13 เมนูของทอดหน้าโรงเรียน อาหารว่างอร่อยย้อนวัย ทำขายสร้างอาชีพ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เมนูของทอดหน้าโรงเรียน อาหารว่างทอดกรอบอร่อยสำหรับเด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ที่อยากย้อนวัยใส ลองทำกินหรือทำขายได้หมดเลย
เคล็ดลับเลือกน้ำมันสำหรับทอด
เคล็ดลับทอดอาหารให้กรอบอร่อย
วัตถุดิบต้องมีความชื้นน้อยหรือแห้งดีแล้วก่อนนำลงไปทอด โดยอาจซับอาหารให้แห้ง หรือถ้าชุบแป้งหรือเกล็ดขนมปังต้องให้เคลือบผิวจนทั่ว จะช่วยทำให้อาหารกรอบนานขึ้นและช่วยลดน้ำมันกระเด็นได้
เลือกน้ำมันที่เหมาะกับการทอด ทนต่อความร้อนสูง สามารถกะเวลาทอดพอเหมาะและกรอบนาน
รอให้น้ำมันร้อนจัดก่อนนำอาหารลงไปทอด โดยตั้งไฟปานกลาง รอจนความร้อนประมาณ 170-210 องศาเซลเซียสขึ้นไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอาหารและระยะเวลาที่ใช้ในการทอดด้วย ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่านี้จะทำให้ใช้เวลาในการทอดนานและอาจทำให้อาหารอมน้ำมัน และถ้าอุณหภูมิสูงเกินไปน้ำมันที่ใช้ในการทอดจะปล่อยสารก่อมะเร็งออกมาได้
ระหว่างทอดอาหารควรรอให้ด้านใดด้านหนึ่งสุกจนเป็นสีเหลืองทองก่อนแล้วค่อยพลิกกลับด้าน จะช่วยให้อาหารทอดกรอบนาน การพลิกกลับด้านบ่อย ๆ จะทำให้อาหารอมน้ำมัน
การใช้ส้อมจิ้มระหว่างทอดจะทำให้อาหารเสียความชื้นจนแข็งกระด้าง และอาจทำให้น้ำมันแทรกซึมเข้าไปในเนื้ออาหารและอมน้ำมัน
การทอดอาหารแต่ละครั้งควรใส่อาหารปริมาณพอดีลงไปทอด ไม่ควรใส่เยอะเกินไป เพราะจะคุมความสุกยาก ทางที่ดีควรหั่นเป็นชิ้นเท่า ๆ กัน จะช่วยให้สุกพร้อมกัน
การหยดน้ำส้มสายชูลงในน้ำมันเล็กน้อย จะช่วยให้เมนูทอดกรอบนานและไม่อมน้ำมัน
หากทอดอาหารจนสุกกรอบแล้วสังเกตจากฟองอากาศที่อยู่รอบ ๆ อาหารจะหมดไป และอาหารจะลอยขึ้นบนผิวน้ำมัน ควรตักขึ้นมาวางพักไว้บนตะแกรงหรือวางบนกระดาษซับน้ำมัน เพื่อเอาน้ำมันส่วนเกินออกไป จะทำให้อาหารทอดกรอบนาน ไม่นิ่มเร็ว
หากต้องการบรรจุอาหารทอดลงในภาชนะ ควรใช้แบบที่มีรูระบายอากาศ เพื่อให้ไอร้อนระบายออกมาได้ ถ้าหากปิดมิดชิดจะทำให้หยดน้ำโดนอาหาร ทำให้แฉะและนิ่มเร็วขึ้น
เมนูของทอด
1. ลูกชิ้นทอดกรอบ

ส่วนผสม ลูกชิ้นทอดกรอบ
แป้งข้าวเจ้า (1)
แป้งข้าวเจ้า (2)
น้ำเย็นจัด 1 ส่วน
น้ำปูนใส 1 ส่วน
สีผสมอาหารสีส้ม
เกลือป่น เล็กน้อย
พริกไทย เล็กน้อย
ผงปรุงรส เล็กน้อย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
ผงฟู เล็กน้อย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
น้ำมันปาล์ม (สำหรับทอด)
ลูกชิ้นตามชอบ
ส่วนผสม น้ำจิ้มลูกชิ้น
พริกขี้หนู 8-10 เม็ด
กระเทียมกลีบใหญ่ 8-10 กลีบ
กระเทียมดอง 3 หัว
น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 1+1/2 ถ้วย
เกลือ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอสพริกศรีราชา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ (ละลายน้ำ)
ผักชีซอย
วิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้น
ปั่นพริกขี้หนู กระเทียม และกระเทียมดอง เข้าด้วยกันพอหยาบ ๆ
เคี่ยวน้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียกด้วยไฟอ่อน ๆ จนน้ำตาลปี๊บละลาย ใส่เกลือ ซอสพริก และน้ำกระเทียมดอง ลงไปคนให้เข้ากัน
ใส่พริกที่ปั่นไว้ลงไป ตามด้วยแป้งข้าวโพดละลายน้ำ คนจนน้ำจิ้มเหนียว ปิดไฟ พักไว้จนเย็นก่อนโรยผักชีซอย
วิธีทำลูกชิ้นทอดกรอบ
ใช้กระดาษซับน้ำจากลูกชิ้นให้แห้งสนิท เตรียมไว้
นำลูกชิ้นที่แห้งแล้วไปคลุกในแป้งข้าวเจ้า (1) ให้ทั่ว (เพื่อทำให้แป้งชุบทอดเกาะติดลูกชิ้น)
ใส่แป้งข้าวเจ้า (2) ลงในอ่างผสม ค่อย ๆ เทน้ำเย็นจัดสลับกับน้ำปูนใสลงไปในแป้งอย่างละเล็กน้อย คนจนแป้งละลาย แล้วทยอยเติมน้ำลงไปจนหมด คนให้เข้ากันจนแป้งเหลวตามต้องการ
เติมเกลือป่น พริกไทย และผงปรุงรส ลงไปเล็กน้อย ตามด้วยสีผสมอาหารสีส้ม คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
ใส่น้ำมันลงในกระทะ รอจนน้ำมันร้อนจัด นำลูกชิ้นชุบลงไปในส่วนผสมแป้งเหลวให้ทั่ว แล้วโรยแป้งส่วนเกินลงในกระทะ (เพื่อให้ลูกชิ้นมีเกล็ดแป้งเกาะ) จากนั้นนำลูกชิ้นใส่ทับลงไปตรงที่โรยแป้งเกล็ดเอาไว้ ทอดในกระทะจนสุกเหลืองกรอบ สุดท้ายเร่งไฟแรงสูงสุดทอดต่ออีกสักครู่เพื่อไม่ให้ลูกชิ้นอมน้ำมัน ตักขึ้นใส่ตะแกรง พักไว้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มลูกชิ้น
2. ลูกชิ้นทอดสีส้ม

ภาพจาก : คุณ sandy_sine สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ส่วนผสม ลูกชิ้นทอดสีส้ม
ลูกชิ้นหมู
แป้งข้าวเจ้า 120 กรัม
แป้งทอดกรอบ 100 กรัม
น้ำปูนใส 150 มิลลิลิตร
น้ำเย็นจัด 150 มิลลิลิตร
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
สีผสมอาหารสีส้ม 1 ช้อนชา
น้ำมันปาล์ม (สำหรับทอด)
ส่วนผสม น้ำจิ้มลูกชิ้น
น้ำมะขามเปียก 400 มิลลิลิตร
น้ำตาลปี๊บ 400 กรัม
น้ำตาลทราย 80 กรัม
เกลือ 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
พริกแห้งป่น ปริมาณตามชอบ
ถั่วคั่วป่น ปริมาณตามชอบ (ไม่ใส่ก็ได้)
ผักชี ปริมาณตามชอบ
วิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้น
- ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่า ลงในหม้อ และเปิดไฟกลางเคี่ยวจนข้น ใส่พริกป่น ถั่วคั่วป่น และผักชี คนให้เข้ากัน ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น
วิธีทำลูกชิ้นทอดสีส้ม
นำลูกชิ้นมาคลุกกับแป้งข้าวเจ้า นำไม้มาเสียบลูกชิ้นและเคาะแป้งออกให้แป้งติดลูกชิ้นบาง ๆ
ทำตัวแป้งสำหรับชุบ โดยผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งทอดกรอบ น้ำปูนใส และน้ำเย็น คนให้เข้ากัน เติมเกลือ พริกไทย และสีผสมอาหารสีส้ม คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ตั้งกระทะให้น้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างแรง เมื่อน้ำมันร้อนแล้วนำลูกชิ้นที่เสียบไม้ไว้ชุบน้ำแป้งและทอดให้เหลืองกรอบ จัดเสิร์ฟคู่น้ำจิ้ม
3. ไส้กรอกแดงทอด

ส่วนผสม ไส้กรอกแดงทอด
ไส้กรอกแดง
น้ำมันพืช
ส่วนผสม น้ำจิ้มไก่
พริกชี้ฟ้าแดง
กระเทียม
น้ำเปล่า
น้ำส้มสายชู
น้ำตาลทราย
เกลือ เล็กน้อย
ส่วนผสม น้ำจิ้มมะขามเปียก
น้ำเปล่า
พริกป่น
น้ำมะขามเปียก
น้ำส้มสายชู
น้ำปลา
น้ำตาลปี๊บ
น้ำตาลทราย
น้ำกระเทียมดอง
วิธีทำไส้กรอกแดงทอด
นำไส้กรอกแดงมาผ่าเพียงด้านเดียวเป็นรูปกากบาท กะให้ลึกแค่ครึ่งหนึ่งของไส้กรอก
ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปกะพอท่วม ใส่น้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อยเพื่อให้ไม่อมน้ำมัน ใช้ไฟอ่อน ไม่ต้องรอให้น้ำมันเดือดก็ใส่ไส้กรอกแดงลงไปทอด เพื่อให้น้ำมันกับไส้กรอกเดือดไปพร้อม ๆ กัน และเป็นการไล่ความชื้นในตัวไส้กรอก จะทำให้ไส้กรอกกรอบนานและไม่ไหม้ด้วย
ระหว่างทอดก็คนไปเรื่อย ๆ พอพองกรอบแล้วก็ยังต้องคนไปเรื่อย ๆ อีกประมาณ 8-10 นาที เพื่อไล่ความชื้นออกไปให้หมด เพื่อให้กรอบเซตตัวอย่างแท้จริง หรือสังเกตว่าถ้าเปลือกไส้กรอกเต่งตึงไม่เหี่ยวเวลาลองตักขึ้นมา แสดงว่าเซตตัวแล้ว ปิดไฟ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
วิธีทำน้ำจิ้มไก่
โขลกพริกกับกระเทียมให้ละเอียด
ตั้งหม้อเติมน้ำ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาล คนจนละลาย พอเดือดใส่พริก-กระเทียมโขลกลงไป เคี่ยวจนข้น ปิดไฟ
วิธีทำน้ำจิ้มมะขามเปียก
นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงในหม้อ ตั้งไฟจนเดือด
4. เฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง

ภาพจาก : พี่ขวดพาเที่ยว
ส่วนผสม เฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง
ไส้กรอกแดง
น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
ส่วนผสม น้ำจิ้มเฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง
น้ำเปล่า
พริกป่น
น้ำมะขามเปียก
แป้งมันละลายน้ำ
น้ำส้มสายชู
น้ำปลา
น้ำตาลปี๊บ
น้ำตาลทราย
น้ำกระเทียมดอง
วิธีทำน้ำจิ้มเฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง
- ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน
วิธีทำเฟรนช์ฟรายส์ไส้กรอกแดง
นำไส้กรอกแดงมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ นำลงทอด ใช้ไฟอ่อน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่ภาชนะ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม
5. เกี๊ยวทอด

ภาพจาก : คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ส่วนผสม ไส้หมูสับ
หมูสับ 400 กรัม
สามเกลอ (รากผักชี กระเทียม และพริกไทยโขลก) 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอม 1 ช้อนโต๊ะ
หอมหัวใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำเกี๊ยวทอด
โขลกสามเกลอ และใส่สามเกลอกับส่วนผสมหมักทุกอย่างลงไปในหมูสับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 30 นาที
ห่อแผ่นเกี๊ยวใส่ไส้หมูสับให้สวยงาม
ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันรอจนร้อน นำเกี๊ยวที่ห่อไว้แล้วลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ
6. เกี๊ยวซ่าทอด

ภาพจาก : คุณ Nidtayanid สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ส่วนผสม เกี๊ยวซ่า
หอมหัวใหญ่
แครอต
ต้นหอม
หมูสับ
น้ำตาลทราย
น้ำมันงา
ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม
แป้งเกี๊ยวซ่า
น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
เครื่องทำเกี๊ยวซ่า
วิธีทำเกี๊ยวซ่า
สับหอมใหญ่ แครอต และต้นหอม ผสมให้เข้ากันแล้วบีบน้ำออก
ใส่หมูสับ น้ำตาลทราย น้ำมันงา และซีอิ๊วขาวเห็ดหอม ลงไปคลุกผสมให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
วางแป้งเกี๊ยวซ่าลงบนเครื่องทำเกี๊ยวซ่า ตักไส้ใส่ตรงกลาง พับเครื่องกดลงไปเบา ๆ นำออกจากพิมพ์ เตรียมไว้
นำไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 10-15 วินาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ แล้วนำไปคลุกกับน้ำมันเล็กน้อยเพื่อกันติด
ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกระทะ ใส่เกี๊ยวซ่าลงไปทอดให้สุกทั้ง 2 ด้าน จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
7. โป๊งเหน่ง

ภาพจาก : คุณ sandy_sine สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ส่วนผสม โป๊งเหน่ง
แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ไส้กรอกหั่นชิ้น
น้ำมัน (สำหรับทอด)
วิธีทำโป๊งเหน่ง
นำแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู และเกลือ มาร่อนลงอ่างผสม เตรียมไว้
ตีไข่ไก่จนเกิดฟอง ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนจนกว่าน้ำตาลจะละลาย ทยอยใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป สลับกับน้ำเปล่า ประมาณ 2-3 รอบ และคนจนกว่าจะเป็นเนื้อเดียวกันและมีความเนียน ใส่กลิ่นวานิลลาลงไป คนจนเข้ากัน คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักไว้ในตู้เย็น 15-20 นาที
พอครบเวลาพักแป้งแล้วให้นำแป้งมาใส่ในภาชนะทรงสูงเพื่อสะดวกต่อการชุบแป้ง
ตั้งน้ำมันให้ร้อน โดยใช้ไฟปานกลางค่อนไปทางอ่อน พอน้ำมันร้อนแล้วนำไส้กรอกเสียบไม้มาชุบแป้ง แล้วนำไปทอดให้สีเหลืองสวย พักไว้ให้อุ่น
เมื่ออุ่นแล้วนำมาชุบแป้งและทอดต่อ เราจะทำแบบนี้ไปจนได้ความอ้วนของแป้งตามที่เราต้องการ ปกติจะทำประมาณ 3-4 ชั้นก็อ้วนแล้ว
8. ขนมฝักบัว

ส่วนผสม ขนมฝักบัว
แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
กล้วยหอมสุกบดละเอียด 1 ลูก
ใบเตย 20 ใบ
สีผสมอาหารสีเขียว 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
วิธีทำขนมฝักบัว
ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าลงไปพอท่วม ปั่นจนละเอียด จากนั้นกรองและคั้นเอาแต่น้ำ เตรียมไว้
ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และกล้วยหอม ค่อย ๆ เทน้ำใบเตยลงไปนวดให้เข้ากัน ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไป
ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปนวดกับแป้งให้ละลายจนมีลักษณะข้นเหนียว (เหมือนนมข้นหวาน) พักแป้งทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที
ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะขนาดเล็กสูงประมาณ 1/2 ของกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ พอน้ำมันร้อน กวนแป้งให้เข้ากันแล้วตักหยอดลงตรงกลางกระทะ (ระวังอย่าให้แป้งใต้กระบวยหยดลงในกระทะ) ขนมจะค่อย ๆ พองจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในจนปิดสนิท รอจนขนมเหลืองและลอยขึ้นจากน้ำมันแล้วพลิกกลับด้าน จากนั้นตักน้ำมันราดตรงกลางของขนมเพื่อให้ตรงกลางขนมปูดขึ้น ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พร้อมเสิร์ฟ
9. ขนมไข่นกกระทา

ภาพจาก : ครัวป้ามารายห์
ส่วนผสม ขนมไข่นกกระทา
แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 25 กรัม (ถ้าชอบแบบเหนียวนุ่มก็สามารถใช้แป้งข้าวโพดแทนได้)
ผงฟู 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 100 กรัม
เกลือ 1/2+1/4 ช้อนชา
มันเทศนึ่งบดละเอียด 350 กรัม
น้ำปูนใสประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ (ค่อย ๆ ใส่แล้วนวดจนแป้งไม่ร่วนและปั้นเป็นลูกได้ จะน้อยหรือมาก บวก-ลบน้ำเอาได้เลย)
วิธีทำขนมไข่นกกระทา
ร่อนแป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ และผงฟู หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
นำแป้งที่ผสมแล้วใส่ลงไปในมันเทศที่นึ่งบดแล้ว แบ่งแป้งใส่สัก 3 รอบ นวดขยำจนเข้ากัน หลังจากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใสลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนวดจนแป้งเนียนไม่ร่วน สามารถปั้นเป็นก้อนได้ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ
ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วนำไข่นกกระทาลงไปทอดด้วยไฟอ่อน ๆ คนไปด้วยขนมจะได้ไม่ไหม้ พอทอดจนขนมเริ่มเหลืองฟูขึ้นก็นำตะหลิวกดยีขนม เพื่อให้ขนมฟูขึ้นจากขนาดเดิมประมาณ 1.5-2 เท่า ฟูมากก็กลวงมาก พอพองเหลืองแล้วก็ต้องทอดต่อไปอีกสัก 4-5 นาที เพื่อให้ผิวขนมเซตตัวกรอบดีก่อน ถ้าตักขึ้นมาเร็วก็จะยุบและแฟบ ตักมาพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
10. ขนมไข่หงส์

ภาพจาก : คุณแม่หญิงกระจิดริด สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ส่วนผสม แป้งขนมไข่หงส์
แป้งข้าวเหนียว 1+1/2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
มันเทศ (ต้มสุกแล้วบด) 1/3 ถ้วย (หรือใช้มันฝรั่งแทนได้)
น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย (ถ้าจะให้น้ำตาลปี๊บละลายง่าย ให้เอาเข้าไมโครเวฟก่อน)
กะทิสำเร็จรูปกล่องเล็ก 1 กล่อง
น้ำเย็น
ส่วนผสม ไส้ขนมไข่หงส์
ถั่วทองนึ่งบด ปริมาณตามชอบ
เกลือป่น ปริมาณตามชอบ
น้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบ
รากผักชี กระเทียม และพริกไทย โขลกเข้าด้วยกัน ปริมาณตามชอบ
หอมแดงเจียว (อย่าทิ้งน้ำมันที่ใช้เจียว)
ส่วนผสม น้ำตาลสำหรับเคลือบ
น้ำ 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
วิธีทำแป้งขนมไข่หงส์
ผสมส่วนผสมของแห้งทุกอย่างให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ
ค่อย ๆ ใส่กะทิลงไปสลับกับนวดแป้ง ถ้ากะทิหมดแต่ส่วนผสมยังแห้งอยู่ให้เติมน้ำเพิ่มได้ แต่ต้องค่อย ๆ เติม เพราะมีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียวอยู่จะเหลวง่าย ถ้าใครทำเหลวไปก็ไม่ต้องเททิ้ง ให้เพิ่มแป้งข้าวเหนียวเข้าไป
พักแป้งเป็นเวลา 1 ชั่วโมงขึ้นไป ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะการพักแป้งทิ้งไว้จะทำให้น้ำตาลกับแป้งเชื่อมโครงสร้างผสานตัวเข้าหากัน ทำให้เวลาทอดไม่ระเบิดนั่นเอง
วิธีทำไส้ขนมไข่หงส์
ตั้งกระทะใส่น้ำมันที่เจียวหอมไว้ ใส่ส่วนผสมรากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม ระวังอย่าให้ไหม้
พอได้กลิ่นหอมแล้วใส่ถั่วทองลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือป่น ผัดพอเข้ากัน ใส่หอมแดงเจียว
จากนั้นตักขึ้นพักไว้ให้เย็นตัวลง ปั้นเป็นก้อนกลม เตรียมไว้
วิธีทำขนมไข่หงส์
- ใช้น้ำมันทาที่มือและทาถาดเพื่อขนมจะได้ไม่ติดกัน นำแป้งที่พักไว้มาปั้นเป็นก้อนกลมแล้วกดให้เป็นลักษณะแบน
- วางไส้ใส่ลงไปแล้วห่อให้มิด จากนั้นคลึงให้เป็นก้อนกลมอีกครั้ง
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เปิดไฟแรงให้น้ำมันร้อนจัด ก่อนจะทอดให้ลดไฟลงเป็นไฟปานกลาง (ก่อนใส่ให้คลึงแป้งอีกครั้งเพื่อเช็กรอยแตกและจะทำให้รอยกดทับที่วางบนถาดหายไป) แล้วใส่ไข่หงส์ลงไปทอดจนได้สีเหลืองนวล ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
วิธีทำน้ำตาลเคลือบขนมไข่หงส์
โดยใส่น้ำ 1/4 ถ้วย กับน้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายจนเป็นน้ำเชื่อมและตกทราย (ตกผลึก) ข้าง ๆ กระทะ
จากนั้นใส่ไข่หงส์ทอดลงไป คนไปสักพักน้ำตาลจะเริ่มเคลือบไข่หงส์และตกทราย (ตกผลึก) จากนั้นตักขึ้นพักไว้รอให้เย็น
11. ปูอัดชุบแป้งทอด

ส่วนผสม ปูอัดชุบแป้งทอด
ปูอัด
แป้งทอดกรอบ
น้ำโซดาแช่เย็น
เกล็ดขนมปัง
ไข่ไก่
น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
น้ำจิ้มบ๊วย, ซอสมะเขือเทศ, ซอสพริก หรือน้ำจิ้มไก่ (สำหรับจิ้ม)
วิธีทำปูอัดชุบแป้งทอด
ตีไข่ไก่พอแตก เตรียมไว้
ผสมแป้งทอดกรอบกับโซดาเย็นจัดเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
นำปูอัดลงไปชุบส่วนผสมแป้งทอดกรอบ ชุบไข่และคลุกเกล็ดขนมปัง ใส่จานพักไว้
ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ เปิดไฟอ่อน รอจนน้ำมันร้อนจัด ค่อย ๆ ใส่ปูอัดลงไปทอด หมั่นคนไปมาเพื่อให้สุกทั่วและเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มตามชอบ
12. ขนมดอกจอก

ภาพจาก : ครัวป้ามารายห์
ส่วนผสม ขนมดอกจอก
แป้งข้าวเจ้า 225 กรัม
แป้งมัน 75 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำปูนใส 115 มิลลิลิตร
หัวกะทิ 225 มิลลิลิตร
ไข่ไก่ 2 ฟอง
สีผสมอาหารตามชอบ
งาดำ หรืองาขาว
วิธีทำขนมดอกจอก
ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำปูนใส หัวกะทิ และไข่ไก่ แล้วตีให้เข้ากัน นำมากรอง จากนั้นแบ่งผสมสีตามชอบ ใส่งาดำหรืองาขาวเพิ่มความหอม แล้วคนให้เข้ากัน
ตั้งกระทะ รอให้น้ำมันเดือด พร้อมกับนำพิมพ์ดอกจอกใส่ลงไป เพื่อให้พิมพ์ร้อน พอน้ำมันเดือดปรับเป็นไฟกลาง ๆ นำพิมพ์ที่ร้อนแล้วจุ่มลงไปในแป้ง อย่าให้แป้งมิดพิมพ์ เพราะจะทำให้ขนมเขย่าไม่ออก
จากนั้นจุ่มลงไปในกระทะ รอให้เซตตัวสัก 2-3 วินาที แล้วค่อย ๆ เขย่าขนมจนขนมหลุดออก ทอดจนด้านหนึ่งสุก (จากนั้นนำพิมพ์แช่น้ำมันในกระทะ เพื่อให้พิมพ์ร้อนอยู่ตลอด ถ้าพิมพ์ไม่ร้อนจะจุ่มขนมไม่ติด) จากนั้นก็กลับด้าน พอสุกทั้ง 2 ด้านก็นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน
นำมาจัดทรง โดยการใช้ก้นถ้วยในการช่วยจัดรูปทรงให้บานเป็นดอก จากนั้นพักให้เซตตัวสัก 5 นาที แล้วนำไปพักบนตะแกรง
13. ถั่วทอดแผ่น

ส่วนผสม ถั่วทอดแผ่น
ถั่วลิสงดิบ 6 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
แป้งมันสำปะหลัง 4 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำปูนใส 1 ถ้วย
น้ำกะทิ 1 ถ้วย
น้ำมัน (สำหรับทอด)
พิมพ์ถั่วทอด
วิธีทำถั่วทอดแผ่น
เตรียมอ่างผสม ใส่แป้ง ไข่ น้ำตาลทราย และเกลือ คนพอเข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำปูนใสลงไป นวดจนส่วนผสมเข้ากันดี เติมน้ำกะทิลงไป คนให้เข้ากัน แล้วนำไปกรองด้วยกระชอนถี่ ๆ หรือผ้าขาวบาง
ใส่น้ำมันลงในกระทะหรือหม้อสำหรับทอด พอน้ำมันร้อนนำพิมพ์ลงแช่ในน้ำมัน พอร้อนแล้วนำขึ้นมา (เพื่อให้ขนมไม่ติดพิมพ์) เทน้ำมันออก
ตักแป้งใส่พิมพ์ความหนาบางตามชอบ โรยถั่วลงไปพอทั่ว นำพิมพ์ลงทอดในน้ำมันที่ร้อน ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน พอแป้งสุกจะลอยตัวหลุดพิมพ์ออกมาเอง ถ้ายังไม่หลุดก็ให้ช้อนหรือใช้ไม้ปลายแหลมช่วยแงะออก ทำจนแป้งหมด
ทอดจนแผ่นถั่วเหลืองกรอบทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน พอขนมเย็นตัวลงจัดเสิร์ฟหรือเก็บใส่ภาชนะมีฝาปิดสนิท
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น