประกอบไปด้วยแอลกอฮอล์ 70% ผสมน้ำอีก 30% แม้มันจะมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรค และแบคทีเรีย  ก็ไม่ได้แปลว่าสมควรแล้วที่จะเทราดลงไปบนแผลโดยตรง  เพราะการเทราดลงไปบนแผล จะยิ่งทำให้โปรตีนในเนื้อเยื่อถูกทำลาย เนื้อตาย แผลหายช้า เกิดอาการระคายเคือง แสบฟรี แผลหายช้าไปอีก maxpixel.freegreatpicture.com           วิธีการใช้แอลกอฮอล์ที่ถูกต้อง ควรทำเพียงแค่นำไปชุบสำลี  เช็ดรอบปากแผลเท่านั้น  ส่วนการล้างแผล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ "น้ำเกลือ" จะดีกว่า โดยขั้นตอนหลักๆ

    ความสวยความงามเป็นสิ่งที่อยู่คู่หญิงสาวมานานนับหลายศตวรรษ ดังนั้นจึงมีการคิดค้นการใช้สิ่งต่างๆ มาช่วยจัดการเรื่องนี้อยู่มากมาย และวันนี้  Gangbeauty  ก็จะขอนำมาเปิดเผยเพื่อให้สาวๆ ได้นำไปใช้สร้างผลลัพธ์ความสวยกับตัวเอง บอกเลยว่าทั่วร่างกาย! 1. ริมฝีปากอวบอิ่มและเซ็กซี่  เพียงแค่ทาปากด้วยน้ำมันสำหรับใบหน้า เช่น น้ำมันลูกพีช น้ำมันอัลมอนด์ หรือจะเป็นลิปบาล์มปกติธรรมดาก็ได้ จากนั้นให้ใช้แปรงสีฟันขัดถูเบาๆ บนริมฝีปากประมาณ 1 นาที www.pexels.com 2. ผิวสวยชุ่มฉ่ำ  เสกได้ด้วยน้ำมันมะกอกเท่านั้น โดยให้ล้างใบหน้าให้สะอาด แล้วนวดน้ำมันมะกอกลงบนใบหน้าประมาณ 7 นาที ทำซ้ำทุกขั้นตอนติดต่อกัน 4-5 วัน จะเห็นว่าผิวดูสะอาด นุ่มลื่น ไม่มันย่องด้วยนะจ๊ะ pixabay.com 3. ใบหน้าปราศจากสิว และตุ่มเล็กตุ่มน้อย ด้วยการใช้เพียงน้ำผึ้งธรรมชาติ ทาลงบนบริเวณที่มีปัญหาสิว ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะช่วยทำให้ตุ่มเหล่านี้จางลง เล็กลง จนแต่งหน้าง่ายขึ้น ไม่ดูเป็นหลุมเป็นบ่อ ใช้แก้ปัญหาเฉพาะกิจได้เลยล่ะ pxhere.com 4. ใครมีปัญหาขนคุด  โดยเฉพาะขนขา น่าจะมีความไม่มั่นใจอยู่มาก ให้ใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ผสม

  สวัสดีค่าสาวๆทุกคน เดี๋ยวนี้ความโสดมันเป็นโรคติดต่อหรือเปล่า หันไปทางไหนก็เจอแต่คนโสด ไปเที่ยวคนเดียวแบบโสดๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกแล้วนะเออ เวลาที่เราไปเที่ยวคนเดียวแล้วพกกล้องไปด้วย ไม่จำเป็นต้องมีตากล้องส่วนตัวแล้วจ่ะ เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำ 10 ไอเดียถ่ายรูปเองเก๋ๆแบบฉบับสาวโสด เที่ยวคนเดียว "Alone Travel" สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมีคือกล้องถ่ายรูป ขาตั้งกล้อง และความอาร์ท ความรู้เรื่องมุมกล้องนิดๆหน่อยก็ได้ เรื่องแบบนี้มันฝึกกันได้ ถ้าพร้อมแล้วไปดู 10 ไอเดียที่เรานำมาฝากกันค่ะ 1.นั่งรถไฟไปเที่ยวก็ต้องถ่ายรูปอาร์ตๆ ถ้าเรานั่งรถไฟไปเที่ยวแล้วบรรยายบนรถไฟไม่ได้หนาแน่นไปด้วยคน หรือรบกวนใคร เราก็ใช่พื้นที่ถ่ายรูปซะเลย มองหามุมดีๆสวยๆแล้วตั้งกล่องโพสท่าอาร์ทๆเริ่ดๆ 2.นั่งกินข้าวคนเดียวชิลล์ๆ ขาดไม่ได้เลยกองทัพต้องเดินด้วยท้อง หาแวะร้านอาหารสวยๆชิลล์นั่งเล่นเพลินๆ ยิ่งร้านไหนมีวิวนะ เก๋กู้ดมากค่า พกขาตั้งกล้องไปด้วยอยู่แล้ว สบ๊ายยย 3.ไปเที่ยวทะเล นอกจากจะถ่ายรูปกับทะเลแล้ว เรามาหาโพสท่าที่ชิลล์เก๋ๆ เที่ยวคนเดียวก็มีความสุขได้ อย่างเช่นการนอนอ่อนหนังสือชิลล์ๆ อ่ะเริ่ดดด 4.ไม่พร้อมถ่าย

  สำหรับผู้หญิงเราเเล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการดูเเลตัวเองให้สวยอยู่เสมอ ก็คือเสน่ห์ปลายจวักที่จะเอาไว้มัดใจสามีนั่นเอง ถึงเเม้ปัจจุบันจะมีอาหารสำเร็จรูปมากมาย เเต่หากคุณมีเมนูเด็ดไว้มัดใจสามีก็คงจะดีกว่า หากคุณเป็นคนนึงที่ทำอาหารไม่เป็น มาเริ่มที่เมนูง่ายๆ ที่จะทำให้อร่อยไม่ง่าย อย่างยำวุ้นเส้น วันนี้   GangBeauty   จะมาบอกสูตรยำวุ้นเส้นโบราณ ไว้ทำขาย มัดใจสามี ทำอย่างไร ไปดูกันค่ะ โดยสูตรนี้จะไม่เหมือนกับยำวุ้นเส้นแบบปกติที่เราเคยทานกัน เนื่องจากเดี๋ยวนี้จะเน้นความสะดวก ทำง่าย ยำจะเเฉะๆ ลวกวุ้นเส้น ลวกเนื้อสัตว์ ใส่ผัก ปรุงรส คลุกๆจบ แยก! หากจะมัดใจสามีก็ต้องเเตกต่างกว่านั้น ยำเเบบโบราณนี้เส้นจะร่ววนกว่า นำยำจะผสมเข้าไปในวุ้นเส้นเลย ทำให้กลมกล่อมเเละหอมกระเทียมเจียว เเต่เครื่องอาจจุกจิกเล็กน้อยค่ะ ส่วนผสม ไก่รวน นำเนื้อไก่ไปรวนในน้ำเดือด ให้มีสีเหลืองคุกคลิก เก็บน้ำไว้เป็นน้ำซุปใส่ในยำค่ะ อาจจะปรุงรสด้วยตามชอบเเทนการหมักไก่ ใส่พริกไท แม๊กกี้ ผงปรุงรส พริกแห้งทอด กระเทียมเจียว เจียวให้กระเทียมเหลืองเล็กน้อย อหอมก็รีบตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน น้ำมันก็เก็บเเยกใส่ถ้วยไว้ ถั่วลิสงทอ

  บางครั้งเวลาที่เราทำอะไรไป เป็นปกติ เป็นพฤติกรรมที่เราทำอยู่ทุกวัน เราไม่ได้คิดว่ามันจะส่งผลร้ายแรงอะไรต่อร่างกายได้ แต่!! ก็นั้นแหละค่ะ เราไม่รู้ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ทำร้ายสุขภาพเราอยู่สักหน่อย วันนี้  GangBeuty  เลยมี 8 พฤติกรรมที่เราทำและมันกำลังส่งผลร้ายต่อ "กระดูกสันหลัง"อยู่ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง 1. ล้างจาน :เวลาที่เราล้างจานนั้นเรามักจะก้มลงไปที่ซิ้งน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนสูงหลายคนอาจจะเป็นปัญหาในการหยิบจานขึ้นมาล้าง ทำให้ช่วงหลังและไหล่ต้องรับงานหนัก ปัญหานี้ช่วยได้เพียงแค่หาอะไรมารองเข่าหนึ่งข้าง จากนั้นก็ล้างจานตัวตรงปกติ หรือเอนตัวไปนิดหน่อย ปัญหาการปวดหลังก็จะหายไปแล้วล่ะ 2. เวลาแปรงฟัน :ตอนที่เรายืนอยู่นั้นหลายคนคงชอบที่จะก้มลงไปกับอ่างล้างหน้า จากนั้นก็บรรเลงฝีมือการใช้แปรงฟันอย่างรวดเร็วและรุนแรงอยู่นานสองนาน โดยที่ไม่คิดเลยว่าช่วงที่ก้มอยู่นั้นคือต้นเหตุของอาการกระดูกสันหลังเสื่อมและอาการปวดหลัง โดยวิธีแก้ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ยืนตรงและเอามือข้างหนึ่งวางไว้บนกำแพง 3. หิ้วถุงใส่ของหนักๆ :หลายคนเวลาไปซื้อกับแฟนสาว หรือไปซื้อของจากซุปเปอร์มาเก็ตไว้เป็นเสบียง

  อากาศประเทศไทยตอนนี้นับว่าค่อนข้างทำให้ชาวไทยสับสน เดี๋ยวก็หนาวบ้าง เดี๋ยวก็ร้อนบ้าง แม้จะมีเครื่องปรับอากาศอยู่ในบ้าน แต่การเปิดๆ ปิดๆ ตามสภาพอากาศก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี หนำซ้ำ จะยิ่งทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะในตอนกลางคืน หากอุณหภูมิภายนอกลดตัวลงระหว่างนอน เดี๋ยวร่างกายก็จะหนาวเกินไปอีก  Gangbeauty  เลยคิดว่าเราควรจะพักการใช้เครื่องปรับอากาศไปก่อนดีกว่า ห้องธรรมดานี่ล่ะ แต่เรามีวิธีทำให้เย็นสบาย นอนหลับได้ชิลๆ หลายอย่างเลย! 1. ใช้ชุดเครื่่องนอนผ้าคอตตอน pixabay.com           ส่วนใหญ่เวลาเธอเลือกผ้าปูที่นอนหรือชุดเครื่องนอนต่างๆ ยอมรับเถอะว่าสนใจแต่สีแล้วก็ลายผ้า อาจจะมีเรื่องราคาด้วยบ้างนิดนึง แต่เธอรู้มั้ยว่าผ้าแต่ละชนิด คุณสมบัติมันก็ต่างกันนะ จากผ้าหนานุ่มที่เธอคิดว่ามันนอนสบาย นุ่มร่างกาย ลองเปลี่ยนทุกอย่างบนเตียงให้เป็นผ้าคอตตอนที่เบาสบายและถ่ายเทอากาศได้ดี น่าจะเวิร์กสำหรับอากาศบ้านเรามากกว่าจ้ะ 2. ดื่มน้ำก่อนนอน           ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการดื่มน้ำเพียงหนึ่งแก้วก่อนเข้านอน จะช่วยทำให้นอนหลับฝันดีไปทั้งคืนได้จริงๆ เพราะน้ำจะเข้าไปลดอุณหภูมิภายในร่างกาย ทำให้ร่างก

  การทำงานเป็นสิ่งสำคัญ แต่คนบางคนก็ทำงานจนมากเกินกว่าร่างกายและจิตใจจะรับไหว ล้มหมอนนอนเสื่อกันไปแล้วก็หลายราย เป็นขนาดนั้นแล้วบางครั้งวันพักผ่อน ก็ยังอุตส่าหอบหิ้วงานการกลับไปทำที่บ้านอีกด้วย  Gangbeauty  เข้าใจว่ากิจวัตรประจำวันแบบนี้มันจำเป็น อีกทั้งทำไปนานๆ มันก็เป็นไปเองตามอัตโนมัติจนไม่รู้ตัวเข้าได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาทำการเช็กตัวเองกันหน่อยมั้ย ว่า ณ ปัจจุบันที่ทำงานอยู่เรียกว่ามากเกินไปหรือไม่ จะได้ป้องกันความเจ็บป่วยทั้งร่างกายและจิตใจได้ทันยังไงล่ะ! 1. รู้สึกหมดแรงจากการทำงาน หมดแรงจนถึงขั้นว่าไม่อยากทำอะไรอีกเลยหลังจากเลิกงาน ไม่ว่าจะกินข้าว เดินเล่นกับครอบครัว สังสรรค์ผ่อนคลายสมองกับกลุ่มเพื่อน โดยจะรู้สึกเหมือนอยากนอนอยู่ตลอดเวลา 2. เพื่อนร่วมงาน คนรอบข้างมักถามคำถามเธอเกี่ยวกับงานอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะความรู้สึกเกี่ยวกับงาน เช่น เป็นอย่างไรบ้าง งานวันนี้โอเคใช่มั้ย มีอะไรติดขัดบ้างมั้ย 3. ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน นอกจากอุปกรณ์เครื่องเขียนและอุปกรณ์การทำงานสารพัดสารเพ เธอก็ยังมีกระปุกยาพาราและอื่นๆ วางอยู่ร่วมด้วย 4. รู้สึกว่าวันนึง แทบไม่ได้คุยกับเพื่อนร่วมงานเลย เผลอแป๊บเดียว ก็หมด