ชีวิตเรามีค่ามากกว่านั้น เตือนสติ ก่อนจะสายเกินไป

 

อย่าทำงานเก็บเงินไปใช้ในห้อง ICU บทความเตือนสติ ก่อนจะสายเกินไป

ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ที่เรายังต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันงก ๆ ก็เพราะการแข่งขันในสังคมที่สูง สภาพเศรษฐกิจที่ผลักดันให้เราต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินเข้าบัญชีเยอะ ๆ ไว้ก่อน เพราะในอนาคตก็คงไม่มีใครตอบได้ว่าชีวิตจะเป็นยังไง…

ทว่าหากมุ่งทำแต่งานจนลืมหาเวลามาดูแลสุขภาพของตัวเอง ลองถามใจดูอีกทีนะว่านี่เราทำงานหนักเพื่อเก็บเงินไปใช้ในห้อง ICU อยู่หรือเปล่า ไม่ก็ลองนึกถึงวัยเกษียณ วันที่สุขภาพเริ่มทรุดโทรม ตอนนั้นเงินที่เก็บไว้ก็คงไม่พ้นต้องเอามารักษาโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่แน่ ๆ


ทำงานหนักเกินไป ก่อโรคภัยอะไรได้บ้างนะ ?

คนที่ทำงานหนักมากไป ลองหันกลับมาถามร่างกายดูบ้างก็ได้นะคะว่าเหนื่อยไหม ไหวหรือเปล่า เพราะอาการแรก ๆ ที่คนทำงานหนักได้พบเจอกันบ่อย ๆ นั่นก็คือความอ่อนเพลีย เมื่อยล้า ซึ่งแปลได้ว่าร่างกายกำลังอ่อนแอลง และพร้อมจะรับเชื้อโรคที่ลอยล่องอยู่ตามสภาพแวดล้อมในที่ทำงานได้ง่ายขึ้น จนเสี่ยงต่อโรคและอาการเจ็บป่วยต่อไปนี้

1. โรคตึกเป็นพิษ

โรคนี้มีอยู่จริง ๆ ค่ะ และเป็นโรคที่เกิดขึ้นภายในที่ทำงาน โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่ทำงานที่ไม่ถูกสุขอนามัย มีฝุ่นหนา ไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดี หรือเป็นสถานที่ทำงานที่ต้องเจอกับสารเคมี กลิ่นไม่พึงประสงค์บ่อย ๆ อาจทำให้เกิดอาการของโรคตึกเป็นพิษ ซึ่งได้แก่ อาการอ่อนล้า ปวดหัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้ คัดจมูก ไอ จาม เกิดผดผื่นคัน ระคายเคืองดวงตา หรือมีความผิดปกติที่ประสาทรับกลิ่น เป็นต้น

ทั้งนี้หากไม่ใส่ใจ และปล่อยปละละเลยเอาไว้นาน อาการของโรคตึกเป็นพิษอาจทวีความรุนแรงเอาได้นะคะ

2. โรคเครียด

ยอมรับไหมล่ะว่าการทำงานหนักทำให้รู้สึกเครียดได้จริง ๆ ยิ่งหากเจองานที่มีความกดดันสูง หรือบางทีเราก็กดดันตัวเองให้ต้องทำงานเยอะ ๆ ปัจจัยเหล่านี้แหละจะทำให้คุณมีระดับความเครียดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งความเครียดเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย เช่น ปวดหัว อ่อนล้า คลื่นไส้ และอารมณ์เกรี้ยวกราด นอกจากนี้ความเครียดยังทำให้ประสิทธิภาพของงานลดลงอีกด้วย ไม่เชื่อมาดูนี่สิ

ผลกระทบสุดแย่ ที่เกิดเพราะแค่คุณเครียด สัญญาณเตือนความเครียด

3. อ้วนขึ้น

จากการศึกษาในออสเตรเลียพบว่า การนั่งเป็นเวลานานติดต่อกันวันละหลายชั่วโมง มีผลกระทบต่อระบบการเผาผลาญอาหาร เพราะการเผาผลาญจะน้อยลงเมื่อเรานั่ง และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อ้วนและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด แถมยังมีการวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่นั่งทำงานมากกว่าวันละ 6 ชั่วโมงต่อวัน อาจมีอัตราเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงกว่าผู้ที่นั่งทำงานเพียง 3 ชั่วโมงต่อวันถึง 40% เลยทีเดียว

4. ออฟฟิศซินโดรมคืบคลานมาหา

นั่งนาน ๆ หรือยืนนาน ๆ อาการปวดก็มักจะถามหา โดยเฉพาะเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ไม่แน่ว่าบางทีลักษณะการนั่งทำงานของคุณอาจผิดท่า หรือไม่ถูกหลักสุขภาพที่ดีจนอาจเสี่ยงต่อโรคออฟฟิศซินโดรมก็ได้ หรือเบาะ ๆ อาจมีอาการปวดตามส่วนต่าง ๆ หนักมาก หรือปวดเรื้อรัง เป็นต้น

งั้นเอาเป็นว่ามาลองเช็กเลยดีกว่าว่าเรามีอาการปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดข้อมือ ตาแห้ง เห็นภาพเบลอ เมื่อจ้องคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรือเปล่า ถ้ามีอาการตามนี้ก็ต้องปรับพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงอาการเจ็บป่วยดังกล่าว แล้วล่ะ

5. สายตาพัง

การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไปอาจทำให้เกิดโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม ซึ่งจะทำให้ดวงตามีปัญหาเรื่องการมองเห็น โดยอาการจะเริ่มจากการตาแห้ง ปวดหัว คอ และไหล่ และอาจจะทำให้มองเห็นเป็นภาพเบลอ วิธีป้องกันโรคนี้ก็คือการละสายตาจากคอมพิวเตอร์แล้วหันไปมองต้นไม้ใบหญ้าสี เขียว ๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายสายตาทุก ๆ 20 นาที

6. ความสัมพันธ์แย่

มีการศึกษาค้นพบว่าผู้หญิงกว่า 61% ที่ทำงานภายใต้ความเครียดและความกดดันนั้นจะส่งผลลบต่อความสัมพันธ์นอก ออฟฟิศ ในขณะที่ฝ่ายชายนั้นมีอัตราที่ความเครียดจะทำลายความสัมพันธ์นอกออฟฟิศสูง ถึง 79% เลยเชียว !

7. โรคคาโรชิ

ชื่อบอกยี่ห้อมาก ๆ ว่าได้รับการตั้งชื่อโรคมาจากแดนปลาดิบ แต่ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษจะหมายถึง Death from Overwork หรือ การเสียชีวิตจากการทำงานหนัก พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำงานหนักจนตาย หรือบ้างานจนตายนั่นเอง และในญี่ปุ่นแล้ว อัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ค่อนข้างสูงมาก ดูได้จากข่าวพนักงานชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่เคยเกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยบางคนนั่งรถไฟกลับบ้านอยู่ดี ๆ ก็เสียชีวิตเอาดื้อ ๆ ทางการแพทย์จึงฟันธงว่า สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากโรคคาโรชินี่แหละ ที่เกิดจากการทำงานหนักมาก ๆ จนร่างกายทนต่อไปไม่ได้

นอกจากนี้ คนบ้างานหลาย ๆ คนก็อาจยังไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคคาโรชิแล้วด้วยนะคะ ที่สำคัญเมื่อทำงานหนัก เครียดจากงานก็ไปดื่มแอลกอฮอล์ หรือกินไม่ยั้งเพื่อคลายเครียด ทำให้อาจพักผ่อนไม่เพียงพอ เสี่ยงโรคไขมันอุดตัน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง แม้กระทั่งอัมพาต จนอาจโบกมือลาโลกใบนี้ไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวในที่สุด

ฉะนั้นคนที่ทำงานหนักแบบหามรุ่งหามค่ำ เราอยากให้ทำความรู้จักกับโรคคาโรชิ ไว้สักหน่อย ก่อนพลาดป่วยด้วยโรคนี้ไป

เห็นไหมว่าการโหมทำงานอย่างหนักไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นอย่างที่คาดฝันไว้ เสมอไป แต่อาจนำพาสุขภาพพัง ๆ มาถึงเราได้ และหากรู้ตัวว่าบ้างานหนักมาก ก็มาลองเช็กอาการด้วยว่าเรามีความเสี่ยงจะป่วยด้วยโรคต่าง ๆ มากน้อยแค่ไหน โดยเช็กได้จากนี่เลย

สัญญาณนี้แหละใช่ ทำงานหนักเกินไปแล้วชัวร์ ๆ

ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะบริเวณหลัง ไหล่ ท้ายทอย สายตา ปวดศีรษะ และข้อมือ

มีอาการตาพร่ามัว มองเห็นภาพเบลอ โดยเฉพาะหลังจากนั่งทำงานไปแล้วสักพักใหญ่ ๆ

แค่ขยับก็รู้สึกเจ็บ เพราะเกิดอาการเอ็น ข้อ ยึด จากการนั่งติดเก้าอี้เป็นเวลานาน ๆ

หมดพลัง เหมือนไร้เรี่ยวแรงจะลุกไปไหน

ให้ความสนใจแต่เรื่องงาน คิดอะไรก็เป็นเรื่องงานไปซะหมด

บ้างานซะจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว คนใกล้ตัว หรือแม้แต่ตัวเอง

มักจะหอบงานกลับมาทำที่บ้านด้วยเสมอ ๆ

ทำงานจนดึก และมักจะอดนอนเป็นประจำ

อยู่ว่าง ๆ ก็เช็กอีเมลเรื่องงานเป็นประจำ ไม่เว้นแม้แต่ตอนพักผ่อนอยู่ที่บ้าน

พกมือถือของบริษัทติดตัวตลอด หรือมักจะคอยฟังเสียงโทรศัพท์เพราะคิดว่าอาจมีคนติดต่อเรื่องงานเข้ามา

คอยสอดส่องข่าวสารเกี่ยวกับหน้าที่การงาน และมักจะเป็นคนแรก ๆ ที่ได้ข่าวสารเรื่องงานก่อนใคร ๆ

ยอมใช้สมาร์ทโฟนเพื่อจะได้ติดต่อเรื่องงานอย่างสะดวกมากขึ้น นอกจากนั้นก็แทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ เลย

สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น

มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเบื้องต้น เช่น อาการปวดศีรษะ ปวดตา หรือเป็นหวัดไม่หายสักที

มีแนวโน้มดื่มกาแฟมากขึ้นทุกวัน ๆ

บางคนก็เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวใส่เพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะกับคนที่เราคิดว่าเขาทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอย่างที่เราคาดหวัง ไว้

หงุดหงิดง่ายขึ้น มองอะไรก็ไม่สบอารมณ์ ทุกอย่างดูขวางหูขวางตาไปหมด เพราะเครียดกับงานมากเกินไป

หากเช็กสัญญาณแล้วพบว่าตัวเองมีอาการบ้างานมากเกินไปอยู่หลายข้อ แนะนำว่าให้รีบปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองเสียใหม่ จะได้ไม่เป็นการโหมทำงานหนักเกินไปเพื่อเก็บเงินเอาไว้ใช้ในห้อง ICU

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิษฐาน ถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เสริมสิริมงคล ชีวิตเป็นสุขร่มเย็น

เมนู “น้ำพริกเห็ดกรอบสามรส” แบบง่ายๆ หอมกรอบอร่อย เก็บไว้ได้นาน

แจกสูตรน้ำพริกเผาสูตรโบราณ ใส่ต้มยำ ทาขนมปัง คลุกปลาเค็มผักต้ม ทำขายสร้างอาชีพได้เลย

ไก่น้ำแดงแบบง่ายๆ

2สูตรผัดไท ผัดให้อร่อย รสเข้มข้นแทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

น้ำยำเทวดาสูตรนี้อร่อยมาก วิธีการทำน้ำยำ กินกับยำอะไรก็อร่อย

ซองกันชื้นกับ 10 ประโยชน์ ที่ไม่น่าหยิบทิ้ง

พล่าหมูแตงกวา​ (ภาคเหนือ)

สูตร “กะหรี่ปั๊บไส้ไก่” แป้งกรอม อร่อย พร้อมวิธีพับขึ้นชั้นให้สวยงาม

ไข่เค็มมีรอยดำ เกิดจากอะไร ยังควรกินอยู่หรือไม่