น้ำดื่มที่เราดื่มอยู่ทุกวันนี้ สะอาด และปลอดภัยต่อร่างกายหรือไม่?

 

น้ำดื่มเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดีของร่างกาย หากน้ำที่เราดื่มอยู่ทุกวันนี้ไม่สะอาดเพียงพอ อาจทำให้เป็นสาเหตุของโรคติดต่อได้มากมาย ตั้งแต่ท้องร่วง ไปจนถึงอหิวาตกโรค

ดังนั้น เรามาลองเช็กกันดีกว่าว่าน้ำดื่มที่เราดื่มอยู่ทุกวันนี้ สะอาด และปลอดภัยต่อร่างกายเพียงพอแล้วหรือยัง โดย เรารวบรวมข้อมูลจากนายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เอาไว้ดังนี้

5 วิธีเช็ก "น้ำดื่ม" ว่าสะอาด ปลอดภัยต่อร่างกายจริงหรือไม่

1.   ค่าความเป็นกรด-ด่าง

มีการกำหนดไว้ว่า น้ำดื่มจะต้องมีค่าอยู่ในช่วง 6.5-8.5 ซึ่งมีความเป็นกรดหรือเบสเพียงเล็กน้อย สามารถดื่มได้ ไม่เป็นอันตราย

2.   น้ำตู้หยอดเหรียญ ดื่มได้

จากการสุ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำบริโภคในปี 2561 ของกรมอนามัยพบว่า มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการบริโภค ร้อยละ 40.13 โดยน้ำประปาน้ำตู้หยอดเหรียญและน้ำบรรจุถัง 20 ลิตร มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการบริโภคมากที่สุด แต่หากพิจารณาจากปัจจัยภายนอกของตู้น้ำดื่มว่ามีการติดตั้งที่ได้ตามมาตรฐานหรือไม่ สามารถเช็กได้ที่ >> 5 วิธีเลือก "ตู้กดน้ำหยอดเหรียญ" ป้องกันโรคติดต่อ

3.   น้ำประปา อยู่ในมาตรฐาน

การตรวจวัดมาตรฐานคุณภาพน้ำประปาดื่มได้ ที่ทางกรมอนามัยกำหนด เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพน้ำประปานั้น ใช้ตัวชี้วัดในการตรวจสอบมากถึง 21 ตัวชี้วัด ทั้งด้านกายภาพ เคมี แบคทีเรีย ค่าความกระด้าง ค่าความเป็นกรด-ด่าง ฯลฯ มั่นใจได้ว่าน้ำประปาไทยมีคุณภาพดี ทั้งนี้ควรตรวจสอบสภาพถังเก็บน้ำ สายน้ำ ก๊อกน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในสภาพดี ได้มาตรฐานอยู่เสมอด้วย

4.   ดื่มน้ำต้มสุก ปลอดภัยกว่า

สำหรับพื้นที่ทุรกันดารที่ขาดแคลนน้ำสะอาด หากซื้อน้ำอุปโภคบริโภคจากแหล่งที่ไม่มั่นใจในคุณภาพ ก่อนนำมาดื่ม ควรต้มน้ำให้เดือดอย่างน้อย 1 นาที แล้วเก็บในภาชนะที่สะอาดมีฝาปิดมิดชิด

5.   หยดทิพย์ อ.32 ช่วยได้

ส่วนการนำน้ำจากแม่น้ำลำคลอง หรือแหล่งน้ำผิวดินแหล่งอื่นๆ มาใช้โดยตรง ควรปรับปรุงคุณภาพน้ำและฆ่าเชื้อโรคก่อน ด้วยการแกว่งสารส้มชนิดก้อนในน้ำสักครู่ จะเห็นว่ามีตะกอนเริ่มจับตัวที่ก้นภาชนะ ตั้งทิ้งไว้สักพักจนตกตะกอนจนหมด จากนั้นเทเฉพาะน้ำที่ใสแล้วแยกออกมา

จากนั้นนำน้ำใสมาฆ่าเชื้อโรคต่อ ด้วยการใช้หยดทิพย์ อ.32 ของกรมอนามัย ซึ่งเป็นสารละลายคลอรีนชนิดเข้มข้น 2 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วน 1 หยดต่อน้ำ 1 ลิตร หรือเติมผงปูนคลอรีนตามปริมาณที่กำหนด จากนั้นปล่อยให้มีระยะเวลาฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อย 30 นาที ก่อนนำไปใช้อุปโภคบริโภค

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิษฐาน ถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เสริมสิริมงคล ชีวิตเป็นสุขร่มเย็น

เมนู “น้ำพริกเห็ดกรอบสามรส” แบบง่ายๆ หอมกรอบอร่อย เก็บไว้ได้นาน

แจกสูตรน้ำพริกเผาสูตรโบราณ ใส่ต้มยำ ทาขนมปัง คลุกปลาเค็มผักต้ม ทำขายสร้างอาชีพได้เลย

ไก่น้ำแดงแบบง่ายๆ

2สูตรผัดไท ผัดให้อร่อย รสเข้มข้นแทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

น้ำยำเทวดาสูตรนี้อร่อยมาก วิธีการทำน้ำยำ กินกับยำอะไรก็อร่อย

ซองกันชื้นกับ 10 ประโยชน์ ที่ไม่น่าหยิบทิ้ง

พล่าหมูแตงกวา​ (ภาคเหนือ)

สูตร “กะหรี่ปั๊บไส้ไก่” แป้งกรอม อร่อย พร้อมวิธีพับขึ้นชั้นให้สวยงาม

ไข่เค็มมีรอยดำ เกิดจากอะไร ยังควรกินอยู่หรือไม่