เปิดประวัติวัดธาตุทอง จากวัดดังสู่เพลงสุดฮิตอย่าง “ธาตุทองซาวด์”
"Yo นี่คือเสียงจากเด็กวัด" วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเพลง "ธาตุทองซาวด์" เพลงฮิตติดกระแสจากแรปเปอร์มีชื่ออย่าง "YOUNGOHM" ที่ปัจจุบันกวาดยอดวิวไปมากกว่า 50 ล้าน (ณ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2566)
.
ไม่เพียงแค่นั้นยังมีศิลปินมากหน้าหลายตาไม่ว่าจะไทยหรือเทศร่วมแจมกับความมัน(ส์)ของเพลง เช่น มิลลิ ดนุภา, มุกดา นรินทร์รักษ์, NCT DREAM (เอ็นซีที ดรีม) เป็นต้น
.
หลายคนน่าจะทราบว่า "ธาตุทอง" ที่ว่ามาจากชื่อวัด แต่ "วัดธาตุทอง" ในเพลงอยู่ที่ไหน มีประวัติอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
คงต้องย้อนไปช่วงก่อน พ.ศ. 2480 บริเวณพื้นที่เดิมของท่าเรือคลองเตย ตั้งแต่ปลายถนนสุนทรโกษาจนมาถึงปากคลองพระโขนง (คลองหัวลำโพง-แนวถนนพระรามที่ 4) แต่เดิมนั้นมีวัดที่ใครหลายคนอาจไม่คุ้นหูนักอยู่ 4 วัด ได้แก่ วัดหน้าพระธาตุ วัดเงิน วัดทอง และวัดไก่เตี้ย โดยวัดที่เราต้องพูดถึงพิเศษและเป็นจุดกำเนิดของวัดธาตุทอง นั่นก็คือ "วัดหน้าพระธาตุ" และ "วัดทอง"
วัดหน้าพระธาตุ ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นวัดเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนวัดทองก่อตั้งช่วงอยุธยาตอนปลาย มีตำนานเล่าขานกันมาว่า สถานที่ตั้งของวัดดังกล่าวเดิมเป็นสวนผลไม้ที่ "นายทอง" เป็นผู้ได้รับมรดกมาจากบรรพบุรุษ ก่อนที่นายทองจะเห็นว่ากลางสวนมีต้นโพธิ์ตั้งอยู่ ด้วยความกังวลที่มีต้นไม้ที่ควรอยู่ในวัดมาเติบโตบริเวณบ้าน จึงตัดสินใจบริจาคพื้นที่ส่วนนั้นสร้างเป็นวัดเล็ก ๆ ที่ไม่สมบูรณ์นัก
วันเวลาผ่านไปสมภารชาวรามัญรูปหนึ่งนามว่า "กะทอ" ซึ่งแปลว่าปลาตะเพียนทอง (กะ แปลว่า ปลาตะเพียน ทอ แปลว่า ทองในภาษารามัญ) หรือนาย "สมภารทอง" จึงชักชวนชาวบ้านให้มาทำนุบำรุง สร้างอุโบสถ รวมถึงเสนาสนะขึ้น ก่อนจะตั้งชื่อวัดว่า "วัดโพธิ์สุวรรณาราม" หรือวัดโพธิ์ทอง เนื่องจากเจ้าของที่ดินและสมภารนั้นชื่อ ทอง เหมือนกัน และที่แห่งนี้เคยมีต้นโพธิ์
ทว่าภายหลังชาวบ้านกลับเรียกวัดนี้ว่า "วัดทอง" แทนชื่อเดิม หรือบางคนก็เรียกว่า "วัดทองล่าง" เนื่องจากวัดทองมีหลายแห่ง ทั้งด้านบนและล่างแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่วัดทองดังกล่าวอยู่ในตอนล่างจึงเรียกชื่อนั้นมาเพื่อกันความสับสน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองวัดนี้ก็เรียกได้ว่าอยู่คู่ชุมชุนบริเวณนั้นมาอย่างยาวนาน
จนเมื่อ พ.ศ. 2480 รัฐบาลต้องการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือใหม่ในกรุงเทพฯ ทำให้วัดหน้าพระธาตุ และวัดทอง ต้องโยกย้ายพื้นที่ออกไป แต่ก็ยังได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล เพื่อไปสร้างวัดใหม่หรือยุบรวมกับวัดอื่น ๆ
เมื่อได้พื้นที่อันน่าพอใจแล้ว คณะกรรมการจึงได้ทำการย้ายเสนาสนะวัตถุของวัดหน้าพระธาตุ และวัดทองมาปลูกสร้างมายังที่ใหม่ ก่อนสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ จะเป็นองค์อุปถัมภ์ และทรงนำนามวัดหน้าพระธาตุและวัดทองมารวมกัน ประทานเป็นวัดที่เรารู้จักกันในปัจจุบันอย่าง "วัดธาตุทอง"
ปัจจุบัน "วัดธาตุทอง" ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชุมชนอย่างมาก เพราะไม่เพียงแค่เป็นแหล่งรวมใจของศาสนิกชน แต่ยังเป็นที่มาของชื่อโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง โรงเรียนสหศึกษาขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดดังกล่าว และปรากฏบนท่อนเนื้อร้องสุดฮิตในเพลง "ธาตุทองซาวด์" ที่ติดหูผู้ฟังทุกคนจนต้องไปค้นหากันให้ควั่กอีกด้วย

เครดิตแหล่งข้อมูล : silpa-mag.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น