น้ำจิ้มลูกชิ้นรสมะขามเปียก กลมกล่อมอร่อย กินกับอะไรก็เข้า
น้ำจิ้มลูกชิ้นรสมะขามเปียก กลมกล่อมอร่อย กินกับอะไรก็เข้า
น้ำจิ้มมะขามเปียกที่นำมาทานคู่กับเมนูลูกชิ้นต่างๆไม่ว่าจะนำมาทานคู่กับอะไรก็ให้รสชาติของความอร่อยและความเข้ากันเป็นอย่างดีด้วยรสชาติที่มีความเผ็ดมีความเปรี้ยวมีความครบรส สามารถนำมาทานคู่กับเมนูอื่นๆนอกจากลูกชิ้นก็ได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาสูตรวิธีการทำเคสลับความอร่อยของน้ำจิ้มมะขามเปียกในวันนี้เราได้มีสูตรการทำที่จะบอกหมดในทุกขั้นตอนหากทานไม่หมด ก็สามารถเก็บใส่ไว้ในตู้เย็นเก็บเอาไว้ได้นานเวลาที่เราจะนำมาทานก็นำไปอุ่นบนเตาให้มีความร้อนสามารถนำมาทานได้ ยังคงรสชาติความอร่อยไว้เหมือนเดิม
ส่วนผสม
น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 150 กรัม , น้ำเปล่า 300 กรัม , พริกสดแดง 7 เม็ด , กระเทียมดอง 2 หัว , กระเทียมสด 8 กลีบใหญ่ , น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลปึก 100 กรัม , น้ำตาลทราย 150 กรัม , คอร์น ไซรัป 3 ช้อนโต๊ะ , แป้งข้าวโพด หรือแป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ , พริกคั่วป่น 1 ช้อนชา , เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1 เราจะเริ่มด้วยการทำการปั่นพริกสด กระเทียมดอง กระเทียมสดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยวางพักเอาไว้
2 เตรียมหม้อขนาด กลาง จากนั้นให้ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำเปล่า น้ำตาลปึก น้ำตาลทรายและตามด้วยน้ำกระเทียมดอง จากนั้นให้เรานำไปต้มด้วยไฟระดับปานกลาง ทำการเคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำตาลละลายเข้ากันดี เมื่อน้ำตาลละลายดีแล้ว เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆเพื่อที่จะให้ตัวนำซอสของเรามีความข้นมากยิ่งขึ้น เมื่อเดือดแล้วให้เคี่ยวต่อประมาณ 15-20 นาที
3 จากนั้นให้เรานำพริก กระเทียม ที่เราปั่นเอาไว้ในขั้นตอนแรกใส่ลงไปในหม้อ แล้วให้เร่งไฟให้แรงขึ้น วิธีนี้จะเป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้กลิ่นเหม็นเขียวของพริกสดให้หายไป จากนั้นให้เคี่ยวต่อประมาณ 3 นาที กะเวลาพอให้กระเทียมสุก
4 เบาไฟกลาง ใส่คอร์นไซรัปลงไปแล้วให้ใช้ทัพพีคนส่วนผสมตลอดเวลาจนน้ำซอสของเราเริ่มมีความเหนียว จากนั้นคนต่อสักประมาณ 2 นาที ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำลงไปเพื่อเพิ่มความข้น
5 ใส่เกลือตามลงไป 1 ช้อนชา คนส่วนผสมให้เข้ากันเบาไฟอ่อนๆ ใส่พริกป่นตาม ความเผ็ด กะได้ตามความต้องการ จากนั้นปิดเตา พักที่เอาไว้ให้เย็น แล้วเทใส่ในขวดโหลที่มีฝาปิดสนิท
น้ำจิ้มมะขามเปียกที่เรานำสูตรมาฝากนี้ สามารถทำตามกันได้ไม่ยาก รสชาติที่ได้ออกมานั้นจะได้ความครบรส นำมาทานคู่กับน้ำจิ้มแสนอร่อยได้อย่างถูกใจ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆทุกคน
ขอบคุณข้อมูลจาก : bobbaank
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น