สูตรการทำนี่เก็บไว้ทำเปิดร้านกันได้เลย บอกทุกขั้นตอน ทุกเคล็ดลับ

สวัสดีเพื่อนๆทุกท่าน สำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมหรือจะเป็นอาชีพหลัก เราแนะนำในอาชีพนี้ เป็นอาชีพค้าข า ย กับเมนูข้าวเหนียวห มู ปิ้ ง ที่เป็นมื้ออาหารเช้า หลายๆท่านชอบซื้อทาน เพราะซื้อได้ง่ายมีความอิ่มท้อง และมีรสชาติที่อร่อยให้ทั้งความสะดวกและให้ทั้งความรวดเร็ว

สูตรการทำข้าวเหนียวห มู ปิ้ งเราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ตัวเ นื้ อห มูนั้นจะได้รสชาติที่ดีมีความนุ่มละมุนลิ้น และมีรสชาติของความเข้มข้นเครื่องปรุง ให้รสชาติหวานเค็มที่ดีมากๆ ได้ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ เป็นอาหารมื้อเช้าที่หลายๆท่านได้เลือกรับประทานกัน

โดยส่วนใหญ่แล้วเขาจะข า ยกันอยู่ 2 ช่วงเวลาในช่วงเช้าหรือและในช่วงเย็น สำหรับทำเลที่เหมาะในการขายนี้ ก็จะตามตลาดนัดทั่วไป บริเวณหน้าโรงเรียน หน้าที่ทำงาน หน้าออฟฟิศ คนทำงานที่พักต่างๆ โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่ซื้อก็จะเป็นนักเรียน นักศึกษาและในช่วงวัยทำงาน

ส่วนประกอบในการทำ

1 เ นื้ อ ห มู 5 กก.

2 สัน ค อ 5 กก.

3 มัน ห มู แข็ง 1OO ก.

4 สับปะรดเล็ก 1 ลูก

5 นมสดรสจืด 25O มิลลิลิตร 1 กล่อง

6 ผงฟู 1 ช้อนโต้ะปาด

7 น้ำตาลปีบ 1 ก้อนใหญ่ ชอบหวานมากน้อย กะตามปริมาณ

8 น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ

9 รากผักชี สับ12 ราก

10 กระเทียมไ ท ยสับ 2O เม็ด

11 กระเทียมไ ท ย

12 กระเทียม 5 เม็ด

13 พริกไ ท ย ป่น 2 ช้อนโต้ะ

วิธีการทำ

1 วิธีการนั้นไม่ยากเลย เราบอกหมดทุกขั้นตอน จะเริ่มด้วยการนำเ นื้ อห มู ล้างน้ำทำความสะอาด กระดาษซับให้มีความแห้ง และให้นำมาหั่นเป็นชิ้นใหญ่หน่อย ถ้าหากว่าเราหั่นชิ้นเล็กมากจนเกินไปก็จะทำให้เนื้อมีความเ ล ะได้ จะทำการห มั กกับสับปะรด คนให้ทั่วกันห มั กทิ้งเอาไว้ในตู้เย็น 2-3 ชม. หมักกับสับปะรดเพื่อที่จะช่วยทำให้เนื้อ ห มู มีความนุ่มขึ้น

2 ในระหว่างรอนั้นเราจะมาผสมในตัวผสมของน้ำซอสกันก่อน ละลายน้ำตาลทรายน้ำเปล่าคนให้เข้ากันให้น้ำตาลทรายหมดดี ใส่กระเทียมกับรากผักชีโขลก คนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

3 พอได้ทำการห มั ก เ นื้ อห มู กับสับปะรดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เรานำออกมาจากตู้เย็นแล้วให้ตักสับปะรดออกให้หมดเทน้ำสับปะรดทิ้งไป

4 ทำการเจียวมันห มู ชิ้นเล็กๆเจียวให้พอแข็งสักนิดหน่อย แค่เปลี่ยนสีก็เป็นอันใช้ได้

5 เทนมใส่ลงไปในถ้วยพร้อมกับใส่ผงฟูลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยซอสปรุงรส กระเทียม พริกไ ท ยคนให้เข้ากันดี กับเนื้อห มู เสร็จแล้วให้เรานำเนื้อ ห มู 1 ชิ้นเสียบไม้ มันแข็ง 1 ชิ้นแล้วจะเสียบ แบบนี้สลับกันไป เสร็จแล้วก่อนที่เราจะนำไปย่ า ง นั้นให้แช่เอาไว้ในตู้เย็นนานประมาณ 8 ชม. เพื่อที่จะทำให้มีรสชาติ ของเครื่องปรุงที่ดียิ่งขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วก็ให้นำมา ย่ า งบนเตา ไ ฟอ่อนๆได้เลย

เท่านี้เราก็จะได้ห มู ปิ้ ง หากทำข า ยก็ให้ นึ่ งข้าวเหนียวใส่ถุงขายเป็นชุดๆ ก็จะยิ่งเพิ่มรายได้ที่ดียิ่งขึ้นไป ในสูตรนี้ให้เนื้อ ห มู ที่มีความนุ่มให้รสชาติที่อร่อยเต็มเครื่องปรุง หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆท่านกันนะคะ นำไปสร้างอาชีพกันได้

เรียบเรียง : hostingrc

ขอบคุณข้อมูลจาก : kubkhao

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิษฐาน ถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เสริมสิริมงคล ชีวิตเป็นสุขร่มเย็น

- พฤษภาคม 20, 2566

สำหรับพุทธศาสนิกชนแทบทุกบ้าน จะต้องมีหิ้งพระในบ้าน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เราเคารพบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล ความอุ่นใจในการอยู่อาศัย ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง กับการถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของคนในบ้าน วันนี้เราจึงมีเคล็ดไม่ลับ เกี่ยวกับการถวายน้ำหน้าหิ้งพระในบ้าน ทำอย่างไรให้ถูกวิธี เพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเอง โดยการถวายน้ำ จะต้องเป็นน้ำดื่มปากขวด ที่เรายังไม่เคยดื่มมาก่อน หรือเปิดจากก๊อกเครื่องกรองน้ำโดยตรงก็ได้ น้ำที่ถวาย ควรเทใส่แก้ว ให้เต็มแก้ว แต่อย่าล้นออกมานอกแก้ว เปรียบเสมือนการเต็มเต็มชีวิตให้อุดมสมบูรณ์ ไม่ขาดแคลน ควรเปลี่ยนน้ำในแก้วทุกวัน เพื่อเปรียบเสมือนการรับทรัพย์เข้าบ้าน และไม่ควรปล่อยให้น้ำในแก้วเหือดแห้ง เพราะจะเปรียบเสมือนชีวิตที่เหี่ยวแห้ง อับเฉา คำอธิษฐานในการถวายน้ำหน้าหิ้งพระ "ข้าพเจ้า…(เอ่ยชื่อ – นามสกุล)…ขอถวายน้ำ บูชาแด่องค์พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทวยเทพสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทวาทุกพระองค์ ท่านเจ้าที่เจ้าทาง ปู่โสมเฝ้าท...

แจกสูตรทำ “น้ำยาล้างจาน” จากมะกรูดหลังบ้าน ดีจริง

- มิถุนายน 01, 2566

แจกสูตรทำ “น้ำยาล้างจาน” จากมะกรูดหลังบ้าน ดีจริง ทุกบ้านทุกครัวเรือน แน่นอนว่าจะต้องมีน้ำยาล้างจานติดบ้านไว้เสมอ บางทีน้ำยาล้างจานที่ซื้อมาแป๊บเดียวก็ใช้หมดแล้ว จะดีกว่าไหมหากเราทำน้ำยาล้างจานใช้เองที่บ้านได้ แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกด้วย และแน่นอนว่าทำจากธรรมชาติที่หาได้ตามหลังบ้านเรานี่แหละ ประโยชน์ของมะกรูด 1. ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นเหม็นคาวในห้องน้ำ กลิ่นคาวในอาหาร 2. ช่วยไล่แมลง และยุงได้ 3. ช่วยบำรุงหนังศีรษะ และเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงได้ง่าย ป้องกันการเกิดเชื้อรา บนหนังศีรษะ 4. ช่วยบำรุงผิวพรรณ เนื่องจากในมะกรูด อุดมไปด้วยวิตามินซี จึงทำให้ผิวสุขภาพดี เปล่งปลั่ง สดใส โดยนำผลของมะกรูด ผ่าครึ่ง แล้วนำมาขัดถู บริเวณผิวเป็นประจำ 5. ช่วยดับกลิ่นเท้า โดยนำผลและใบมะกรูด มาต้ม แล้วนำมาแช่เท้า ประมาณ 10-15 นาที ถึงแม้ว่ามะกรูด เป็นสมุนไพร ที่ได้รับความนิยมสูง มาแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะนำมาสระผม บำรุงผิว หรือรับประทาน ซึ่งในปัจจุบัน มะกรูดก็ได้รับความนิยม ไม่แพ้ยุคโบราณเลย เพราะคนไทย ยังคงความนิยม ในการใช้ประโยชน์ จากมะกรูด โดยการนำใบ และผลมาปรุงใ...

วิธีการทำลอดช่อง สุดยอดขนมหวาน ทำทานกินเอง แบบไม่ง้อร้าน

- กุมภาพันธ์ 26, 2565

พอพูดถึงลอดช่องก็อยากจะกินขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่ถ้าจะให้ซื้อมากินเองก็ได้แค่อิ่ม ใครใจถึง ๆ หน่อยลองมาทำลอดช่องกินเองเลยดีกว่า จะได้ประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่า เราสามารถทำลอดช่องกินเองได้นะจ๊ะ วันนี้เราก็มีสูตรลอดช่องจากฝีมือคนไทยในต่างแดนมาฝากจาก คุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม ที่รับรองได้เลยว่า น่ากิน น่าลองทำสุด ๆ แถมยังมีกลเม็ดเคล็ดลับในการทำลอดช่องให้อร่อยมาบอกอีกด้วย ทำทีเดียวได้กินเพลิน ๆ กันทั้งบ้านเลยจ้างานนี้ หมายเหตุ : ลอดช่องน้ำกะทิ 1 ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 210 กิโลแคลอรี่ ส่วนผสม ลอดช่อง 1. ใบเตยหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ปอนด์ (ประมาณ 450 กรัม) 2. น้ำปูนใส 9 1/2 -10 ถ้วย 3. แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย 4. แป้งมันสำปะหลัง 1 ถ้วย 5. แป้งถั่วเขียว 4 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำเย็นจัด 7. น้ำแข็งทุบ ส่วนผสม น้ำกะทิ 1. น้ำตาลปี๊บ 3 1/2 -4 ถ้วย 2. เกลือป่น 1 ช้อนชา 3. กะทิ 5 ถ้วย วิธีทำ ลอดช่องน้ำกะทิ ลอดช่องน้ำกะทิ ขนมไทยดับร้อนสีสันสดใส 1. ทำน้ำกะทิโดย ใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และกะทิลงในอ่างผสม ใช้มือขยำส่วนผสมเข้าด้วยกันจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดี กรองด้วยตะแกรง 2. นำส่วนผสมน้ำกะทิขึ้นตั้งไ...

แจกสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือ งบลงทุนแค่หลักร้อย อร่อยจนทำขายแทบไม่ทัน

- กุมภาพันธ์ 02, 2565

แจกสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือ งบหลักร้อย อร่อยจนทำขายแทบไม่ทัน ถ้าพูดถึงเมนูอร่อยเด็ดนอกจากเมนูข้าวทั้งหลายแล้วก็คงหนีไม่พ้นเมนูเส้นๆ อย่าง "ก๋วยเตี๋ยว" แน่นอน โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่หากอยากกินเจ้าเด็ดเจ้าอร่อยก็ต้องไปถึงท่าแบบที่สมัยก่อนมีเรือพายตามท่านั้น แต่จะให้ลำบากลำบนขนาดนั้นก็ดูจะไม่ไหว ไปหาร้านง่ายๆแล้วที่ทำงานก็ไม่ถูกปาก งั้นวันนี้เราจะมาแจกสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดที่บอกเลยว่ากินแล้วจะติดให้ ทำกินก้ง่าย ทำขายก็รวย! สูตรก๋วยเตี๋ยวเรือคุณตุ๊ก "อาจารย์ตุ๊ก" บอกว่า สำหรับ เงินทุน หรือการลงทุน ถ้าเริ่มต้นลงทุนเพียงแค่วัตถุดิบสด อย่างพวกผัก หมู เส้นต่างๆ กำเงิน 700 บาทก็สามารถทำก๋วยเตี๋ยวขายได้แล้ว การลงทุนครั้งนี้จะสามารถทำก๋วยเตี๋ยวชามเล็ก ชามละ 15 บาท ขายได้ประมาณ 100 ชาม ก็จะได้เงินประมาณ 1,500 บาท สำหรับคนที่ต้องการสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วยังไม่มีสูตร หรือไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน อาจารย์ตุ๊กมีสูตรมาแจกฟรีๆกันด้วยจ้า สูตรก๋วยเตี๋ยวเรือ น้ำซุป หม้อเบอร์ 18 นิ้ว เล้ง 1 กิโลกรัม ซอสภูเขาทอง 300 กรัม ใบเตย กะทิ 1 กิโลกรัม รสดี 12 บาท 1 ซอง ซีอิ๊วดำ 2...

สูตรทำ "พะแนงเนื้อ" หอมกะทิและพริกแกง เผ็ดร้อนครบรส

- สิงหาคม 24, 2565

ถ้าพูดถึง พะแนงเนื้อ กันแล้วทุกคนน่าจะนึกถึงสูตรโบราณในวังกันใช่ไหม? ด้วยกลิ่นหอมของกะทิและพริกแกง เมื่อไรที่ชิมเข้าไปเราจะสัมผัสได้ถึงรสเผ็ดร้อนครบเครื่องอย่างลงตัว และมักจะตามมาด้วยข้าวเปล่าเพิ่มเสมอ ไม่เพียงแค่คนไทยเท่านั้น แม้แต่ชาวต่างชาติเองยังต้องยกนิ้วให้กับเมนูนี้ ในครั้งนี้เราได้นำเอา สูตรทำพะแนงเนื้อ จากคุณ บ่งบ๊ง มาให้เพื่อนๆ ได้ลองทำดู ไปดูส่วนผสมและวิธีการทำได้เลยค่ะ ส่วนผสมพริกแกงพะแนง 1.พริกแห้งเม็ดใหญ่ แช่น้ำให้นิ่ม 10 เม็ด 2.หัวหอมขนาดกลาง 25 กลีบ 3.กระเทียมขนาดกลาง 25 กลีบ 4.พริกไทยป่น 1 ช้อนชา 5.ข่าหั่นบาง 1 ช้อนชา 6.ตะไคร้หั่น 1 ช้อนคาว 7.ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา 8.รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา 9.ยี่หร่าป่น 1 ช้อนชา 10.ลูกผักชีป่น 1 ช้อนชา 11.กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ 12.เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ หมายเหตุ - หรือใช้พริกแกงเผ็ด 2 ขีด ผสมพริกแกงมัสมั่น 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำพริกแกง โขลกพริกแห้งกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระเทียม หอมแดง โขลกต่อให้ละเอียด ใส่กะปิ พริกไทย รากผักชี ลูกผักชีป่น ...

วิธีทำ “หมี่กะทิสีชมพู” เมนูอาหารไทย เส้นหมี่สีชมพูแสนหวาน หอมมันอร่อยกลมกล่อม

- เมษายน 06, 2566

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้มีขอเสนอเมนูอาหารไทยแบบเส้นมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือหมี่กะทิสีชมพู นั่นเองค่ะ เป็นสูตรจากคุณtukata001 สมาชิกเว็บพันทิป เส้นหมี่สีชมพูแสนหวาน หอมมันอร่อยกลมกล่อม ทำไม่ยากเลยค่ะ มาดูส่วนผสมและขั้นตอนกันเลย *ส่วนผสม **ขั้นตอน มาเริ่มด้วยการตีไข่ทอดบนกระทะเทปล่อน แบน ๆ นะคะ แล้วก็ม้วนไข่ ตักขึ้นค่ะ นำมาซอยฝอย ๆ พักไว้ก่อน นำกะทิ 1 ถ้วยตั้งเตาไฟกลาง แล้วเอาหอมแดงสับ มาผัดค่ะ ใส่กุ้งสับ และหมูสับลงผักรวมกันให้สุกค่ะ ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก ใส่พริกป่น ใส่น้ำตาลปี๊บค่ะ หั่นเต้าหู้เป็นลูกเต๋า เต้าหู้แข็งนะคะ ใส่ผัดรวมกันค่ะ ชิมรสดู หวาน เปรี้ยว เค็ม รสชาติคล้ายเต้าเจี้ยวหลนค่ะ เสร็จแล้วค่ะ น้ำกะทิราดบนเส้นหมี่ สีชมพู ต่อไปเรามาผักเส้นกันดีกว่าค่ะ นำกะทิอีก1 ถ้วย ตั้งไฟ รอเดือดแล้วเราจะใส่ซอสค่ะ นำซอสเมะเขือเทศ และซอสเย็นตาโฟ มาผสมกันค่ะ แล้วใส่ในกระทะ เราจะได้กะทิสีชมพู สวย ๆ แบบนี้ค่ะ นำเส้นแช่น้ำ อย่าแช่นานนะคะ พอนิ่มพอ แล้วสรงขึ้น ให้แห้งน้ำ แล้วนำมาผัดกับกะทิสีชมพูของเราได้เลยค่ะ เวลาผักเส้นหมี่ให้ใช้สองตะหลิว ช่วยยกเส้นขึ้นสูง ๆ แบบนี้นะคะ แล้วปล่อย เส้นเ...

ตามหาสูตรมานาน วิธีทำ“ปลาส้มตัวสูตรโบราณ” สูตรนี้เป็นสูตรที่สามารถทำรับประทานได้ง่ายๆที่บ้าน

- มกราคม 16, 2565

ตามหาสูตรมานาน ปลาส้ม ที่ทำเองได้ไม่ยาก สุดท้ายก็ตามหาเจอ การถนอมอาหาร ภูมิปัญญาพื้นบ้านสืบทอดกันมายาวนาน โดยถิ่นผลิตดั้งเดิมตือภาคอีสานของไทย ซึ่งปัจจุบันแพร่กระจายทำในทุกภาค และต่างมีสูตรที่แตกต่างกัน ทั้งการเลือกใช้ชนิดปลา และส่วนผสม จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ปลาส้มหลายแบบในแต่ละท้องถิ่น วัตถุดิบ 1. เนื้อปลาหรือตัวปลา 10-20 กิโลกรัม 2. กระเทียมสับ 1 กิโลกรัม 3. ข้าวเหนียวนึ่ง 1 กิโลกรัม 4. น้ำซาวข้าว 0.5 ลิตร (อาจไม่ใช้ก็ได้) 5. เกลือ 300 กรัม (ประมาณ 1 กำมือ) 6. น้ำตาล 5-10 ช้อน 7. ผงชูรส 2-3 ช้อน ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ 1. ขอดเกล็ด และควักไส้ ก่อนล้างทำความสะอาด 1-2 น้ำ – ปลาส้มตัว หลังจากขอดเกล็ด ควักไส้ และล้างทำความสะอาด อาจตัดหัวออกหรือไม่ต้องตัดหัวก็ได้ – ปลาส้มแผ่น ให้แล่เอาเนื้อปลาออกจากกระดูกเป็นแผ่นๆ จากนั้นเลาะเอาก้างขนาดใหญ่ออก หรือไม่ต้องเลาะเอาก้างขนาดใหญ่ออกก็ได้ – ปลาส้มชิ้น/ปลาส้มสับ ให้นำแผ่นปลาที่เลาะออกจากก้างมาสับเป็นชิ้นๆขนาดใหญ่ แต่ขนาดเล็กกว่าปลาส้มแผ่น ซึ่งอาจเลาะเอาก้างขนาดใหญ่ออกหรือไม่เอาออกก็ได้ – ปลาส้มฟัก/ปลาส้มบด หมายถึง หลังแล่เนื้อปลา ให้เลาะเอาก้า...

สูตร “ขนมเปี๊ยะสายรุ้งไส้เผือก” สีสันสวยงาม ไส้เผือกหอมๆ แป้งนุ่มอร่อยมาก

- มกราคม 10, 2566

วันนี้มีสูตรการทำขนมเปี๊ยะสายรุ้งไส้เผือกมาแบ่งปันค่ะ สูตรจากป้ามารายห์ สมาชิกเว็บพันทิป ขนมเปี๊ยะสายรุ้งไส้เผือก สีสันสวยงามมากๆ มีทั้งวิธีกวนไส้เผือก และวิธีรีดเปี๊ยะกุหลาบให้ออกมาเป็นชั้นสวยงาม ลองทำตามกันดูนะคะ เผื่อจะเป็นขนมทางเลือกในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์อีกเมนูค่ะ *ส่วนผสม ไส้เผือกกวน 1.เผือก 1 กิโลกรัม 2.น้ำตาลทราย 300 กรัม 3.เกลือ 1 ช.ช. 4.หัวกะทิ 300 ml 5.วิปปิ้งครีม ริชส์ กรูเมต์ ทรีโอ 300 ml ส่วนผสมแป้งชั้นนอก 1.แป้งสาลี (แป้งซาลาเปา หรือแป้งบัวแดงนะคะ) 400 กรัม 2.น้ำมันรำข้าว 120 กรัม 3.น้ำ 120 กรัม 4.น้ำตาลทราย 70 กรัม 5.เกลือป่น ¼ ช.ช. 6.วิปปิ้งครีม ริชส์ กรูเมต์ ทรีโอ 80 ml ส่วนผสมแป้งชั้นใน 1.แป้งสาลี 400 กรัม 2.น้ำมันรำข้าว 150 กรัม **ขั้นตอน ขั้นตอนการทำไส้เผือกกวน 1.นำเผือกหั่นชิ้นพอดี นึ่งประมาณ 25 นาที จากนั้นนำเผือกที่นึ่งสุกมาบดให้ละเอียด 2.ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น หัวกะทิ และ วิปปิ้งครีม ริชส์ กรูเมต์ ทรีโอ วิปปิ้งครีมสูตรไม่หวานลงไป จากนั้นกวนด้วยไฟอ่อนจนไส้ร่อนจากกระทะ จากนั้นพักไว้ให้เย็นสนิทค่ะ 3.พอเย็นแล้วนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆน้ำหนักลกละ 40 กรัม ก...

แจกสูตรน้ำพริกกะปิ 4 สูตร อร่อยสุดยอด ชนิดที่ไม่ผิดหวังแน่นอน

- กุมภาพันธ์ 04, 2565

แจกสูตรเด็ด!! "น้ำพริกกะปิ 4 สูตร" อร่อยสุดยอด ชนิดที่ไม่ผิดหวังแน่นอน!! น้ำพริกกะปิ 4 สูตร การทำให้อร่อยนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมก่อนก็คือ กะปิอย่างดี กระเทียมต้องกลีบเล็กๆๆจะได้หอมและพริกขี้หนูสวนรวมทั้งการใช้นำ้ตาลมะพร้าว และมะนาวสดๆ หหากต้องการลูกเล่นเพิ่มเติมกลิ่นได้เช่นการใช้ลูกกระสังข์ไส้ในมาโขลกด้วยกลิ่นของลูกกระสังข์จะช่วยเพิ่มรสชาติที่หอมเย็นและถ้าบางท่านชอบมะม่วงสดโขลกผสมก็จะได้น้ำพริกมะม่วงซึ่งการหาวัตถุดิบเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพืชผักในท้องถ่นที่มีอยู่ น้ำพริกกะปิ (สูตร 1) เครื่องปรุง กะปิห่อใส่ใบตองเผาไฟพอหอม 300 กรัม กุ้งแห้งป่น 200 กรัม กระเทียมสดแกะเปลือก 100 กรัม พริกขี้หนูสวน 50-70 กรัม มะเขือเปราะเอาเมล็ดออกซอยเป็นเสี้ยว ๆ 50 กรัม มะอึกซอยละเอียด 50 กรัม น้ำมะนาว 6-8 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2-4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปีบ 3-5 ช้อนโต๊ะ วิธีปรุง นำกะปิโขลกกับกระเทียม พริกขี้หนู พอเริ่มละเอียดใส่กุ้งแห้งป่นโขลกต่อให้เข้ากัน ใส่มะเขือเปราะ มะอึก ใช้สากค่อย ๆ โขลกเบา ๆ เคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปีบให้ทั้งสามรสคลอ ๆ กันไป หวานตามหลังนิดหน่อย บางรายใส่ผิวมะนาวซอยล...

เมนูสุดฟิน‼️หมูกรอบสูตรง่าย เร่งด่วน ไม่จิ้ม ไม่ตาก ไม่ต้ม ไม่แช่น้ำส้ม ไม่กลัวน้ำมันกระเด็น |ครัวแม่ผึ้ง

- กุมภาพันธ์ 11, 2565

ค้นหาบล็อกนี้

สูตรอาหาร เมนูอาหาร