สูตรปลาร้าหลนเครื่องจิ้มสูตรต้นตำรับ เมนูอาหารลดน้ำหนัก ทำง่ายกินง่าย

 

สูตรปลาร้าหลนเครื่องจิ้มสูตรต้นตำรับ เมนูอาหารลดน้ำหนัก ทำง่ายกินง่าย

"ปลาร้า" บางคนแค่ได้ยินชื่อก็น้ำลายสอแล้ว เราสามารถนำปลาร้าไปปรุงอาหารได้ตั้งแต่น้ำพริก ส้มตำ ทอด นึ่ง เผา แล้วแต่ขนาดของปลาร้า รวมถึงเมนูหลนซึ่งปัจจุบันหาทานยากแล้วนะคะ วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอเมนูปลาร้าหลน สูตรจาก คุณ Overeat สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เป็นอาหารพื้นบ้านไทยที่หาทานยากยิ่งนัก ใครสนใจอยากทำทานเป็นเมนูลดน้ำหนักในมื้อเย็นก็ได้นะคะ เพราะมีผักสดเป็นผักเคียงหลากหลายชนิดเลยค่ะ รับรองว่าแคลอรีไม่พุ่งปรี๊ดแน่นอน

<< ชายกางเข้าครัว ... ปลาร้าหลน >> โดย คุณ Overeat สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ในช่วงเข้าหน้าฝนแบบนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อนตามท้องร่องเรือกสวนที่มีร่องน้ำสำหรับรดน้ำให้น้ำไม้ผลกันในย่านบางกอกน้อย บางขุนนนท์มักมีปลาเล็กปลาน้อยจำพวกปลากระดี่ ปลาหมอตะกรับ หมอไทย กระดี๊กระด๊าใช้หางตีน้ำเพียะ ๆ กันเป็นฝูง เป็นที่มาของคำว่ากระดี่ได้น้ำ ปลากระดี่พวกนี้ชอบไปรวมตัวกันปลายสวนซึ่งเป็นสระกระจับด้านหนึ่ง อีกด้านจะปล่อยโล่ง น้ำมีระดับลึกพอสมควรเพราะเป็นเสมือนอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ในสวนนั่นเอง โดยใช้ต้นมะพร้าวขุดทั้งต้นจนทะลุเป็นท่อธรรมชาติ ต่อน้ำจากลำประโดงสาธารณะ นำน้ำเข้ามาในสวน คนสวนชอบนำสวิงใหญ่ ๆ ไปแช่ไว้ก้นบ่อ รอจนปลากระดี่มารวมกันฮุบอากาศให้เป็นฝูงใหญ่ก็จะยกสวิงขึ้นมา ติดมาเกือบทั้งฝูงนั่นเลย ปลากระดี่ตัวโตหน่อยจะย่างคาบตับ คือ แหวกตัวและหัว ควักไส้ทิ้ง เคล้าเกลือทะเลป่นบาง ๆ ผ่าไม้ไผ่มาคีบปลาเป็นไม้ไม้ละ 5-7 ตัว ย่างรมควันกาบมะพร้าวจนสุกเหลืองทอง กินกับน้ำปลาบีบมะนาวพริกขี้หนู แค่นี้ก็อร่อยแล้ว แต่จะดีที่สุดคือ น้ำปลา พริกขี้หนูซอย มะกอกซอย ใส่น้ำตาลปี๊บ กินข้าวราวแหกหม้อ

ปลากระดี่ตัวเล็ก ๆ คุณยายจะให้ช่วยกันตัดหัว ควักไส้ออก เคล้าเกลือทะเลป่น เรียงปลากระดี่เป็นวง ให้ครีบเกยกันจับเป็นวงกลม ตากแดดให้แห้งทั้งสองด้านแล้วมาทอดกรอบ ๆ กินแนมกับแกงเผ็ดนั้นชั้นเลิศ กินแบบแนมกับข้าวคลุกน้ำพริกรสจัด ๆ นั้นชั้นเยี่ยม หรือกินเล่น ๆ ก็ชั้นยอด ในร่องสวนนั้นมีมากพอกิน แต่ถ้าช้อนจากในคลองบางกอกน้อยแล้วจะได้มากเป็นถัง ๆ ก็จะนำมาหมักเป็นปลาร้ากันแบบพอกินพอแจกกันให้สนุก ตามธรรมเนียมวัฒนธรรมแกงข้ามรั้ว แบ่งปันเจือจาน ซึ่งในสมัยนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว อยู่บ้านติดกันยังไม่รู้จักกันเลยก็มีถมเถไป

ปลาร้าปลากระดี่แบบภาคกลางจะใส่เกลือทะเลป่นและข้าวคั่วเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นปลาร้าของทางภาคอีสานจะเป็นปลาเล็กปลาน้อยสารพัด หมักเกลือและรำเป็นหลัก เพราะฉะนั้นกลิ่นและรสของปลาร้าทั้งสองแหล่งนี้จะต่างกันเล็กน้อยตามวัตถุดิบและเครื่องประกอบ ปลาร้าปลากระดี่นั้นเวลาทำกับข้าวมักจะมีตามสำรับวงข้าวชาวภาคกลางคือพวกเครื่องจิ้มประเภทหลน ซึ่งปลาร้าหลนนั้นจะเป็นรองก็แค่เต้าเจี้ยวหลนเท่านั้นเองนะครับ ด้วยเครื่องเคราจะมากกว่าเต้าเจี้ยวหลนเล็กน้อยแต่ถ้ากลิ่นและรสแล้วชายกางให้ปลาร้าหลนกินขาด

วันนี้ชายกางมาชวนเข้าครัวทำกับข้าวไทย ๆ แบบในสมัยก่อนแท้ ๆ ที่กินมาตั้งแต่เด็ก ก็คือปลาร้าหลนในวันนี้นี่เองครับ โลกและเวลาที่เร่งรัดในสมัยนี้ ทำให้ไม่ได้หวังว่าใครจะต้องทำตามให้ได้แต่อยากจะฝากอาหารไทยพื้นบ้านดั้งเดิม กับข้าวไทยแท้ในสำรับที่กินมาตั้งแต่เด็กจนทำเองได้เรื่อยมา

ส่วนผสม น้ำปลาร้าเกรอะ

• ปลาร้าปลากระดี่ 500 กรัม

• หางกะทิ

• ตะไคร้หั่นแฉลบ 1 ถ้วย

• ข่าแก่หั่นแว่น 10 ชิ้น

• ใบมะกรูดฉีก 10 ใบ

วิธีทำน้ำปลาร้าเกรอะ

นำปลาร้าใส่หม้อ เติมหางกะทิลงไปให้ท่วมปลาร้า ใส่ตะไคร้หั่นแฉลบ ข่าหั่นแว่น และใบมะกรูดฉีกลงไปในหม้อ

นำไปตั้งไฟกลางจนเดือด เคี่ยวประมาณ 5 นาที ปลาร้าก็จะเปื่อยยุ่ยได้ที่ (วิธีนี้เรียกว่า เกรอะปลาร้าคือ การนำปลาร้ามาต้มและเคี่ยวในน้ำเดือดแล้วกรองเอาก้างออกไป จะมีแค่เนื้อปลาละเอียดยิบกับน้ำปลาร้าที่ไหลลงหม้อเก็บเท่านั้น แต่การเกรอะปลาร้าเพื่อนำมาทำหลนนั้น จะพิเศษกว่าหน่อยตรงที่เราต้องดับคาวปลาร้า แถมเพิ่มรสและกลิ่นในตัวน้ำปลาร้านี้ไว้ด้วย)

นำกระชอนมากรองเอากากทิ้งไป

เราก็จะได้น้ำปลาร้าหอม ๆ รสเค็มจัดจ้านในตัว

ส่วนผสม เครื่องหลน

• ตะไคร้ซอยละเอียด 1 ถ้วย

• ข่าอ่อนหั่น 1/2 ถ้วย

• หัวกะทิ 1 กิโลกรัม

• ใบมะกรูดซอยละเอียด 1/4 ถ้วย

• หมูสับ 1/2 กิโลกรัม

• ข้าวหมาก 1 ถ้วย

• ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ

• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ

• น้ำมะขามเปียกคั้นเข้มข้น 3 ช้อนโต๊ะ

• พริกชี้ฟ้าสีเขียว สีแดง และสีเหลืองหั่นหนา 1 1/2 ถ้วย

• หอมแดงซอย 2 ถ้วย

• พริกขี้หนูสวน

วิธีทำ

นำตะไคร้กับข่าอ่อนไปโขลกรวมกันพอละเอียดดี ตักขึ้นเตรียมไว้

นำหัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟ ใส่เครื่องโขลกลงไปคนให้เข้ากัน

พอกะทิเริ่มเดือด ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไปให้หอม

เบาไฟลงแล้วใส่หมูสับลงไป คนให้หมูกระจายไปกับกะทิ

ใส่ข้าวหมากลงไปคนให้เข้ากัน (ข้าวหมากจะให้รสหวานกลมกล่อม เป็นตัวประสานให้ทุกรสมารวมกันและเพิ่มเนื้อสัมผัสให้กับหลน)

ใส่น้ำปลาร้าเกรอะลงไปครึ่งหนึ่งก่อน เพราะรสเค็มมาก

ใส่ผงปรุงรสลงไป

ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนให้เข้ากัน

ใส่น้ำมะขามเปียกคั้นข้น ๆ ลงไป

ถ้ารสไม่เค็มให้เติมน้ำปลาร้าลงไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้รสกลมกล่อม แต่ทุกรสชาติจะต้องเข้ม ปรุงรสตามชอบได้เลย

ใส่พริกชีฟ้าหั่น

ใส่หอมแดงซอย

ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยลงไปคนให้เข้ากัน

โรยพริกขี้หนูสวนเป็นลูกโดดลงไปเป็นลำดับสุดท้าย ปิดไฟ

ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย จัดเสิร์ฟพร้อมผักสด

ผักสด ได้แก่ ขมิ้นขาว ใบมะกอกอ่อน แตงกวา มะเขือเปราะ ถั่วพู มะเขือเจ้าพระยา และมะเขือตอแหล

เริ่มชิมกันเบา ๆ จนข้าวหมดจาน

ปลาร้าหลน อาหารไทยโบราณหาทานยากแล้วค่ะ ลองมาทำทานเองง่าย ๆ ที่บ้านดีกว่า ถ้าเพื่อน ๆ ทำตามขั้นตอนมาเรื่อย ๆ ก็จะรู้เลยว่า มันไม่ยาก ถ้าอาจเพิ่มผักสดอย่างถั่วฝักยาวหรือหน่อไม้เข้าไปได้ด้วย สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักห้ามพลาดนะคะ อาจเปลี่ยนจากหมูสับเป็นเห็ดใส่ลงไปและทานคู่กับข้าวกล้อง หรือว่าทานคู่กับผักสดเพียงอย่างเดียวก็ได้ ถ้าหากอยากใส่ปลาดุกเพิ่มลงไปก็ได้ค่ะ เรียกว่า ปลาร้าทรงเครื่อง

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Overeat สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำอธิษฐาน ถวายน้ำหน้าหิ้งพระ เสริมสิริมงคล ชีวิตเป็นสุขร่มเย็น

เมนู “น้ำพริกเห็ดกรอบสามรส” แบบง่ายๆ หอมกรอบอร่อย เก็บไว้ได้นาน

แจกสูตรน้ำพริกเผาสูตรโบราณ ใส่ต้มยำ ทาขนมปัง คลุกปลาเค็มผักต้ม ทำขายสร้างอาชีพได้เลย

ไก่น้ำแดงแบบง่ายๆ

2สูตรผัดไท ผัดให้อร่อย รสเข้มข้นแทบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

น้ำยำเทวดาสูตรนี้อร่อยมาก วิธีการทำน้ำยำ กินกับยำอะไรก็อร่อย

ซองกันชื้นกับ 10 ประโยชน์ ที่ไม่น่าหยิบทิ้ง

พล่าหมูแตงกวา​ (ภาคเหนือ)

สูตร “กะหรี่ปั๊บไส้ไก่” แป้งกรอม อร่อย พร้อมวิธีพับขึ้นชั้นให้สวยงาม

ไข่เค็มมีรอยดำ เกิดจากอะไร ยังควรกินอยู่หรือไม่