ขนมครกสูตรโบราณคุณย่า (กรอบโดยไม่ต้องใส่น้ำปูนใส) หวานๆมันๆ

ขนมครกสูตรคุณหญิงย่ากรอบนอกนุ่มใน หวานๆมันๆ สักครก เอ๊ย สักคู่มั้ยคะ

ขนมครกสูตรโบราณ (กรอบโดยไม่ต้องใส่น้ำปูนใส)

ส่วนผสมตัวแป้ง

ข้าวสาร(ใช้ข้าวเก่าที่ไม่ใช่ข้าวหอมมะลิ) 2 ถ้วย
โบราณเรียกว่าข้าวเคี่ยว
ข้าวสุก 3/4 ถ้วย
มะพร้าวขูดแบบขาวๆ 1 ถ้วยครึ่ง
เกลือป่น 1 ชช.
น้ำเดือดจัดๆ 6 ถ้วย

เทส่วนผสมทุกอย่างใสลงในกาละมังใบใหญ่(ต้องเผื่อเนื้อที่เวลาข้าวสารขึ้นอืดด้วยนะ) เทน้ำเดือดจัดๆ ลงไป ใช้พายหรือทัพพีคนให้ทั่ว (อย่าให้เหลือข้าวสารกอดกัน) ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาไปโม่ให้ละเอียดเนียน
(ไม่ต้องทิ้งข้ามคืนแบบแป้งทับน้ำธรรมดานะคะ)

ถ้าทำจำนวนมาก ให้หล่อกาละมังด้วยน้ำเย็น(ไมใช่น้ำแข็งนะ) ข้าวสารจะได้ไม่สุกเกินไป ถ้าข้าวสุกเกินไป เวลาหยอด ขนมจะติด และแหยะๆ

ส่วนกะทิหยอดหน้า

(สูตรนี้ไม่ต้องจิ้มน้ำตาล ถ้าต้องการใส่หน้าต่างๆ เช่นหน้าฝอยทอง หน้าไข่เค็ม ต้องคอยดูและปรับความหวานเค็มเอาเอง ปกติทำกินเองจะไม่ใส่ คุณย่าท่านว่าทำกินเทียมเจ้าเทียมนาย ไม่สมควร)

น้ำกะทิ 2+1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
เกลือป่น 1 + 3/4 ชช.
ผสมรวมกัน คนให้ละลาย (สมัยก่อนต้องกรองให้สะอาด)

วิธีทำให้เตาร่อน

(กรณีเตาใหม่ หรือ ไม่ได้ใช้นานๆ)
สมัยก่อน ใช้สุมหลุมขนมด้วยกากมะพร้าวที่คั้นแล้ว แล้วเผาไฟรุมๆ แบบนี้ใช้เวลานาน
อีกวิธีหนึ่ง ใช้น้ำมันทาในหลุมขนม ตั้งไฟอ่อนมากๆ หมั่นเติมน้ำมัน จนกะทะอิ่มตัว น้ำมันไม่พร่อง เป็นอันใช้ได้

วิธีหยอด

ตั้งไฟให้ร้อน เช็ดหลุมด้วยน้ำมัน หยอดตัวแป้ง ประมาณ 3/4 ของหลุม พักไว้อึดใจนึงแล้วค่อยหยอดหน้ากะทิ จนเต็ม ปิดฝา

ปกติ จะให้หยอดแป้งหลุมกลางก่อน พอหยอดถึงรอบที่ 2 เสร็จ ค่อยกลับมาหยอดกะทิหลุมกลาง แล้วจึงกลับไปทำแบบเดียวกันกับหลุมรอบนอกๆ

ไฟ กรณีใช้กะทะเหล็ก ถ้าไฟร้อนจัดเกินไป แป้งจะสุกทันที ควรใช้ไฟกลางๆ แป้งเดือด แตกมัน น่ารับประทาน ถ้าไฟอ่อนไป หน้าขนมจะด้านและเป็นแป้งแข็งๆ

ถ้าใช้เตาถ่าน ให้เกลี่ยถ่านไว้ด้านข้าง ถ้าใช้เตาแก๊ส ให้ดับวงในซะ

ปอลิง : ขนมครกสูตรนี้ ถ้าทำถูกต้อง เวลารับประทาน แป้งกับกะทิจะละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ครึ่งชม. ยังกรอบ และคงรูป ไม่ย้วย

สูตรนี้ ใช้หยอดเตาขนาดกลาง 20 หลุม จะได้ขนม 320 ฝา หรือ 160 คู่

ปอลิง อีกที : สำหรับแม่บ้านสมัยใหม่ที่จะใช้ปั่นแทนการโม่ ให้ปั่นทีละน้อย มันจะละเอียดไว ถ้าปั่นเยอะๆ ต้องใช้เวลานาน จะเกิดความร้อน ข้าวจะสุกเกินไป ตอนหยอด มันจะแหยะๆนะ

ขอบคุณภาพและสูตรจากคุณ Pan Pinratt‎

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิษฐาน ถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เสริมสิริมงคล ชีวิตเป็นสุขร่มเย็น

- พฤษภาคม 20, 2566

สำหรับพุทธศาสนิกชนแทบทุกบ้าน จะต้องมีหิ้งพระในบ้าน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เราเคารพบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ความอุ่นใจในการอยู่อาศัย ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง กับการถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของคนในบ้าน วันนี้เราจึงมีเคล็ดไม่ลับ เกี่ยวกับการถวายน้ำหน้าหิ้งพระในบ้าน ทำอย่างไรให้ถูกวิธี เพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเอง โดยการถวายน้ำ จะต้องเป็นน้ำดื่มปากขวด ที่เรายังไม่เคยดื่มมาก่อน หรือเปิดจากก๊อกเครื่องกรองน้ำโดยตรงก็ได้ น้ำที่ถวาย ควรเทใส่แก้ว ให้เต็มแก้ว แต่อย่าล้นออกมานอกแก้ว เปรียบเสมือนการเต็มเต็มชีวิตให้อุดมสมบูรณ์ ไม่ขาดแคลน ควรเปลี่ยนน้ำในแก้วทุกวัน เพื่อเปรียบเสมือนการรับทรัพย์เข้าบ้าน และไม่ควรปล่อยให้น้ำในแก้วเหือดแห้ง เพราะจะเปรียบเสมือนชีวิตที่เหี่ยวแห้ง อับเฉา คำอธิษฐานในการถวายน้ำหน้าหิ้งพระ "ข้าพเจ้า…(เอ่ยชื่อ – นามสกุล)…ขอถวายน้ำ บูชาแด่องค์พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทวยเทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทวาทุกพระองค์ ท่านเจ้าที่เจ้าทาง ปู่โสมเฝ้าท...

แจกสูตร เป็ดย่าง MK รสชาติเหมือนกินที่ร้าน อร่อยมาก

- มีนาคม 24, 2566

แจกสูตร เป็ดย่าง MK ทำกินทั้งครอบครัว ไม่ต้องไปร้านเลย!! สำหรับใครที่ชอบทานเป็ดย่างแต่ไม่อยากเสียเงินเยอะหรือคิดว่าวิธีการทำค่อนข้างยุ่งยาก อุปกรณ์ที่ใช้หลายอย่าง ใช้เวลานานในการทำ สิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปค่ะ วันนี้เรามีสูตรในการทำเป็ดย่างรสชาติเหมือนMKแบบง่ายๆใช้เวลาทำไม่นานมาฝากกันนะคะ เครื่องปรุงหมักเป็ด เนื้อหน้าอกเป็ด 2 ชิ้น ขิงหั่นบาง 7-8 ชิ้น รากผักชี 2ต้น ต้นหอมหั่น 2ต้น กระเทียมฝานบาง 5กลีบ ผงซุป 1/2 ช้อนชา เกลือ 1/4 ช้อนชา ผงพะโล้ 1ช้อนโต๊ะ น้ำปล่าว 1/2 ถ้วย เครื่องปรุงขึ้นสีเป็ด สีผสมอาหารสีแดง น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโตะ เครื่องปรุงซอสราดเป็ด ผงซุป 1 ช้อนชา น้ำมันหอย 2 ช้อนชา น้ำตาล 3ช้อนชา เต้าเจี๊ยว 2ช้อนชา น้ำเปล่า 1 ถ้วย วิธีทำ 1. ล้างเป็ดให้สะอาดแล้วพักไว้ 2. เตรียมซอสหมักเป็ดโดยนำหม้อหรือกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย นำเครื่องปรุงทุกอย่างลงไปผัดพอเครื่งปรุงมีกลิ่นหอมแล้วจึงเติมน้ำลงไปคนให้เข้ากันพอน้ำเดือดแล้วปิดแก๊ส 3. นำซอสหมักเป็ดที่ได้ใส่ภาชนะแล้วนำเป็ดที่เตรียมไว้ลงไปหมัดโดยกดเนื้อเป็ดเบาๆเพื่อให้ซอสซึมเข้าเนื้อเป็ด ระวังอย่าให้หนังเป็ดเละน้ำเครื่องเทศเพราะเรา...

ย้อมสีผม กาแฟ วิธีย้อมสีผมธรรมชาติ ด้วยกาแฟ เปลี่ยนสีผมใหม่

- มกราคม 14, 2565

ย้อมสีผม กาแฟ หลายคนยังให้ความสงสัยกันว่า กาแฟนี่นะจะนำมาย้อมสีผม ตัวที่ฉันต้องขอบอกตามตรงว่าสามารถย้อมสีผมได้จริงๆค่ะ เพราะฉันได้ลองทำกับตัวเองแล้วปรากฏว่าสีผมของฉันมีความเป็นสีน้ำตาลเข้มเพิ่มมากขึ้น และเป็นสีที่ไม่เหมือนใคร สีผมสวยมากค่ะ และลดปัญหาในการเกิดโรคต่างๆได้อีกด้วย โดยสิ่งที่เราจะใช้นั้นเราจะใช้กาแฟและครีมนวดผม และอื่นๆอีกเล็กน้อย เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติโดยเฉพาะ เพื่อสุขภาพเส้นผมของคุณที่ดีและแข็งแรง วันนี้เราเลยขอเสนอกาแฟเป็นตัวช่วยหลักค่ะ กาแฟ นอกจากจะนำมากินได้แล้วยังเป็นตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่คุณไม่ทันได้คาดคิด มันสามารถบำรุงเส้นผมของคุณได้ลึกลงไป วันนี้เราจะมาเผยวิธีการย้อมสีผมด้วยกาแฟ ที่จะทำให้เส้นผมของคุณมีความงดงาม สีผมสวยไม่เหมือนใคร รับรองเลยว่าผมของคุณจะยาวเร็วขึ้น ไม่ชี้ฟูหยิกด้วย และแน่นอนว่ายังทำให้หนังศีรษะของคุณไม่มัน อันนี้รับรองหรือว่าเป็นความจริง ขั้นตอนวิธีในการย้อมสีผม 1 ให้เราทำการเตรียมกาแฟที่เป็นออแกนิค เป็นกาแฟแบบใดก็ได้ที่แรง หรือจะใช้กาแฟเอสเพรสโซ่ หรือกาแฟผงๆก็ได้ ถ้าไม่มี organic เราอาจจะเจอกาแฟที่มีการเติมแต่ง ถึงไม่เห...

แพทย์เผย ใครกินไข่ทุกวัน ส่งผลต่อร่างกาย

- เมษายน 21, 2566

แพทย์เผย ใครกินไข่ทุกวัน ส่งผลต่อร่างกาย คนทั่วไปมักเข้าใจกันว่าการกินไข่มากเกินไป และกินทุกวันจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง แต่วันนี้เราจะมาบอกความจริง โดยอาจารย์ นพ.กรภัทร มยุระสาคร มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยว่าความจริงแล้วคอเลสเตอรอลมีอยู่ 2 ชนิด เรียกกันแบบภาษาชาวบ้านเลยก็แปลว่า มี คอเลสเตอรอลดี และ คอเลสเตอรอลไม่ดี และจากที่ศึกษาพบว่าการกินไข่นั้นช่วย ลดโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีออก เพียงได้กินไข่บ่อยๆก็จะทำให้ร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าอัศจรรย์ 1. ไข่ช่วยในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ไข่มีคอเลสเตอรอล 200 มิลลิกรัม ไข่จะลดระดับของไขมัน LDL ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดีในร่างกาย และช่วยเพิ่มระดับของไขมันที่ดี (HDL) ช่วยป้องกันคอเลสเตอรอล 2. ไข่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณ คุณอยากให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพิ่มขึ้น คุณต้องกินไข่วันละ 1-2 ฟองทุกวัน ไข่อุดมไปด้วยซีลีเนียมซึ่งจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณรวมทั้งควบคุมระดับฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ 3. ไข่ช่วยให้ระบบการทำการงานในร่างกายดีขึ้น โคลีนเป็นสารที่พบในไข่และสารนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของร่างกาย การศึกษาวิจัย...

รวม 6 สูตรซอสผัด แซ่บถึงเครื่องจนซี๊ดปาก!

- เมษายน 19, 2566

🧑🏻‍🍳เชฟตัวจริงเข้าครัวทำอาหารทั้งนี้ต้องจริงจังกับทุกขั้นตอน! วันนี้เราแจก 6 สูตรซอสผัด บอกเลยว่าไม่ว่าจะผัดอะไรก็อร่อยเริ่ดสุด😋เป็น เมนูผัดซอส ที่ทำง่ายมาก เกียมเข้าครัวแล้วรังสรรค์เมนูสุดปังกันได้เล้ยย ว่าแต่จะมีสูตรอะไรกันบ้างไปดูกันโล้ดด💖 รวม 6 สูตรซอสผัด แซ่บถึงเครื่องจนซี๊ดปาก! 🤩 ซอสต้มยำ สูตรซอสผัด ✨ วิธีทำ 1.ตั้งกระทะให้เรียบร้อย จากนั้นใส่น้ำมันลงกระทะตามด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้ 2.คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ผัดจนเข้ากันดี เป็นอันเสร็จ 🤩 ซอสผัดผงกะหรี่ สูตรซอสผัด ✨ วิธีทำ 1.ตั้งกระทะให้เรียบร้อย จากนั้นใส่น้ำมันลงกระทะตามด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้ 2.คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ผัดจนเข้ากันดี เป็นอันเสร็จ 🤩 ซอสพริกไทยดำ สูตรซอสผัด ✨ วิธีทำ 1.ตั้งกระทะให้เรียบร้อย จากนั้นใส่น้ำมันลงกระทะตามด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้ 2.คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ผัดจนเข้ากันดี เป็นอันเสร็จ 🤩 ซอสผัดพริกเผา สูตรซอสผัด ✨ วิธีทำ 1.ตั้งกระทะให้เรียบร้อย จากนั้นใส่น้ำมันลงกระทะตามด้วยส่วนผสมที่เตรียมไว้ 2.คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ผัดจนเข้ากันดี เป็นอันเสร็จ 🤩 ซอสผัดซีอิ๊ว สูตรซอสผัด ✨ วิธ...

สอนวิธีดองสะเดา เก็บสะเดาเอาไว้ได้นาน มีกินตลอดปี

- พฤศจิกายน 08, 2565

ผักสะเดาเป็นพืชผักที่จะมีการออกตามฤดูก า ลเพียงปีละหนเท่านั้น จะเป็นผักที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทางแถบของอืสาน โดยเฉพาะนำสะเดามาทำเป็นน้ำพริก อย่างที่หลายคนก็ทราบกันดีว่ารสชาติของผักสะเดานั้นมีรสชาติดีมากๆ แต่กับบางคนก็ไม่ชอบในการทานเพราะมองว่ามีรสชาติที่ความขม แต่จะเป็นผักชนิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประโยชน์และส า รอาหารที่ดีกับร่างกาย ผักสะเดานั้น 1 ปีจะออก1หน วันนี้เราจึงได้แนะนำวิธีการเก็บสะเดามาฝากกัน เก็บเอาไว้ได้นานเป็นปีเลย จะนำมาทำอาหารนำมาทานกันได้ สิ่งที่จะต้องเตรียม 1 ผักสะ เ ด า 5 กิโลกรัม 2 เกลือ 1.5 กิโลกรัม 3 ขวดน้ำหรือถังที่มีฝา ปิ ด มิดชิด วิธีการทำ 1 ผักสะเดาล้างน้ำทำความสะอาด จากนั้นให้วางใส่ลงไปในถังที่จะเตรียมเอาไว้และตามด้วยเกลือ ลงไปเทให้ทั่วๆโปะเอาไว้ในส่วนของด้านบนของผักสะเดา 2 ขวดน้ำพลาสติกใส่น้ำให้เต็มขวด ปิดฝาขวดแล้วนำไปวางทับเอาไว้เพื่อที่จะป้อง กั น ไม่ให้ผักสะเดาลอยขึ้นมาเหนือน้ำ จะให้ผักสะเดา จ ม อยู่ในน้ำตลอดเวลา 3 เทน้ำสะอาดใส่ให้ท่วมผักสะเดาเลย 4 ปิดฝาทิ้งเอาไว้ให้มิดชิด จะทำการห มั ก ด อ งผักสะเดา เป็นระยะเวลา 3 เดือน เราก็จะได้ผักสะเดานำมารับ...

วิธีทำ “ขนมปังลูกเกด” สูตรแป้งเหนียวนุ่มๆ หอมละมุนอร่อย นวดด้วยมือก็ได้ ง่ายมากๆ

- กันยายน 23, 2566

วันนี้เราชวนขนมปังสูตรอร่อย “ขนมปังลูกเกด” สูตรแป้งเนื้อนุ่มๆ กันค่ะ สูตรนี้นวดมือได้นะคะ ไม่ยาก และไม่นานค่ะ เด็กๆที่บ้านชอบกินขนมปังลูกเกดนี่มากค่ะ เพราะด้านบนจะโรยด้วยน้ำตาลกับเนยสดด้วยค่ะ เราไปลองทำกันดูนะคะ *ส่วนผสม 1. แป้งขนมปัง 300 กรัม 2. น้ำตาล 40 กรัม 3. เกลือ 6 กรัม 4. ยีสต์ 6 กรัม 5. น้ำ 80 กรัม 6. นมสด 120 กรัม 7. เนยสด 30 กรัม 8. ลูกเกด 50 กรัมแช่น้ำประมาณ 1/2 ชั่วโมง **วิธีทำ 1. เริ่มจาก นำลูกเกดไปแช่น้ำประมาณ 1/2 ชั่วโมง แล้วบีบให้แห้ง 2. ผสม แป้ง น้ำตาล ยีสต์ เกลือ เข้าด้วยกัน 3. ผสมน้ำกับนมสดเข้าด้วยกัน แล้วนำส่วนผสมของแห้งเทลงไป นวดให้เข้ากัน 4. เมื่อส่วนผสมเข้ากันแล้วพักไว้ 15 นาที แล้วนำออกมานวดอีกครั้ง. แล้วเติมเนยสดลงไป นวดต่อจนเนียนประมาณ 15-20 นาที จนเนียน 5. เมื่อแป้งเนียนแล้ว คลึงเป็นสี่เหลี่ยมใส่ลูกเกดลงไปนิดหน่อย แล้วพับทบ และโรยลูกเกดอีกครั้ง ตามรูป แล้วคลึงเป็นก้อนกลม พักไว้ 1 ชั่วโมงหรือจนขึ้นเป็น 2 เท่า 6. เมื่อครบเวลานำมาตัดเป็น 4 ส่วน แล้วคลึงกลมพักไว้ 15 นาที หลังจาก 15 นาทีแล้วนำมาคลึงเป็นแผ่น แล้วพับม้วนเก็บตะเข็บ ใส่ลงในพิมพ์. (ทาเนยในพิมพ์ก...

วิธีการทำลอดช่อง สุดยอดขนมหวาน ทำทานกินเอง แบบไม่ง้อร้าน!

- มกราคม 16, 2565

วิธีการทำลอดช่อง สุดยอดขนมหวาน ทำทานกินเอง แบบไม่ง้อร้าน! สิ่งที่ต้องเตรียม 1. แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม 2. แป้งเท้ายายม่อม 30 กรัม 3. แป้งซ่าหริ่ม 20 กรัม 4. น้ำปูนใส 450 กรัม 5. น้ำใบเตย 250 กรัม 6. น้ำแข็ง 7. น้ำกะทิ 250 กรัม 8. น้ำตาลปึก 150 กรัม 9. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 10. เทียนอบ วิธีการทำ 1. เริ่มจากการทำตัวลอดช่องโดยการนำแป้งข้าวเจ้า, แป้งเท้ายายม่อม, แป้งซ่าหริ่ม มาผสมเข้าด้วยกัน 2. หลังจากนั้นค่อยๆใส่น้ำปูนใสทีละน้อย ขณะเดียวกันก็นวดแป้งให้เข้ากันจนเนียนและเหนียว และค่อยๆใส่น้ำปูนใสจนหมด 3. จากนั้นจึงใส่น้ำ ใบเตย แล้วนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง 4. กวนจนแป้งเหนียวและข้นจึงลดไฟลง 5. จากนั้นกวนต่อจนแป้งสุก (แป้งจะมี ลักษณะข้นเหนียว)จึงปิดไฟ 6. จัดเตรียมน้ำเย็นโดยนำน้ำแข็งไปละลายในน้ำจนน้ำเย็นจัด 7. จากนั้นนำส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่งไปใส่ลงในพิมพ์ลอดช่อง 8. คาอยๆกดให้เป็นเส้นหย่อนลงไปในน้ำเย็นที่เตรียมไว้ 9. จากนั้นเริ่มทำน้ำกะทิโดยการนำเอาน้ำตาลปึกผสมกับน้ำกะทิและเกลือป่น 10. จากนั้นนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆ คนจนน้ำตาลละลายดี จึงปิดไฟ 11. จากนั้นนำไปอบควันเทียนให้หอม 1...

ผิวตัว หน้าขาวด้วยสบู่ครีมมะขาม ทำใช้เองได้ง่าย

- มกราคม 23, 2565

ผิวตัว หน้าขาวด้วยสบู่ครีมมะขาม ทำใช้เองได้ง่าย ตัวช่วยดีๆที่จะช่วยทำให้ผิวหน้าและผิวกายของเรานั้นมีความขาวกระจ่างใส ดูมีออร่าได้อย่างเป็นธรรมชาติที่ดูดีได้จากภายในสู่ภายนอก ตัวช่วยดีๆที่เราจะนำมาฝากกันในวันนี้เป็นตัวช่วยที่ได้จากธรรมชาติ ที่เห็นผลดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้ทำ นอกจากความขาวใสที่เราจะได้แล้วนั้น ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของลดฝ้า ลดจุดด่างดำที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ทำให้มีผิวที่เนียนใสไม่มีริ้วรอย ดูอ่อนวัยกว่าเดิม ซึ่งตัวช่วยดีๆของเราที่ฝากกันในวันนี้จะเป็นสูตรสบู่ครีมมะขามเปียก เราจะใช้มะขามเปียกมาเป็นวัตถุดิบหลัก และแน่นอนว่าจะได้ผลที่ดี เพราะในมะขามเปียกนั้นมีวิตามินซีที่จะให้ผิวของเรามีความขาวใสได้อย่างเห็นผลที่ดีอย่างแน่นอน สิ่งที่จะต้องเตรียม 1 นมสด 2 น้ำผึ้ง 3 มะขามเปียก 2 – 3 ชิ้น ขั้นตอนการทำ 1 น้ำมะขามเปียกประมาณ 2-3 ชิ้น จากนั้นให้เรานำใยออกให้หมด และนำไปแช่ในน้ำอุ่น จากนั้นให้เราคั้นมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับนมสด 6 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันจะได้ลักษณะข้นๆ ๆจากนั้นให้เรานำมากรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอนเราจะเอาแต่น้ำมะขาม 2 เมื่อเราได้น้ำมะขามแล้วให้เราเติมน้ำผึ้...

ค้นหาบล็อกนี้

สูตรอาหาร เมนูอาหาร