ไขปริศนา วุ้นเส้น ต้องล้างก่อนทำไหม โซเชียลถกสนั่น... ที่แท้เส้นผมบังภูเขา !

 

 คนโพสต์ถาม วุ้นเส้นยี่ห้อดัง ก่อนทำอาหารต้องล้างออกไหม งานนี้โซเชียลถกสนั่น บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องล้าง เรื่องเล็ก ๆ ที่พอมาตั้งคำถามแล้วก็ได้แต่คิดว่า...เออ...นั่นสิ งานนี้มีเฉลย รู้ได้เลยไม่ใกล้ไม่ไกล

วุ้นเส้น


          เรียกได้ว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนก็นึกไม่ถึงด้วยซ้ำ เมื่อเฟซบุ๊ก Tana Bee ได้โพสต์ภาพและข้อความลงกลุ่มงานบ้านที่รัก เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 เป็นภาพวุ้นเส้นยี่ห้อดัง พร้อมถามว่า "สอบถามนอกเรื่องหน่อยคับ อันนี้เกี่ยวกับงานบ้านป่าวไม่รู้ วุ้นเส้นแบบนี้ ซื้อมาเวลาจะเอามาทาน ต้องล้างก่อนมั้ยคับ" งานนี้หลายคนถึงกับเข้ามางุนงง เพราะบางคนก็แทบไม่เคยล้างเลย และไม่เคยสังเกตเลยด้วยควรล้างก่อน บางคนก็บอกว่าล้าง เพราะกลิ่นเหม็นมาก


          อย่างไรก็ตาม คำแนะนำเกี่ยวกับการปรุงอาหารด้านหลังซองของวุ้นเส้นระบุชัดเจนว่า "ล้างเส้นด้วยน้ำสะอาดก่อนนำไปปรุงอาหาร"

โพสต์


          ทั้งนี้ เพจเคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว เคยให้ความรู้เกี่ยวกับวุ้นเส้นสดว่า  ปกติอาหารที่เป็นวุ้นเส้นสด เส้นหมี่สดนั้นจะมีการเติมสารประกอบ sulfite อยู่แล้ว เพื่อต้านการหืน และป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นที่เป็นสาเหตุทำให้อาหารเน่าเสีย และกำจัดสารนี้ได้โดยการล้างออก หรือลวกทิ้งก่อนนำมาทำอาหาร

          สำหรับสารดังกล่าวมีเอกลักษณ์คือเมื่อโดนความชื้นหรือน้ำร้อน หรือมีสภาวะที่เป็นกรดจะส่งกลิ่นเหม็นฉุนเฉียวของแก๊ส Sulfur dioxide (SO₂) ออกมา ปกติแล้วพิษของก๊าซ SO₂ ในปริมาณ 8 ppm (ส่วนในล้านส่วน) จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองของระบบหายใจ และในปริมาณ 20 ppm จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา เป็นสารก่อภูมิแพ้ (food allergen) ถ้ารับประทานเข้าไปไม่มาก ร่างกายก็สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ แต่ถ้ามีมากเกินไปจะมีผลไปลดประสิทธิภาพการใช้โปรตีน และไขมันในร่างกายของคนเราและมีฤทธิ์ทำลายวิตามิน B1 ด้วย
โดยถ้า SO₂ สะสมในร่างกายมาก ๆ อาจทำให้หายใจ ติดขัด ปวดท้อง ท้องร่วง เวียนศีรษะ อาเจียน หมดสติ และอาจตายได้ในผู้ที่แพ้มากหรือเป็นหอบหืด

วุ้นเส้น


          เนื่องจากสารในกลุ่ม sulfite นั้นมีพิษและเป็นสารก่อภูมิแพ้ จาก #พระราชบัญญัติอาหารของกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดการใช้เกลือซัลไฟต์/ เกลือไบซัลไฟต์ของโซเดียมและโพแทสเซียมเป็นอาหารควบคุมเฉพาะ ต้องมีคุณภาพเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 381) พ.ศ. 2559 เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร(ฉบับที่ 4) และได้กำหนดปริมาณการใช้ของสารดังกล่าวในอาหารบางชนิด ได้แก่ น้ำตาลทราย น้ำตาลมะพร้าว วุ้นเส้น เส้นหมี่ เส้นก๋วยเตี๋ยว แอพริคอตแห้ง ลูกเกต กุ้งเยือกแข็ง เนื้อกุ้งดิบ ฯลฯ โดยที่องค์การอนามัยโลกกำหนดค่าความปลอดภัยไว้ คือ ปริมาณที่ได้รับต้องไม่เกิน 0.7 มิลลิกรัม/คน/วัน

          ดังนั้นก่อนที่จะทำอาหารที่มีการถนอมคุณภาพด้วย sulfite นั้นจึงควรทำการลวกทิ้งด้วยน้ำเดือด หรือล้างทิ้งด้วยน้ำประปาก็สามารถลดปริมาณ sulfite ได้ดีเลย อย่าถึงขนาดต้องแกะจากห่อแล้วนำมารวนหรือผัดเลยทันทีเลยนะ

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์

คอมเมนต์


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Tana Bee เฟซบุ๊ก เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิษฐาน ถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เสริมสิริมงคล ชีวิตเป็นสุขร่มเย็น

เมนู “น้ำพริกเห็ดกรอบสามรส” แบบง่ายๆ หอมกรอบอร่อย เก็บไว้ได้นาน

แจกสูตรน้ำพริกเผาสูตรโบราณ ใส่ต้มยำ ทาขนมปัง คลุกปลาเค็มผักต้ม ทำขายสร้างอาชีพได้เลย

ไก่น้ำแดงแบบง่ายๆ

2สูตรผัดไท ผัดให้อร่อย รสเข้มข้นแทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

น้ำยำเทวดาสูตรนี้อร่อยมาก วิธีการทำน้ำยำ กินกับยำอะไรก็อร่อย

ซองกันชื้นกับ 10 ประโยชน์ ที่ไม่น่าหยิบทิ้ง

พล่าหมูแตงกวา​ (ภาคเหนือ)

สูตร “กะหรี่ปั๊บไส้ไก่” แป้งกรอม อร่อย พร้อมวิธีพับขึ้นชั้นให้สวยงาม

ไข่เค็มมีรอยดำ เกิดจากอะไร ยังควรกินอยู่หรือไม่