สูตรการทำสังขยาชาไทย หอม หวาน เนีนนนุ่ม

 

วิธีทำสั ง ข ย าชาไทยกินกับข น ม ปั งปิ้ง เนื้อเนียน เข้มข้น หอมมัน ทำกินก็ง่าย

ใครชอบกินเมนูสั ง ข ย าจิ้มข น ม ปั งบ้างคะ ? เอ้า… ยกมือหน่อย บ่อยครั้งเจอสั ง ข ย าเนื้อใสแจ๋ว ถ้าหากจับข น ม ปั งไปจิ้มก็ไ​​ม่เกาะ หรือเจอสั ง ข ย ารสชาติหวานแสบคอ กินทีหนึ่งต้องกระดกน้ำเปล่าตาม ถ้ากินไม่อร่อยขนาดนี้ตัดขาดเลยจ้า มาทำกินเองให้สบายใจเฉิบกันเถอะ วันนี้ขอนำเสนอวิธีทําสั ง ข ย าสูตรนมสดมาฝากกัน

บ้านใครมีผงชาไทยอย่าเพิ่งเอาไปชงเครื่องดื่มหมดนะคะ เพราะเราอยากให้ลองมาทำสั ง ข ย าชาไทยดู เนื้อสั ง ข ย าหอมกลิ่นชามาก ๆ จับมาทาข น ม ปั ง เสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มชาไทยร้อน ๆ หรือชาไทยเย็นก็ได้ รับรองฟินสุด ๆ

ส่วนผสม สั ง ข ย าชาไทย

ผงชาไทย 5 ช้อนโต๊ะ (ชงกับน้ำร้อนให้ได้ 1 ถ้วย)

ไข่ไก่ 5 ฟอง

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วย

นมสด 500 มิลลิลิตร (หรือกะทิ)

น้ำตาลทราย 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย

เกลือป่น 1 ช้อนชา

นมข้นจืด 1 ถ้วย

วิธีทำสั ง ข ย าชาไทย

1. เทผงชาใส่ชามทนความร้อน เติมน้ำร้อนจัดลงไปคนให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นก็กรองเอาแต่น้ำชา พักไว้

2. ตีผสมไข่ไก่ 5 ฟอง ให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ พักไว้

3. ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไปในอ่างผสม เทน้ำชาที่ชงไว้ลงไปคนด้วยตะกร้อมือจนแป้งละลาย ใส่นมสด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปตีจนน้ำตาลละลาย เทไข่ไก่ที่ตีไว้แล้วลงไปตีผสมให้เข้ากันอีกครั้ง นำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง

4. ใส่ส่วนผสมลงในหม้อสำหรับตุ๋น กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียว และข้น ประมาณ 25-30 นาที ปิดไฟ เทนมข้นจืดลงไป ใช้ตะกร้อมือคนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสั ง ข ย าเนียน ตักใส่ถ้วย พร้อมรับประทานคู่กับข น ม ปั งตามชอบ

** สูตรนี้ฟินมากกกก ทั้งหอม ทั้งหวาน ลืมอ้วนเลยค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิษฐาน ถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เสริมสิริมงคล ชีวิตเป็นสุขร่มเย็น

เมนู “น้ำพริกเห็ดกรอบสามรส” แบบง่ายๆ หอมกรอบอร่อย เก็บไว้ได้นาน

แจกสูตรน้ำพริกเผาสูตรโบราณ ใส่ต้มยำ ทาขนมปัง คลุกปลาเค็มผักต้ม ทำขายสร้างอาชีพได้เลย

ไก่น้ำแดงแบบง่ายๆ

2สูตรผัดไท ผัดให้อร่อย รสเข้มข้นแทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

น้ำยำเทวดาสูตรนี้อร่อยมาก วิธีการทำน้ำยำ กินกับยำอะไรก็อร่อย

ซองกันชื้นกับ 10 ประโยชน์ ที่ไม่น่าหยิบทิ้ง

พล่าหมูแตงกวา​ (ภาคเหนือ)

สูตร “กะหรี่ปั๊บไส้ไก่” แป้งกรอม อร่อย พร้อมวิธีพับขึ้นชั้นให้สวยงาม

ไข่เค็มมีรอยดำ เกิดจากอะไร ยังควรกินอยู่หรือไม่